น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์์

"บี" ใช้หัวใจมองความรัก เป็นโสดชีวิตมีสุข

แฟน ๆ ติดงอมแงมทั้งบ้านทั้งเมืองสำหรับละคร “เรือนเสน่หา” ทางช่อง 5 ที่มีนางเอกสาว บี-น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ มารับบท ชมนาด พลิกบทเล่นร้ายสุดขั้ว กระแสแรงขนาดนี้ ดาวต่างมุม เลยไม่พลาดนัดคิวสาวบีมาพูดคุยถึงชีวิตในวงการบันเทิงที่นับนิ้วไปมาแล้วก็ 16 ปี ทำงานทุกอย่างตั้งแต่ นักร้อง พิธีกร นางแบบ นักแสดง เลยอยากรู้สักหน่อยชีวิตของสาวสวยคนนี้เติบโตและเปลี่ยนแปลงมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะเรื่องหัวใจปล่อยว่างต่อไปหรือมีใครอาสามาดามใจแล้วอัพเดทให้แฟน ๆ ได้รู้กันหน่อย

ที่มา: เดลินิวส์

คำถาม	บทร้ายลึกในเรือนเสน่หา เป็นยังไงบ้าง?
บี	กระแสละครเรือนเสน่หากระแสดีมากไม่คิดว่าคนจะดูเยอะขนาดนี้ เขาชอบที่บีเล่นอะไรที่เปลี่ยนไป บทบีจะร้ายนิ่ง ๆ เราก็ไม่รู้หรอกจะออกมาดีมั้ย พอเล่นออกมาปุ๊บคนก็รู้สึกว่าเราเปลี่ยนคาแรกเตอร์ดี ร้ายลึก บีว่ายากนะ เราไม่รู้ว่าร้ายนิ่งนี่มีความพอดียังไง แล้วเราควรจะสื่อสารมาให้คนดูเห็นประมาณไหน ด้วยบทดีมาก หน้าไหว้พระ มือถือสากปากถือศีล แต่จริง ๆ ร้ายฆ่าคน บียอมรับว่าเครียดเหมือนกันแต่ชอบมากเพราะไม่ได้เล่นแบบนี้บ่อย ๆ ใส่ชุดไทยพีเรียดเรื่องแรก ชอบมากค่ะ แล้วละครถ่ายไปออกอากาศไปด้วย ทำให้เราได้ดูเช็กผลงานได้เห็นข้อบกพร่องด้วยซึ่งยังมีอยู่ บีไม่เคยคิดว่าตัวเองเล่นละครดีมาก คิดตลอดว่าทำยังไงให้พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวันนี้ใครมาชมว่าเล่นดีจะรู้สึกว่าเรายังไม่ดีพอ ยังต้องพัฒนาต่อไป ทุกงานกดดัน เพราะมีทั้งคนติและคนชมเป็นธรรมดาอยู่แล้ว แต่เราก็ไม่สามารถไปบอกว่าใครรักเราได้ ฉะนั้นเราต้องย้อนกลับมาดูเราว่าเราดีแล้วหรือยัง แล้วต่อให้คนชมว่าดีเราก็ต้องพัฒนาเรื่อย ๆ ไม่หยุดอยู่กับที่”
คำถาม	บีอยู่ในวงการมากี่ปีแล้ว?
บี	“ไม่อยากนับนิ้วเลยว่า 16 ปีแล้วนะ (หัวเราะ) ก่อนเข้าวงการเต็ม ๆ บีถ่ายแบบ เดินแบบมาก่อน ค่อยมาเป็นนักร้อง แล้วก็ต่อมาเป็นนักแสดง ทำมาทุกอย่างจริง ๆ อยู่ในวงการเราเข้ามาอยู่ตั้งแต่เด็ก 14-15 ปี มันทำให้เราเรียนรู้การวางตัว การรู้จักเข้าสังคม รู้ว่าใครเป็นยังไง ทุกวงการมีทั้งดีและไม่ดีถูกมั้ยคะ แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราจะยืนอยู่ตรงไหน แล้วเราจะทำตัวอย่างไร สำหรับบีอาจไม่ใช่คนดีมาก เราก็คน มีรัก โลภ โกรธ หลง เป็นธรรมดา แต่เรารู้สึกว่าการที่จะทำอะไรก็แล้วแต่ อย่าทำคนอื่นเดือดร้อน”

