คาเรน โรเซนเฟลต (ผู้อำนวยการสร้าง) ได้นำเสนอภาพยนตร์ที่ประสบผลสำเร็จทางบ็อกซ์ ออฟฟิศ อย่างมากมาย และล่าสุดภาพยนตร์มหากาพย์แวมไพร์ซีรี่ย์เมื่อไม่นานมานี้ เรื่อง Twilight ที่สร้างขึ้นจากหนังสือยอดนิยมของทั่วโลก โดยสเตฟานี่ เมเยอร์ และในช่วงเริ่มต้นของภาพยนตร์ Twilight, ภาคแรก กวาดรายได้มากกว่า 392 ล้านจากทั่วโลก และตามมาด้วยปีถัดมาที่ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จมากกว่า ในภาคต่อของภาพยนตร์สุดฮิตเรื่อง The Twilight Saga: New Moon ที่มากกว่าภาพยนตร์ภาคแรกในบ็อกซ์ ออฟฟิศภายในประเทศ
และมีรายได้จากการฉายในเดือนพฤศจิกายน 2009 และต่อจากนั้นในภาพยนตร์เรื่อง The Twilight Saga: Eclipse, ภาพยนตร์ภาคที่ 3 ของซีรี่ย์ และกวาดรายได้สูงสุดด้วยรายได้บ็อกซ์ ออฟฟิศทั่วโลกที่มากกว่า 689 ล้านดอลลาร์ ทำให้เป็นหนึ่งในภาพยนตร์แฟรนไชนส์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฮอลลีวูด ภาพยนตร์ภาคที่ 4 ของแฟรนไชนส์ร่วมสมัยเรื่อง The Twilight Saga: Breaking Dawn ภาค 1, มีกำหนดฉายในเดือนพฤศจิกายน 2011 พร้อมด้วยภาค 2 ที่มีกำหนดในอีก 1 ปีถัดมา ในช่วง 4 ปีที่แล้ว โรเซนเฟลต์ยังอำนวยการสร้างหรืออำนวยการสร้างบริหารภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงมาแล้วหลายเรื่อง รวมไปถึงภาพยนตร์ผลงานของเดวิด แฟรนเคล เรื่อง The Devil Wears Prada, แสดงโดย เมริล สตรีพ และ แอน แฮทธะเวย์ และอ้างอิงจากนวนิยายที่ขายดีที่สุดเรื่อง Marley & Me, สร้างขึ้นจากหนังสือยอดนิยมของจอห์น โกรแกน และแสดงโดยโอเว่น วิลสัน และ เจนนิเฟอร์ อนิสตัน ภาพยนตร์คอมเมดี้ที่กำลังจะฉายเรื่อง The Big Year, แสดงโดยวิลสัน, แจ็ค แบล็ค และ สตีฟ มาร์ติน
ซึ่งจะเป็นสัญลักษณ์แห่งการร่วมงานกันเป็นครั้งที่ 3 ของเธอและแฟรนเคล โรเซนเฟลต์ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างบริหารในภาพยนตร์เรื่อง Alvin and the Chipmunks และ Alvin and the Chipmunks: The Squeakquel, และอำนวยการสร้างเรื่อง Percy Jackson & the Olympians: The Lightning Thief, ที่กำกับโดยคริส โคลัมบัส และอ้างอิงจากหนังสือขายดีที่สุดที่ได้รับคำชมเชยของริค ริออร์แดน โรเซนเฟลต์เป็นผู้มากประสบการณ์แห่งฮอลลีวูดในรุ่นที่ 2 ตามรอยเท้าแฟรงค์ โรเซนฟลต์ พ่อของเธอที่มีชื่อเสียงและความเป็นมาอย่างยาวนาน ร่วมกับ MGM Studios ที่เขาเติบโตขึ้นกลายเป็นรองประธานของ MGM/UA ในปี 1980 เธอเริ่มเส้นทางอาชีพของเธอที่บริษัทดูแลศิลปินอันมีชื่อเสียงที่สุดของอุตสาหกรรม ICM โดยเธอทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของตัวแทน ซู เมนเกอร์ส ต่อมาเธอกลายเป็นผู้บริหารสร้างสรรค์ที่ Jerry Weintraub Productions และเป็นรองประธานอาวุโสที่ MGM จากนั้นเธอได้เดินหน้าต่อเนื่องไปที่ Paramount Pictures โดยตลอดช่วงความสำเร็จ 15 ปีในฐานะหนึ่งในผู้อำนวยการสร้างบริหารของสตูดิโอ เธอพัฒนาภาพยนตร์หลายเรื่อง เช่น Save the Last Dance, Coach Carter, Mean Girls, Lemony Snickets Series of Unfortunate Events, Indecent Proposal, The First Wives Club, Runaway Bride และ The Generals Daughter โรเซนเฟลต์ยังยังมีองค์ประกอบสำคัญในการริเริ่มการร่วมมือเป็นหุ้นส่วนกับ Paramount ร่วมกับภาพยนตร์ของนิคเคโลเดียน ควบคุมการดัดแปลงภาพยนตร์ อย่างทรัพย์สินทางปัญญาสาขาโทรทัศน์ ของนิคเคโลเดียนอย่างเรื่อง Rugrats และ SpongeBob SquarePants ภาพยนตร์เรื่องอื่นของนิคเคโลเดียนภายใต้ขอบเขต ยังรวมถึงเรื่อง Jimmy Neutron, Snow Day และ Harriet the Spy ตามมาด้วยการดำเนินงานอย่างยาวนานของเธอที่ Paramount, โรเซนเฟลต์ได้ผันเข้าสู่การส้รางภาพยนตร์อินดี้ในปี 2006 ด้วยข้อตกลงที่ FOX 2000 และ Twentieth Century Fox.