บทสัมภาษณ์ดารา สัมภาษณ์ดารา สัมภาษณ์ดาราไทย หัวข้อสัมภาษณ์ดารา ดาราไทย ดาราเทศ ดาราเอเชีย หน้า 23

สัมภาษณ์ดารา นาเดีย นิมิตรวานิช

" แสงทอง เกตุอู่ทอง "

คืนวันประกาศรางวัลสุพรรณหงส์ครั้งที่ 18 ไม่มีใครไม่ได้ยิน อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม เจ้าของรางวัลดารานำชาย ยอดเยี่ยม รางวัลสุพรรณหงส์ ประกาศบนเวทีว่า “ผมรักคุณ ” แล้วภาพจากกล้องก็จับไปที่ แสงทอง เกตุอู่ทอง หญิงสาวที่อนันดาสารภาพ รัก เฮ้อ ... เห็นแล้วอยากเป็น จี๊ด แสงทอง ซะเองจัง... ว่าแล้วก็ขอนำผู้หญิงที่ สามารถมัดใจ อนันดา คนนี้ มาให้คุณ ได้รู้จักและอาจจะรักเธอแบบ อนันดา

ถาม	ช่วงนี้จี๊ดทำอะไรอยู่บ้าง ?
จี๊ด	“ช่วงนี้มีเดินแบบ ถ่ายแบบ ซะส่วนใหญ่ ถ้าเกิดเป็นงานอดิเรกก็จะมีเรียน ทำเซรามิก คือปกติจี๊ดชอบศิลปะอยู่แล้ว ไปถ่ายรูป ไปเพ้นท์ กับพวก อาจารย์”
ถาม	ถ่ายรูปด้วยหรือ ถ่ายมานานแล้วหรือยัง ?
จี๊ด	“ถ่ายรูปนี่ ถ่ายมานานแล้ว ก็คือตอนหลังเจอเพื่อน เจอคนนู้นคนนี้ก็ถ่าย ก็ไปเป็นแก๊งเดียวกันหมด จะมีเพื่อนที่เป็นผู้ ใหญ่กว่า แล้วก็ได้คุยกับ อานิวัติ กองเพียร ด้วย ก็สนุกดีค่ะ”
ถาม	แล้วงานแสดงล่ะ ?
จี๊ด	“ปีนี้ยังไม่มีทั้งงานละคร และงานหนัง ปีที่แล้วมีไชยา และสองปีก่อนมี หมานคร ปีนี้ก็ใช้ชีวิตเรียบๆ ง่ายๆ ถ่ายแบบ เดินแบบเป็นหลัก”
ถาม	ชีวิตส่วนตัวจริงๆ ในช่วงเวลาพักผ่อน คือยังไง ?
จี๊ด	“หลักๆ คือคิดว่าอยากเอาเรื่องศิลปะมาปรับใช้ชีวิตในอนาคต ก็คิดนู่น คิดนี่ไปเรื่อยๆ ก็เลยเหมือนงานอดิเรก และอยากเอาศิลปะไปโชว์ อะแด๊บท์เป็นธุรกิจในอนาคตเพราะชอบ และมีความสุขด้วย มันเหมือนไม่ จำป็นต้องทำเพื่อเงินมากเกินไป”

ถาม	เงินเยอะแล้ว ?
จี๊ด	“ไม่ใช่ว่าเงินเยอะแล้ว (หัวเราะ)”
ถาม	ไม่ชอบธุรกิจจ๋า ?
จี๊ด	“ใช่ค่ะ เพราะ จี๊ด ไม่ชอบอะไรที่ธุรกิจมาก เพราะไม่เก่งเรื่องพีอาร์ การ ตลาด เราชอบทำอะไรที่มันมีความสุขแล้วเราอยู่กับมัน ถ้าเราฝืนมันเรา ก็ไม่มีความสุขและคิดว่าคงไปไม่รอด”
ถาม	เห็นบอกจะทำหนังสือ ?
จี๊ด	“หนังสือนี่คือตอนแรกว่าอยากทำก็คุยกับอนันดา คืออนันดาเค้าเริ่มโปรเจ็ก ไปก่อนแล้ว”
ถาม	เป็นพ็อกเกตบุ๊คเหรอ ?
จี๊ด	“คือ อนันดา ทำก่อน แต่ยังไม่ได้เปิดตัวตอนนี้ เค้าจะทำเกี่ยวกับหนังสือ โฟโต้ เพราะตอนที่เรารู้จักกัน เค้าเห็นว่าเราถ่ายรูป เค้าก็ถ่ายรูป คือต่างคน ต่างชอบถ่ายรูปเหมือนกัน คุยกันแล้วเค้าก็ชอบ เค้าอยู่กับพ่อเค้าตั้งแต่ เด็กๆ แล้วพ่อเค้าก็ชอบถ่ายรูป เค้าก็ตามไปนู่นไปนี่ เป็นโฟโต้บุ๊คที่อาจจะ เล่าเรื่องราวของจี๊ดกับอนันดา คือมันไม่ใช่แฉชีวิต แต่เป็นเรื่องราวที่ เกิดขึ้นใน 99 วัน”

