วิลเลี่ยม แบรดลีย์ พิตต์ หรือที่เรารู้จักกันในนาม แบรด พิตต์ เป็นนักแสดงชายชาวอเมริกัน เขาถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์จากภาพยนตร์เรื่อง 12 Monkeys (1995) ปีเดียวกับที่นิตยสารพีเพิ่ลยกให้เป็น "ผู้ชายที่เซ็กซี่ที่สุด (ที่ยังมีชีวิตอยู่)" และยังเป็นผู้อำนวยการสร้างในนาม Plan B Entertainment ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง พิตต์เพิ่งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม โดยประกบเคท แบลนเช็ต ใน BABEL ของอเลแจนโดร กอนซาเลซ อินาริตู และเป็นหนึ่งในคณะนักแสดงที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Screen Actors Guild Award สาขา Outstanding Performance by a Motion Picture Cast ด้วย
แบรด พิตต์ เกิดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2506 ที่เมืองชอว์นีย์ รัฐโอคลาโฮมา เขาเป็นคนโตในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 3 คน บิดาเป็นผู้บริหารธุรกิจขนส่งทางรถบรรทุก ชื่อ บิล พิตต์ และ มารดาชื่อ เจน พิตต์ ที่ปรึกษาผู้ปกครอง แบรด ชีวิตวัยเด็กของเขาไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเด็ก ๆ ในแถบตะวันตกตอนกลางของอเมริกา รูปร่างหน้าตาของเขาก็ไม่ได้ทำให้เขามีอะไรพิเศษไปกว่าคนอื่น ๆ สมัยที่เรียนไฮสคูล พิตต์เล่นกีฬาหลายประเภทและเคยโต้วาทีในชั้นเรียน นอกจากนี้เขายังทำกิจกรรมเกี่ยวกับทางด้านดนตรีด้วย
พอจบไฮสคูล แบรดย้ายไปเรียนวารสารศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยมิสซูรี่ในสาขาเกี่ยวกับหนังสือพิมพ์และโฆษณา ก่อนจบการศึกษาจนเหลืออีกเพียงสองหน่วยกิต ในช่วงที่เรียนอยู่พิตต์ไปสมัครเป็นนายแบบที่บริษัทโมเดลลิ่งแห่งหนึ่ง แล้วก็ได้รับการติดต่อให้โฆษณากางเกงยีนส์ลีวายส์ลงในนิตยสาร หลังจากนั้นก็มีงานโฆษณาติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ จนกระทั่งเขาออกจากมหาวิทยาลัยแล้วก็ย้ายไปที่แคลิฟอร์เนีย
แบรดต้องขับรถลิมูซีน ในช่วงที่ยังไม่มีชื่อเสียง หรือไม่ก็สวมชุดเป็นการ์ตูนมาสค็อต ต้อนรับเด็ก ๆ ให้เครือร้านไก่ทอดชื่อดังร้านหนึ่ง และแล้วชีวิตเขาก็เปลี่ยนไป เมื่อเขาได้รับบทจอมโจรผู้ฉกปล้นหัวใจและเงินตรา ในเรื่อง Thelma & Louise และมีผลงานออกมามากมาย ทั้ง A River Runs Through It, Interview with a Vampire และ Seven
พิตต์เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ จากบททริสตั้น ชายหนุ่มเลือดร้อนที่มีความมุ่งมั่นแรงกล้าใน Legends of the Fall เมื่อปี 1994 สองปีหลังจากนั้นเขาก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์
