หลังจากใช้เวลาหลายปีแต่งซิงเกิลฮิตให้กับศิลปินที่โด่งดังที่สุดแห่งแวดวงดนตรีหลายราย ในที่สุด เอสเตอร์ ดีน ผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงห้ารางวัลแกรมมี อวอร์ด หนึ่งในนักแต่งเพลงฮิตผู้เป็นที่ต้องการตัวสูงสุดในวงการดนตรี ก็พร้อมจะก้าวมาอยู่ใต้แสงสปอตไลท์ด้วยตัวเองแล้ว เธอได้แต่งซิงเกิลท็อปเท็นหลายเพลงในทุกแนว และในปี 2012 เธอก็ได้เพิ่มผลงานแสดงจอเงินและ EP ชื่อเดียวกับตัวเองในลิสต์ความสำเร็จของเธอด้วย
ดีน ผู้คู่ควรกับคำว่า ทริปเปิล ทรีท มีบุคลิกที่โดดเด่น น่าชื่นชม ที่ทำให้การเปลี่ยนแปลงจากหลังจอสู่หน้าจอของเธอเป็นไปตามธรรมชาติ
หลังจากเซ็นสัญญากับค่ายเพลงอินเตอร์สโคป เรคคอร์ดส์ และได้ร็อค เนชันของเจย์ซีเป็นผู้จัดการ ดีนก็กลายเป็นดาราดัง เจ้าของเสียงที่โดดเด่นและมีความหลากหลายที่สุดคนหนึ่งในวงการดนตรี ซึ่งเธอสามารถร้องเพลงด้วยเสียงแหบพร่าหรือแผ่วเบาได้โดยไม่สูญเสียอารมณ์ที่ถ่ายทอดออกมา
ดีนเริ่มต้นปี 2012 ด้วยการปรากฏตัวในแทร็ค Invincible ของแมชชีน กัน เคลลี และเธอก็ตั้งใจที่จะทำให้ปี 2012 เป็นปีทองอีกปีของเธอในฐานะศิลปิน ระหว่างทำงานในสตูดิโอกับศิลปินคนอื่นๆ เธอก็ได้บันทึกเสียงสำหรับ EP โซโลของเธอด้วย ดีนได้ร่วมมือกับสวีดิช เฮาส์ มาเฟีย ทีมโปรดักชันชื่อดังในแทร็ค Bam Bam ซึ่งนำเสนอสไตล์เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอผสมผสานกับจังหวะคึกคักและหนึ่งในท่อนฮุคที่เป็นเครื่องหมายการค้าของเธอ
สตูดิโอแห่งนี้ไม่ใช่เพียงที่เดียวที่ดีนได้แสดงถึงความสามารถมากล้นของเธอ ดีนได้พากย์เสียงไซเรนในภาพยนตร์ยอดนิยมเรื่อง Ice Age: Continental Drift ที่เธอได้ร่วมแต่งเพลงไตเติลของเรื่องในชื่อ We Are อีกด้วย
ศิลปินชาวโอคลาโฮมาผู้นี้ได้แสดงถึงความสามารถและพรสวรรค์หลากหลายที่จะแต่งเพลงป๊อปยอดนิยมตั้งแต่ปี 2009 เมื่อ Drop It Low ซิงเกิลแรกของเธอที่ฟีเจอริงคริส บราวน์ ประสบความสำเร็จในบิลบอร์ด ท็อป 40 ซิงเกิลนี้ ที่เดิมทีบันทึกไว้สำหรับสารคดีของเลอบรอน เจมส์เรื่อง More Than a Game แสดงถึงพรสวรรค์ด้านการร้องเพลงที่ไม่อาจปฏิเสธได้และบุคลิกที่โดดเด่นของเธอ
หลังจากความสำเร็จในการเปิดตัวในฐานะนักร้องเมื่อปีก่อนหน้านี้ ปี 2010 ก็พิสูจน์ให้เห็นว่าพรสวรรค์ของดีนได้ครอบคลุมไปไกลเกินกว่าสตูดิโอบันทึกเสียงเมื่อเธอได้ปลุกกระแสในชาร์ตด้วยผลงานของเธอในฐานะนักแต่งเพลง ผลงานที่เธอร่วมงานกับริฮันนา (Rude Boy, What's My Name?), เคที เพอร์รี (Firework) และโรบิน ธิค (Sex Therapy) ขึ้นถึงอันดับหนึ่งในบิลบอร์ด ชาร์ต โดยเพลง Firework และ What's My Name ได้ขึ้นถึงอันดับ 1 และ 2 ตามลำดับ นอกจากนี้ ดีนยังมีส่วนร่วมในการทำงานในอัลบัมโดยอัชเชอร์, แมรี เจ. บลายจ์, คริส บราวน์ และโมนิกา ซึ่งส่งผลให้เธอได้รับการเสนอชื่อชิงห้ารางวัลแกรมมี
ความสำเร็จของดีนยังคงเดินหน้าต่อเนื่องมาถึงปี 2011 เมื่อเธอได้ร่วมแต่งเพลงอัพบีท Super Bass ที่ได้ถูกรวมอยู่ในอัลบัม Pink Friday ของนิคกี้ มินัจ ศิลปินป๊อปชื่อดัง เพลงนี้ช่วยตอกย้ำสถานะของดีนในฐานะหนึ่บงในนักแต่งเพลงที่ได้รับการยกย่องและเป็นที่ต้องการตัวสูงสุดในวงการ โดยที่เพลง Super Bass ขึ้นถึงอันดับ 3 ในบิลบอร์ด ฮ็อต 100 ของอเมริกา ไม่นานหลังจากนั้น เธอก็ได้ส่งเพลง Let It Grow มารวมอยู่ในอัลบัมซาวน์แทร็คของภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องราวที่เป็นที่รักของดร.ซุสเรื่อง The Lorax การทำงานจอเงินของเธอยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องด้วยคอเมดีอนิเมชันเรื่อง Rio ที่เธอได้ร้องเพลง Let Me Take You to Rio และ Take You to Rio
ด้วยความสำเร็จมากมายทั้งในอดีต และในอนาคตที่จะมาถึง ดีนเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นและเธอก็ตั้งตารอที่จะได้เข้าถึงผู้ชมในวงกว้างมากกว่าเดิม