ถาม	เห็นว่าจะแต่งงานวันที่ 9/9/2009
จี๊ด	“(หัวเราะ) ไม่จริงๆๆ”
ถาม	ตกลงแต่งไหม ?
ี้จี๊ด	“ไม่แต่งค่ะ ยังไงก็ยังไม่แต่ง (หัวเราะ)”
ถาม	ช่วงที่ผ่านมาเห็นงอนๆ กันอยู่หรือเปล่า ?
จี๊ด	“ตอน ที่อนันดา อยู่เชียงใหม่ใช่มั้ยค่ะ จริงๆ เราไม่ได้งอน แต่คือเวลาที่อยู่ ไกลกันคนจะคิดว่าเลิกกันบ้างล่ะ งอนกันบ้างล่ะ แต่จริงๆ แล้วไม่สำคัญว่า อยู่ที่ไหน มันเหมือนแบบถ้าเราอยู่เมืองนอกความรักก็เกิดขึ้นได้ ข่าวก็จะ เขียนไป เราก็เออๆ เขียนไปเหอะ”
ถาม	ก็เลยไม่ได้ออกมาแก้ข่าว ?
จี๊ด	“คือเราจะแก้ข่าวเป็นกลางมากกว่า จะไม่แก้ข่าวแต่พูดในด้านความเป็นจริง เค้าก็ถามว่าเลิกกันหรอ เราก็ไม่ได้เลิกนี่ค่ะก็ปกติ อยู่เชียงใหม่ ไม่ได้เจอกัน 3-4 วัน บางทีถ้าอยู่ด้วยกันมันทำให้หงุดหงิดและไม่มีสเปซเป็นของตัวเอง”
ถาม	คบกันกี่ปีแล้ว ?
จี๊ด	“3 ปีกว่าๆ”

ถาม	เพราะต่างคนต่างติสท์หรือเปล่า ?
จี๊ด	“เค้าก็ต้องมีพื้นที่ที่เป็นของเค้าเอง คือเราคิดว่าทุกคนต้องมีความลับ เป็น ของตัวเอง โดยที่ใครไม่จำเป็นต้องรู้ แต่บางทีเราไม่ได้อยากรู้ แต่บังเอิญรู้ เราก็ทำเป็นไม่รู้ มีคนบอกว่าโง่บ้างก็ดี แต่มันไม่ใช่คำว่าโง่ แต่เราก็ ปล่อย ไป เพราะไม่ใช่เรื่องร้าย แรงอะไร มันคือการปล่อยวางเรื่องเล็กน้อยจุกจิก ไม่ควร เก็บมาใส่ใจให้ตัวเอง ไม่สบายใจ”
ถาม	นิสัยที่เหมือนกันระหว่าง อนันดา กับ จี๊ด คืออะไร ?
จี๊ด	“ชอบทำอะไรคล้ายกัน ถ้ามีเวลาอยู่นิ่งๆ ดูหนังด้วยกัน เวลาไปต่างจังหวัด ชอบเที่ยว ไปเรื่อยๆ”
ถาม	สองคนจะไม่ยุ่งกับใคร ปิดสวิตช์ในเมืองไปเลย ?
จี๊ด	“ใช่ค่ะ เวลาดหนังก็ดูๆ เวลาจะไม่ยุ่งกับใครก็ไม่ยุ่ง เวลาเข้าสังคมก็คุยๆ”
ถาม	ทะเลาะกันบ่อยมั้ย แบบไหน?
จี๊ด	“เถียงกันมากกว่า เรื่องความคิดเห็นขัดแย้งกันแล้วบางทีเราจะเป็นคน ที่เก็บ อารมณ์ไม่เคยอยู่เลยซักครั้งเดียว คือจะแสดงออกทางสีหน้า อนันดา เค้าก็เป็น เหมือนกัน ถ้าเค้าเห็นว่าเราไม่สบายใจเค้าก็จะพูดเลย ทั้งๆ ที่ บางทีมันไม่มีอะไร แต่น้ำเสียงเราเปลี่ยนเอง บางทีอากาศด้วยทำให้เรา หงุดหงิด เค้าก็เอ๊ะ...เราเป็น อะไรหรือเปล่า บางอย่างอาจปิดได้แต่น้ำเสียง สีหน้า แววตาปิดไม่ได้ เค้าก็จะถาม เป็นอะไร ประมาณนี้ค่ะ”