คำถาม	เด็กใหม่เข้ามาในวงการเรื่อย ๆ กลัวคลื่นลูกใหม่มั้ย?
บี	“ถามว่าทุกวันนี้รู้สึกแฮปปี้มั้ย ณ จุดตรงนี้ แฮปปี้นะ แต่เราเองต้องพัฒนาฝีมือเราไปเรื่อย ๆ ไม่ใช่อยู่กับที่ ถ้าคนบอกว่าดีแล้วเหรอ มันต้องดีกว่านี้นะ เรามีศักยภาพทำให้ผลงานเราพัฒนาขึ้นไป เรื่อย ๆ ถ้าถามตอนนี้คนก็อาจจะมองว่าบีเป็นนักแสดง ไม่ว่าจะเล่นบทอะไรก็แล้วแต่ เราต้องทำให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นตัวดีหรือร้ายอะไรก็ได้ ขอแค่บทนั้นมีอะไรที่หลากหลายแล้วทำให้เราได้แสดงศักยภาพทางการแสดงของเรา สำหรับบีอยู่ในวงการมา 16 ปีแล้ว รู้สึกว่าบีแฮปปี้ดีที่เป็นแบบนี้ วงการนี้มีทั้งคนที่จริงใจและคนเฟค ฉะนั้นเราจะเลือกคบแต่คนที่จริงใจ ถ้าเฟคปุ๊บเราเฟสตัวออกมาเลย อยู่วงการนี้เหมือนมีภูมิคุ้มกันนะ บางทีเจอคนที่เฟคใส่จะรู้ได้ทันที รู้ว่าคุยได้แค่นี้ มันมีทุกวงการ แต่เพราะบันเทิงจะชัดเพราะมีแสงสีเสียงเยอะ บีเป็นคนมีเซนส์รู้เลย เราจะมีช่องว่างให้กับคนประเภทนั้น คนสไตล์นี้มีเยอะแต่อยู่ที่ตัวเราจะดำรงชีวิตยังไง”
คำถาม	การทำงานต้องมีปัญหาต่าง ๆ มีอะไรที่ทำให้ท้อบ้าง?
บี	“ส่วนใหญ่ปัญหาเรื่องงาน ถ้าบีเครียดจริง ๆ จะน้ำหนักลดเลย ช่วงเล่นละคร “มารยาริษยา” กินอะไรไม่ลง มีปัญหาอื่น ๆในชีวิตด้วย แต่ดีเหมือนกัน ช่วงนั้นทำให้เราคิดพอเรามีปัญหาก็คิดบวกมากขึ้น เลยกลายเป็นชีวิตแฮปปี้ ยิ่งตอนนี้มีทั้งธุรกิจ มีทั้งคนรอบข้างที่จริงใจเป็นเพื่อนกันจริง ๆ อย่าง พี่โย-ยศวดี ก็สนิทกันขั้นรู้ไส้รู้พุงหมด เขาเป็นพี่ที่น่ารักมากคบกันมา 3 ปี แฮปปี้มาก และที่สำคัญครอบครัวของเราที่คอยให้คำปรึกษาที่ดีกับเรามาตลอดค่ะ”

