ว่ากันว่า หยวนหวู่ปิง คือผู้กำกับคิวบู๊อันดับหนึ่งของโลกในปัจจุบัน เขาฝึกฝนกังฟูตั้งแต่เด็กภายใต้การดูแลของคุณพ่อ ซึ่งเป็นนักแสดงที่เป็นที่ยอมรับในวงการหนังแอ็คชั่น จนทศวรรษ 60 เขาย้ายไปฮ่องกงและสั่งสมประสบการณ์ด้วยการเป็นสตันท์แมน ผลงานเรื่องแรกของเขาในการกำกับคิวบู๊คือ Mad Killer (1971) หลังจากนั้นเขาก็ได้ก่อตั้งบริษัทของตัวเองขึ้นมา และมุ่งหน้าสู่การสร้างหนังแอ็คชั่นสุดคลาสสิกในเวลาต่อมาปี 1978 หยวนกำกับหนังเรื่องแรก Snake in the Eagle's Shadow โดยเป็นหนังที่ให้กำเนิด เฉินหลง แอ็คชั่นสตาร์แถวหน้าคนหนึ่งของโลก ภาพยนตร์เรื่องที่สองคือ Drunken Master ที่นำแสดงโดย เฉินหลง โดยทั้งสองเรื่องก็ถือเป็นตัวแทนของวงการหนังแอ็คชั่นจีนในช่วงทศวรรษที่ 70 ต่อมาในปี 1984 หยวนได้กำกับหนังกังฟูอีกเรื่องชื่อ Drunken Tai Chi ซึ่งทำให้ค้นพบแอ็คชั่นสตาร์ประดับวงการอีกดวงอย่าง ดอนนี่ เยน ก่อนที่เยนจะปรากฏตัวในหนังของหยวนหวู่ปิงอีก เช่น Iron Monkey หนังกำลังภายเรื่องยิ่งใหญ่ที่ผู้กำกับ เควนติน ทารันทิโน่ ยกย่องและเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายในตลาดหนังอเมริกา ต่อมาเขาได้กำกับหนังแอ็คชั่น-ดราม่า เรื่อง In the Line of Duty 4 นำแสดงโดย มิเชล โหยว
ในไม่ช้าชื่อเสียงของ หยวนหวู่ปิง ก็ได้รับความสนใจจากฮอลลิวู้ด โดยผลงานของเขา Fist of Legend ทำให้สองพี่น้องวาโชสกี้เชิญชวนเขาออกแบบฉากต่อสู้ให้กับ The Matrix (1999) ซึ่งจากความสำเร็จอย่างท่วมท้นก็ทำให้หยวนติดลม และรับหน้าที่กำกับคิวบู๊ให้กับภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Crouching Tiger Hidden Dragon (2000) และ Kill Bill Vol. 1 & 2 ของ เควนติน ทารันติโน่ รวมถึง The Forbidden Kingdom นำแสดงโดย หลี่เหลียงเจี๋ย และเฉินหลง
ภาพยนตร์เรื่อง True Legend ถือเป็นโปรเจ็คในฝันของ หยวนหวู่ปิง และทำให้เขาตัดสินใจกลับมาทำหน้าที่เป็นผู้กำกับ เป็นครั้งแรก หลังจากที่เขากำกับหนังเรื่องสุดท้ายในปี 1996 Iron Monkey 2