เฉลิม ทวีบท เกิดเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2498 เป็นชาว จ. หนองบัวลำภู มีพี่น้อง 4 คน เขาป่วยด้วยโรค Ectodermal dysplasia ซึ่งเป็นโรคทางกรรมพันธุ์ ที่ทำให้หน้าตาของคนที่เป็นโรค ดูแปลกประหลาดผิดมนุษย์ โรคนี้เป็นที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า "โรคสังข์ทอง" ตามชื่อของสังข์ทอง สีใส นักร้องลูกทุ่ง และนักแสดงชื่อดังผู้ล่วงลับ ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่เปิดทางให้คนที่เป็นโรคเดียวกันกับเขามากมาย ได้ก้าวเข้ามาโลดแล่นในวงการบันเทิงฟ้าเมืองไทย
เฉลิม ทวีบท ก่อนจะมาโด่งดังในระดับประเทศเคยใช้ชื่อว่า เต๋อ อุดร เป็นดาวตลกที่เริ่มชื่อเสียงขึ้นมาในยุคใกล้เคียงคณะเชิญยิ้ม เขาเคยอยู่กับตลกหลายคณะ ก่อนที่ท้ายที่สุด จะมาตั้งคณะตลกเป็นของตนเอง โดยใช้ชื่อเดียวกับเจ้าตัวคือคณะ "เอ็ดดี้ ผีน่ารัก" เขาเป็นเจ้าของวลียอดฮิต " ไม่จะบายยยย " กับ " ต๊อแต๊ " ที่ไม่มีใครสามารถพูดอย่างได้อารมณ์เท่ากับเขา โดยชื่อ “ เอ็ดดี้ “ นั้น กรุง ศรีวิไล ซึ่งมีชื่อเล่นว่า “ เอ็ดดี้ “ บอกว่าได้นำมาจากชื่อเล่นของเขานั่นเอง
นอกจากผลงานการแสดงตลกแล้ว เอ็ดดี้ ผีน่ารัก ยังฝากผลงานไว้ในรูปของภาพยนตร์หลายเรื่อง เช่น ครอบครัวตัวดำ, มากับพระ, Delivery Sexy Love และหลวงพี่เท่ง
ในส่วนของผลงานเพลง เอ็ดดี้ ผีน่ารัก ก็ทำผลงานเพลงลูกทุ่งออกมาหลายชุดเช่นกัน แต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ก็น่าจะเป็นผลงานเพลงชุดแรกที่ชื่อชุด " เอ็ดดี้ ผีต๊อแต๊ " " ในสังกัด ท็อปไลน์มิวสิค ที่มีเพลงดังอย่าง " ต๊อแต๊ " และ " ผีไม่สบาย "
เอ๊ดดี้ ผีน่ารัก เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการผลักดัน " โก๊ะตี๋ ผีน่ารัก " หรือ โก๊ะตี๋ อารามบอย เข้ามาประทับวงการบันเทิงไทย
แม้จะมีหน้าตาแปลกประหลาด แต่เอ็ดดี้ ผีน่ารัก ก็ไม่อาภัพในเรื่องความรัก เพราะเขาสมรสกับนางน้อย ทวีบท วัย 46 ปี และมีบุตรด้วยกัน 3 คน เป็น ชาย 2 และหญิง 1 (จุ๋ม - โจ - แจ็ค) ก่อนที่จะมาอยู่กินกับนางรุ่งลาวัลย์ ทวยจันทร์ วัย 36 ปี โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส เพราะยังไม่ได้หย่าขาดจากภรรยาคนแรก ทั้งคู่มีบุตรด้วยกันอีก 1 คน คือ นายจักรกฤษณ์ ทวีบท (เจ) อายุ 16 ปี
เอ็ดดี้ ผีน่ารัก ถูกนำตัวส่งโรงปทุมเวช อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 14 พฤศจิกายน 2551 เมื่อเกิดอาการปวดหลังอย่างรุนแรง และเหนื่อยหอบ หลังแสดงตลกในงานลอยกระทงที่จัดโดยลุงยุ้ย ลุยสวน ที่วัดเขาพระ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ก่อนที่จะมีอาการหนักวันที่ 17 และถูกย้ายมาที่โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ย่านมีนบุรีเมื่อ 20 พฤศจิกายน เนื่องจากครอบครัวแบกรับภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหว
เขาเสียชีวิตขณะมีวัย 53 ปี เมื่อเวลา 07.20 น. ของวันที่ 24 พฤศจิกายน 2551 ด้วยโรคมะเร็งปอด ที่ลามมายังกระดูกสันหลัง และแกนสมอง ขณะพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ในโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค
ศพถูกนำไปประกอบพิธีสวดอภิธรรมเป็นเวลา 7 วันที่วัดมูลจินดาราม คลอง 5 ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ พระราชทานพวงมาลาวางหน้าหีบศพ และมีพิธีพระราชทานเพลิงศพเมื่อ 1 ธันวาคม เวลา 16.00 น.