คำถาม	มีคำแนะนำสำหรับน้อง ๆ ที่กำลังก้าวเข้าสู่วงการในฐานะรุ่นพี่มั้ย?
บี	“ในวงการมีทั้งทุกอย่างให้หลงระเริงไปเยอะมาก แต่อยู่ที่เราว่าจะทำตัวยังไง บีเชื่อว่าถ้าคนรักดีก็จะได้ดี อยู่ในวงการดีมีข่าวที่ดี ฉะนั้นทำอะไรต้องคิดเยอะ ๆ ไม่ใช่นึกแค่ตัวคุณ แต่คุณมีครอบครัว คนรอบข้าง แฟนคลับ ที่คอยดูผลงานและเอาคุณเป็นตัวอย่าง เราทำอะไรก็ได้ที่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน และรับผิดชอบต่องานของตัวเอง เราอยู่มา 16 ปี ถามว่าเคยเฉียดคำว่าเหลิงมั้ย ยังไม่เคยมีใครมาบอกเราเป็นแบบนั้น เข้าวงการมาเราตั้งใจทำงาน แต่ก็ชัดเจนถ้าใครมาเอาเปรียบเราจะมีอะไรย้อนกลับไปเลยนะ เป็นคนแรงเหมือนกันนะ (หัวเราะ) แต่เราไม่เคยทำใครเดือดร้อนก่อน แต่ถ้าโดนกระทำเอาคืนแล้วแรงนะ ใครอย่ามาแหยมนี่เป็นด้านมืดของบีเลยนะคนรู้หมดเลย (หัวเราะ) แต่บีมีเหตุมีผล ไม่ใช่ทำอะไรที่เกินเลยนะคะ อย่างมีคนมาด่าพี่โยในอินสตาแกรม เราบอกพี่โยไม่ต้องบีจัดเอง คนจะตกใจเรามีด้านนี้เหรอ (หัวเราะ) ก็เราไม่ชอบให้ใครเอาเปรียบหรือมาด่าเราโดยไร้เหตุผลน่ะค่ะ”
คำถาม	แต่ก่อนเวลาไปงานจะรอสัมภาษณ์บี บีไม่ค่อยให้สัมภาษณ์ จนเกือบได้ฉายาเจ้าแม่หายแวบ?
บี	“เมื่อก่อนไม่ค่อยเปิด ไม่ค่อยให้สัมภาษณ์ บีไม่ค่อยชอบพูดเรื่องส่วนตัวเลย แต่เดี๋ยวนี้โตขึ้นคนที่เป็นแฟนคลับก็คงอยากรู้ว่าเราดำเนินชีวิตเป็นยังไงก็เลยกล้าที่จะสัมภาษณ์มากขึ้น บีเป็นคนปากไว คิดยังไงแล้วพูดอย่างนั้น ฉะนั้นคนจะเห็นว่าเหมือนบีแรง แต่จริง ๆ ไม่เลยแค่เป็นคนคิดอะไรแล้วพูดมากกว่า ที่หายไปบางทีมีงานที่อื่นนะ แต่ส่วนใหญ่ไม่รู้จะพูดอะไรจริง ๆ คนเลยมองว่าเราจะเข้าถึงยาก บีไม่ใช่คนเข้าถึงยากเลยนะ ถ้ารู้จักเราเป็นคนง่าย ๆ ไม่ต้องพิธีรีตอง ไม่เรื่องมาก ไม่เคยขออะไร แค่เป็นคนมีโลกส่วนตัว เป็นแบบนี้ก็ดีนะ การไม่มีข่าวไม่ดี ทำให้เราคุมตัวเองได้ เวลาข่าวออกมาแรง ๆ ไม่อยากให้มีผลกระทบครอบครัวเรา บางเรื่องไม่พูดก็ไม่เห็นเสียหายอะไร”

คำถาม	ทุกวันนี้แบ่งเวลาในชีวิตยังไงบ้าง?
บี	“ต้องจัดสรรให้ได้ คนชอบบอกว่ายุ่งจนไม่มีเวลาทำอย่างอื่น มันเป็นไปไม่ได้ อย่างน้อยว่างถ่ายละครจากช่วงเช้าก็มาออกกำลังกายเลย เมื่อก่อนจะขี้เกียจออกกำลังกายมาก ไม่ชอบ ผลัดตลอด จนคิดได้ว่านี่เราแก่แล้วนะ (หัวเราะ) ต้องดูแลตัวเองได้แล้ว เดี๋ยวนี้เลยเป็นคนฟิต อาหารการกินก็ดูแลตัวเอง ออกกำลังกายด้วย ยิ่งมาทำธุรกิจอาหารไดเอตยิ่งทำให้เราดูแลตัวเองมากกว่าเดิมค่ะ”
คำถาม	ครอบครัวล่ะให้กำลังใจ สนับสนุนเรายังไงบ้าง คนไม่ค่อยเห็นมุมครอบครัวของบี?
บี	“จริง ๆ คุณพ่อคุณแม่บีแยกทางกันตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว บีไม่ได้ผูกพันกับคุณพ่อเลย ซึ่งคุณแม่จะดูแลทุกอย่าง ทุกวันนี้รายได้ทุกอย่างทุกบาททุกสตางค์ให้คุณแม่เก็บดูแลหมดเลย เราจะไม่ค่อยรู้เรื่องเงินเลยนะโตจนป่านนี้ แต่คุณแม่จะคอยให้คำปรึกษาเราทุกเรื่อง แม้จะไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยตลอด แต่เราเจอและคุยกันตลอดทุกเรื่องเลยค่ะ”

