ไจ คอร์ทนีย์ กลายเป็นนักแสดงที่ต้องการตัวมากที่สุด หลังได้รับการคัดเลือกให้มาแสดงคู่กับสองนักแสดงชื่อดังแห่งฮอลลีวูด ในภาพยนตร์เรื่อง Jack Reacher นำแสดงโดย ทอม ครูซ และเรื่อง A Good Day to Die Hard
ไจได้รับการคัดเลือกให้มารับบทตำรวจสายลับคู่กับโจเอล เอ็ดเกอร์ตัน และทอม วิลคินสัน ในเรื่อง Felony ซึ่งเป็นเรื่องราวของตำรวจผู้ติดเหรียญกล้าหาญ (เอ็ดเกอร์ตัน) ที่ปั่นจักรยานบนถนนหลังดื่มฉลองการทลายแก๊งค์ใหญ่กับเพื่อนได้ การกลับคำให้การเรื่องอุบัติเหตุของเขาได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของทุกคนไปตลอดกาล
ไจเกิดและโตที่ทางตอนเหนือของซิดนีย์ เขามีพัฒนาการด้านการแสดงในช่วงแรกที่นั่น เขามีส่วนร่วมในการสนับสนุนแผนการแสดงละครสำหรับเด็กวัยรุ่น ทำให้เขามาออดิชั่นที่ National Institute of Dramatic Art หลังจมไฮสคูล ในปี 2004 ไจร่วมงานที่ Western Australian Academy of Performing Arts (WAAPA) ซึ่งเป็นสถาบันที่ได้รับการนับถือในเพิร์ธที่มีฮิวจ์ แจ็คแมน และฮีธ เลดเจอร์ ผู้ล่วงลับไปแล้วเป็นศิษย์เก่า เขาสำเร็จการศึกษาที่นั่นปี 2008
ไจเป็นนักแสดงรับเชิญในการแสดงของชาวออสเตรเลียยอดนิยม 2 เรื่อง Packed to the Rafters และ All Saints อย่างรวดเร็ว หลังจากปีนั้นเขาได้รับรางวัล Theatre Critics Award สาขานักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากการแสดงในเรื่อง The Turning ที่ Perth Theatre Company ในปี 2009 ไจได้รับบท แวร์โร ที่ต้องการมากที่สุดในทีวีซีรี่ส์ยอดนิยม เรื่อง Spartacus: Blood and Sand ตัวละครของแวร์โรสนิทกับสปาร์ทาคัสมากที่สุด จนกระทั่งเขาเสียชีวิตลงในตอนที่ 10 แฟนๆ การแสดงเกิดความไม่พอใจกับการตายของแวร์โร และยังไว้อาลัยให้กับการตายของเขาจนถึงทุกวันนี้บนเว็บไซต์และบล็อกแฟน Spartacus หลายแห่ง
ต่อมาไจแสดงภาพยนตร์ของ Paramount เรื่อง Jack Reacher คู่กับทอม ครูซ และเวอร์เนอร์ เฮอร์ซ็อก ภาพยนตร์ระทึกขวัญกำกับโดย คริสโตเฟอร์ แม็คควอร์รี่ เป็นเรื่องราวการสอบสวนเหตุฆาตกรรมของคนทั้ง 5 ที่เสียชีวิตอย่างไม่มีแบบแผน แต่ผลไม่เป็นอย่างที่พวกเขาเห็นในท้ายที่สุด
หลังภาพยนตร์เรื่อง Jack Reacher ไจได้แสดงภาพยนตร์ของ Lionsgate เรื่อง I, Frankenstein คู่กับอารอน แอ็คฮาร์ตโดยทันที ภาพยนตร์เป็นการพลิกเรื่องราวคลาสสิคสยองขวัญ โดยไจรับบทเป็นผู้นำหนึ่งในสองลัทธิที่ต่อกรกันอย่างไม่รู้จบ โดยมีปีศาจไร้วิญญาณแฟรงเกนสไตน์อยู่ท่ามกลางพวกเขา ภาพยนตร์กำกับโดยสจ๊วต บีตตี้
ไจสร้างผลงานอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสร้างกระแสและรณรงค์หากองทุนผลิตภาพยนตร์สารคดีเรื่องยาว Be Here Now เกี่ยวกับแอนดี้ วิตฟิล์ด เพื่อนผู้ล่วงลับไปแล้วของเขาที่เสียชีวิตเมื่อ 18 เดือนหลังถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง non-Hodgkin แอนดี้ต้องการให้ภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้มีประโยชน์และเป็นกำลังใจให้ผู้อื่นที่กำลังต่อสู้กับโรคมะเร็ง หรืออุปสรรคใดๆ ในชีวิต ภาพยนตร์สารคดีควบคุมโดย ลิลี่เบ็ต ฟอสเตอร์ ผู้สร้างภาพยนตร์สารคดีที่เข้าชิงรางวัล Academy Award