หลังจากจบอักษรศาสตร์ จุฬา ปริญญาตรี (รุ่นเดียวกับผุสชา โทณะวนิก และพิไลวรรณบุญล้น นี่ไม่ได้เจตนาเพื่ออ้างอิงอย่างใด แต่เพื่อเป็นแนวทางในการคำนวณอายุเท่านั้น...) ตอน นั้น จบออกมาไม่ค่อยแน่ใจว่าจะทำอะไรดี มีงานอะไรก็ทำ คือในรุ่นอักษรศาสตร์ ถ้าสวยเลิศก็จะไปเป็นแอร์โฮสเตส ถ้าขยันก็จะไปเป็นเลขาชั้นดี ไปทำสำนักพระราชวังบ้าง กระทรวงการต่างประเทศ สถานฑูตบ้าง ซึ่งตอนนั้นก็เลือกไม่ถูกว่าจะอยู่กลุ่มใดดี จะทาง สวย ...หรือทาง ขยัน ... ! ดังนั้นจึงตัดสินใจเลือกเส้นทางชีวิตของตัวเองขึ้น โดยไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
หันหน้าทำอาชีพแรกด้วยการมุ่งกระจายความรู้สู่เด็ก โดยเป็นอาจารย์สอนหนัง สือ กวดวิชาเข้ามหาวิทยาลัย เป็นเวลา 1 ปีเห็นจะได้ แต่เนื่องจากปัญหาสุขภาพ พลานา มัย ต้องดื่มใบบัวบกทุกวัน อมฮอลล์ก็ไม่หาย เพราะแสบคอ พูดเรื่องเดิมวันละ3 รอบ ทุกวันๆ จึงหันเหความสนใจไปสู่งานชิ้นใหม่ทันที ...
งานนี้ค่อนข้างโกอินเตอร์ เพราะเป็น PR อยู่โรงแรม SIAM INTERCONTINENTAL ทั้งเขียนข่าวภาคไทยและอังกฤษ ออกงาน (ไฮโซ) พบปะผู้คนมากมาย อยู่ประมาณ 3 ปี แต่ความไฟแรงที่มีอยู่ในตัวอย่างเต็มปรี่ จึงอยากทำอะไรที่...แบบว่า...มากกว่านั้น
จนมาลงเอยที่บริษัทโฆษณาชั้นนำ ทำในสายงานครีเอทีฟบริษัทโฆษณามาตลอด ตั้งแต่Copy Writer , Senior Copy Writer , Associate Creative Director ,แล้วก็ Creative Director เรียกว่าอยู่วงการนี้มานาน...นานมาก
แล้วอยู่มา(เช้า)ตรู่วันนึง ของปี2000 ก็อยากพ้นสภาพหน้าที่การเป็น Creative Directorพอดีรู้จักกับคุณ จิน่า และคุณ จิระ แห่ง หับโห้หิ้น ตอนทำงานโฆษณา ถึงกระนั้นจึงชักชวนให้มาทำเป็นผู้กำกับโฆษณา (ซะเลย) ระหว่างนั้นก็จะได้รับเกียรติจากคุณสิน ยงยุทธ และคุณจิระ ให้อ่านบทภาพยนตร์ ช่วย Comment ให้ความเห็นต่างๆ จนรู้สึกได้ว่าตัวเองเป็นธรรมชาติมาก ณ เวลาอยู่กับงานภาพยนตร์...