คำถาม	ตอนนี้คนมองลัคกี้กับงานมาก แต่ไม่ลัคกี้กับความรักเลย?
บี	“ใช่ค่ะ แอบรู้สึกเหมือนกันนะ เด็ก ๆ เรื่องความรักจะสำคัญมาก จะรู้สึกว่าชีวิตทำไมเศร้าขนาดนั้น แต่มาตอนนี้ไม่ลัคกี้ความรักก็ไม่รู้สึกอะไร เพราะเรามีครอบครัวที่อบอุ่น มีเพื่อนที่ดี จริงใจ ความรักเลยกลายเป็นเรื่องเล็กไปเลยสำหรับเรา แฟนกันเลิกกันไปวันหนึ่งก็เป็นคนอื่น แต่เพื่อนเนี่ยจะอยู่ข้าง ๆ เราตลอด ไม่คิดเรื่องแต่งงานเลยค่ะ ถามว่าถ้าเจอคนที่ถูกใจแล้วใช่จริง ๆ ก็อยากแต่ง ผู้หญิงทุกคนจุดหนึ่งก็คงอยากแต่งงาน เราได้เรียนรู้ความรักครั้งก่อน ๆ เหมือนกัน แต่ก่อนเราเป็นพวกคิดเยอะ ขี้หึงแต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นอะไรก็ได้ เฉย ๆ เราชอบคนจริงใจ ใครไม่จริงใจไม่คุย คนที่ผ่านมาคุย ๆ เป็นคนดีนะ แต่พื้นฐานคนเราไม่เหมือนกัน ทุกคนเป็นคนดี แต่อยู่ที่เขาจะมีจุดยืนตรงไหน แต่บีมองว่าถ้าเราโดนเอาเปรียบ หรือมันไม่ใช่ก็ไม่คุยให้เสียเวลา ด้วยอายุ การทำงาน โตขนาดนี้ ก็อยากเจอคนที่ใช่แล้วมีชีวิตบั้นปลายที่มีความสุขกับคนคนนั้น คุยแล้วไม่ใช่ ก็ไม่คบให้ต้องเหนื่อยดีกว่า”
คำถาม	แต่คบใครก็ไม่ค่อยพูดถึงให้คนรู้เท่าไหร่สำหรับความรัก?
บี	“เราต้องให้เกียรติคนที่เขาเข้ามาคุยกับเราด้วย ว่าเราต้องบอกว่าเป็นเพื่อนกันดีที่สุด อย่ารีบ เพราะไม่รู้คุณจะโอเคมั้ยใช่มั้ย ฉะนั้นถือว่าดีนะ เราจะได้เปิดโอกาสให้เขาได้ไปศึกษาผู้หญิงคนอื่น ๆ ด้วย เราไม่ได้กั๊กต้องคุยแค่ชั้น เพราะถ้าคุยกับเราแล้วเรายังไม่ใช่ก็ได้คุยคนอื่น เปิดกว้างไปมั้ยคะ (หัวเราะ) อย่างช่วงที่มีข่าวกับฮิม (อิศระ คูหาเปรม) เราก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่แรก ตอนนี้ก็ยังเป็นเพื่อนอยู่ เพราะเราไม่ได้คิดอะไรพิเศษอยู่แล้ว บีแค่รู้สึกว่าถ้าเราคุยกับใครสักคนแล้วไม่เวิร์กก็เป็นเพื่อนดีกว่า หรือถ้ามีรูปหลุดกับผู้ชายคนไหน ไปกินข้าวกับใครก็ไม่ใช่แฟนเสมอไป”