เขาได้รับรางวัลออสการ์ จากบทบาทในภาพยนตร์ เรื่อง 12 Monkeys (1995) ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่ นิตยสารพีเพิล ระบุชื่อเขาเป็น “ผู้ชายที่เซ็กซี่ที่สุด (ที่ยังมีชีวิตอยู่)” แบรด พิตต์ ยังคงได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง หลังจากนั้นพิตต์ก็เป็นยกย่องจากบทบาทนำแสดงของเขาใน Se7en กับ Fight Club ของเดวิด ฟินเชอร์, Seven Years in Tibet ของฌ็อง ชาร์ค แอนนัด, และ Snatch ของกาย ริทชี่ เขายังร่วมแสดงกับจอร์จ คลูนี่, จูเลีย โรเบิตส์, แม็ทต์ เดม่อน, ดอน ชี้ดเดิ้ล, และเบอร์นี่ แม็ค ใน Ocean's Eleven ภาพยนตร์รวมดาวดาราที่สตีเว่น โซเดอร์เบิร์ก หยิบหนังเก่ามาปัดฝุ่นสร้างขึ้นใหม่และได้รับความนิยมอย่างสูง ซึ่งพิตต์ก็กลับมารับบทเดิมใน Ocean's Twelve ซึ่งนักแสดงจากภาคแรกยังคงกลับมาร่วมแสดงให้สตีเว่น โซเดอร์เบิร์ก กำกับกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
นอกจากนั้นพิตต์ยังร่วมแสดงใน Spy Game ของโทนี่ สก็อต ที่นำแสดงโดยโรเบิร์ต เรดฟอร์ด, The Mexican ของกอร์ เวอร์บินสกี้ ที่นำแสดงกับจูเลีย โรเบิร์ต และเจมส์ แกนดอลฟินี่ นำแสดงใน Meet Joe Black ของมาร์ติน เบรสท์, The Devil's Own ของอลัน เจ แพ็คคิวล่า, Sleepers ของแบร์รี่ เลวินสัน, True romance ของโทนี่ สก็อต, Cool World ของราล์ฟ บาคชี่, และ Johnny Suede ที่ได้รับรางวัล Best Picture จาก Locarno International Film Festival เมื่อปี 1991 ด้วย พิตต์ยังยอมรับแสดงบทเล็ก ๆ ใน Full Frontal ของโซเดอร์เบิร์ก, และ Confessions of a Dangerous Mind ของจอร์จ คลูนี่ ด้วย
พิตต์ ร่วมแสดงในภาพยนตร์ที่ต่างกันสุดขั้วสองเรื่องคือ Ocean's Thirteen ซึ่งเขากลับมารับบทเดิมเป็นรัสตี้ ไรอั้น, กับ The Assassination of Jesse James by the Coward Robert Ford ของแอนดรู โดมินิค ซึ่งเขารับบทนำแสดงเป็นเจสซี่ เจมส์ และยังเป็นผู้อำนวยการสร้างด้วย หลังจากนั้นเขาก็จะนำแสดงใน The Curious Case of Benjamin Button ผลงานสุดโรแมนติคหลุดโลกแฟนตาซีที่จะได้ร่วมแสดงกับเคท แบลนเช็ต อีกครั้ง และจะได้ร่วมงานกับผู้กำกับภาพยนตร์เดวิด ฟินเชอร์ เป็นเรื่องที่สามด้วย โดยวางแผนไว้ว่าจะออกฉายในเดือนพฤษภาคมปี 2008 ช่วงปลายปีนี้เขาก็ยังจะไปร่วมแสดงใน Burn After Reading ผลงานตลกร้ายของพี่น้องโคเอ็น ที่จะนำแสดงโดยจอร์จ คลูนี่ และฟรานเซส แม็คดอร์มานด์ แล้วเขาก็ยังจะเข้ากล้องร่วมแสดงใน State of Play ที่สร้างอ้างอิงจากภาพยนตร์ชุดของ BBC ชื่อเดียวกันอีกด้วย
ด้านชีวิตส่วนตัว แบรด พิตต์เคยหมั้นอยู่กับกวินเน็ธ พัลโทรว์ เป็นเวลาสามปี ต่อมาใช้ชีวิตคู่กับ เจนนิเฟอร์ อนิสตัน เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2000 และต่อมาก็เลิกรากันในเดือนมกราคม 2005 หลังจากนั้นเขาก็ได้มาใช้ชีวิตร่วมกับแอนเจลีนา โจลี มีลูกด้วยกันทั้งหมด 6 คน มีลูกบุญธรรม 3 คนคือแม็ดด็อกซ์, แพ็กซ์ เทียน และสะฮารา รวมถึงลูกสาวคนโตแท้ ๆ อย่างไชโลห์ และฝาแฝดหญิง น็อกซ์ และ วิเวียน อีกสองคนที่เกิดจากเขาและแองเจลินา โจลี แต่แล้วเขากับแองเจลินา โจลีก็ตัดสินใจแยกทางกันไปเมื่อปี 2016