คำถาม	คนจะมองว่าแฟนนางแบบ ต้องเป็นไฮโซหรือเปล่าถึงคบด้วย?
บี	“บีไม่เคยยึดติดไฮโซเลย เพื่อนบีทุกคนทำงาน ไม่ได้ขอเงินพ่อแม่ มีอาชีพที่ดีมั่นคง เงินก็หาเอง เรียกเขาเป็นไฮโซแล้วรู้สึกว่าเราจะไปเกาะเขา เขาไม่ยอมให้เราทำแบบนั้นหรอก เพราะทุกวันนี้ไปกินข้าวกันก็แชร์กันออกนะ ไม่ได้ต้องเลี้ยงอะไร เราไม่เอาเปรียบใคร และใครก็อย่าเอาเปรียบเรา ทุกวันนี้คนเข้ามาคุยก็มี แต่ขอคุยเป็นเพื่อนดีกว่า เพราะยังไม่เจอจริง ๆ ต้องกลั่นกรอง ขอคนที่จริงใจกับเรา ไม่อยากให้เขามาคบเรา เพราะเราเป็น บี น้ำทิพย์ เป็นดาราในวงการ มันต้องดูไปเรื่อย ๆ แต่บีก็มีความสุขดีที่เป็นโสดนะ เรายังมีแม่ ครอบครัว เพื่อน ซึ่งทุกวันนี้คนคบกัน เพราะผลประโยชน์เยอะต้องดูกันยาว ๆ”
คำถาม	ความรักตอนนี้คุยเรื่อย ๆ ไม่ได้ปิดใจ?
บี	“ไม่ปิดค่ะ แต่กลั่นกรองคนที่จะเข้ามา ถ้าเป็นเพื่อนแล้วดีกว่าก็คงดี แต่เราไม่พูดเรื่องความรักเยอะ เราโฟกัสแล้วว่าคนที่เข้ามาต่อไปนี้เราอยากมองอนาคตด้วยแล้ว ถ้าเจอแล้วเปิดตัวก็แต่งงานเลยก็ได้นะ (หัวเราะ) แต่หลายคนบอกเราไม่มีแววแต่งนะ ปีนี้ก็ 30 บวก ๆ แล้วเป็นวัยที่โตและสวยที่สุดเขาบอกมานะ ไม่ใช่เด็กแล้วมีความรักปั๊บปี้เลิฟ บีมองอนาคตคนที่จะมาแชร์ชีวิตกับเราต้องรับเราได้นะ ไม่เคยมองคนว่าต้องรวยเป็นไฮโซ เราไม่คิดจะเอาเปรียบเขาอยู่แล้ว เข้ามาก็ต้องแชร์กัน แต่ถ้าเป็นชีวิตคู่ก็อยากหาคนที่ดูแลเราได้ คุณไม่ต้องรวย มีบ้านเป็นคฤหาสน์ ตระกูลดัง แต่ขอแค่คุณมีความขยัน มุ่งมานะทำงาน อดทน จริงใจ กับเราก็พอแล้ว อยากคบคนที่อายุโตกว่านะ จะได้มีวุฒิภาวะที่มาช่วยให้คำปรึกษาที่ดี ๆ กับเรา บีมองว่าเราต้องรักตัวเองก่อนไงคะ เราเห็นค่าตัวเองก่อนนะคะคุณผู้อ่าน ถ้าเราไม่ดูแลตัวเอง แล้วใครเขาจะมารักเรา ต่อให้คุณมีแฟน เทคแคร์ดูแลแฟน แต่ไม่เคยดูแลตัวเอง แฟนคุณจะรักคุณได้ยังไง ต้องทำตัวเองให้ดีก่อนค่ะ”

คำถาม

ฝากอะไรถึงแฟน ๆ ที่คอยติดตามผลงานเรามาตลอดมั้ย?

บี

“ฝากติดตามละครเรื่อง “เรือนเสน่หา” ทุกคนเต็มที่มาก ๆ ฝากติดตามผลงานอื่น ๆ ที่บีจะมีในอนาคตด้วยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นโฆษณา ส่วนงานถ่ายแบบเดินแบบเรื่อย ๆ ให้ได้เห็นตลอดเหมือนเดิม เจอกันมาทักทายบีได้นะ บางคนมองว่าเราอาจจะเข้าถึงยาก แต่จริง ๆ แฟนคลับที่ติดตามเรามาตั้งแต่แรกก็ยังตามมาตลอด ยังมีความอบอุ่นให้บีอยู่เสมอ ต้องขอบคุณเขาด้วยที่ยังคงคอยให้กำลังใจและอยู่ข้าง ๆ เราเสมอขอบคุณจริง ๆ ค่ะ”

บทสนทนาสบาย ๆ กับสาวบีจบลง แต่เราได้รู้มุมมองในการใช้ชีวิตที่ทุกคนก็เอาไปปรับใช้ได้เช่นกัน ก็หวังว่าสาวบีจะเจอความรักที่ดีพร้อมในแบบที่ต้องการ เป็นผู้หญิงลัคกี้ทั้งงานและความรักไว ๆ เป็นกำลังใจให้จ้า.