ถาม	เคยทะเลาะกันข้ามวันมั้ย ?
จี๊ด	“ไม่เคย เหมือนโกรธง่ายหายเร็ว ถ้าจะไม่เข้าใจคือไม่เข้าใจ บางทีเรา หายโมโห อนันดาก็จะอะไร ทุกทีเลย โมโหแป๊ปเดียว ที่เราทะเลาะกัน มันไม่มีความหมาย เลยใช่มั้ย (หัวเราะ)”
ถาม	พอมีข่าวทั้งคู่ได้คุยกันมั้ยว่าจะแก้ข่าวอย่างไร ?
จี๊ด	“ส่วนมากจะปล่อยมันไปมากกว่า ใช้ความเชื่อใจซึ่งกันและกัน บางทีนัก ข่าวมาถาม จริงหรอ เลิกกันแล้วหรอ (หัวเราะ) อนันดา ก็แบบข่าวเลิก อีกแล้วเหรอ”
ถาม	คือทั้งสองคนมั่นใจ ?
จี๊ด	“ใช่ การที่มาอยู่ตรงนี้ ก็การที่มีคนชอบคนรักมันก็ดี”
ถาม	อยู่ในวงการข่าว ทะเลาะถือเป็นเรื่องธรรมดา ?
จี๊ด	“หนูคิดว่าความรักคือความสุขที่ตัวเองกอด เวลารักใครก็รักๆ ก็เป็นอยู่ แต่พอสุด ท้ายต้องเข้าใจอันนึงล้วพอเรามาเข้าใจอีกอันนึง แล้วเริ่มซื่อสัตย์ กับตัวเอง สิ่งไหน ที่เราอยากทำๆเลย มันเป็นการที่เราให้กียรติตัวเอง แล้วเราไม่เครียด คือบางอย่าง ถ้าเราทำแล้วไม่มีความสุขก็จะไม่ศรัทธา ในความรู้สึก ความรักต้องให้ความสุข กับตัวเองก่อน มันไม่มีกฏเกณฑ์ วันนึงอาจอยู่กับเรา อีกวันนึงอาจไม่ได้อยู่กับเรา แล้วสังคมคนหน้าตาดี สังคมศิลปินที่มีแรงโน้มถ่วงความแตกต่าง และความ ฉาบ ฉวย แล้ว ความสมดุลของฮอร์โมนแต่ละคนไม่เหมือนกัน”
ถาม	หมายความว่าถ้าวันนึง ถ้าอีกฝ่ายต่างไปถูกใจคนอื่นมากกว่า ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้เหรอ ?
จี๊ด	“คืออารมณ์ ณ ขณะนั้นใช้ได้อย่างหนึ่งคือการคอนโทรลความ รู้สึกของ ตัวเอง ถ้าคอนโทรลได้ก็จะเข้าใจ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นชั่ววูบของ ณ โมเมนท์หนึ่ง อย่าทำ ให้เรารู้สึกทีหลังว่ามันผิดพลาด เพราะยิ่งโตขึ้นเรา ยิ่งควรพิจารณาตัวเองว่ามัน สำคัญมาก”
ถาม	วันนั้นวันที่ อนันดา ประกาศบนเวที ?
จี๊ด	“คือ อนันดา เค้าจะเป็นคนใจร้อน แล้วก็เหมือนตอนแรกที่คบกัน เค้า บอกว่า แปลกดีที่จี๊ดเป็นคนใจเย็น เพราะ จี๊ด เป็นคนใจเย็นมาก แล้วก็มี แค่ไหนก็มี ความสุขอยู่แค่นั้น แค่นี้เราก็เหมือนได้ของเล่นแบบมีความ สุขจะตายอยู่แล้ว คือมี ความสุขกับอะไรเล็กๆน้อยๆมากกว่าใหญ่ๆ อย่าง ตอนนี้เค้าก็ยังขับมอเตอร์ไซด์ เราก็เป็นห่วงเค้า เราห้ามเค้าทำในสิ่งที่ เค้ารักไม่ได้ ก็ได้แต่ห่วง ก็หมือนตอนเค้า ไม่สบายก็ดูเค้า”
ถาม	ทั้งสองบ้านเข้ากันดี ?
จี๊ด	“เราโชคดีที่บ้านอนันดากับบ้านจี๊ดเปิดเผย ง่ายๆ ให้ลูกโตด้วยตัวเอง มากกว่า แล้วเราก็ไม่ได้ทำให้พ่อแม่เดือดร้อน หรือเป็นห่วง ไม่ได้ทำ อะไรให้เค้าเป็นทุกข์ มีอะไรก็คุยกันตลอด แต่ถ้าถามว่าเค้าเป็นห่วงมั้ย ก็เป็นห่วง อย่างเวลามีข่าว เค้าก็โทรมาถาม ทำอะไรลูกสาวชั้นย่ะ (หัวเราะ)”
ถาม	แล้ววันนั้นที่ประกาศบนเวที แล้วภาพตัดมาหน้าจี๊ดก็จะเขิน ?
จี๊ด	“ไม่ได้เขินนะ อาย พอลงมา แล้วถามว่าทำอะไรทำไมต้องเหมือนแก้ตัว อย่างนี้ด้วย”
ถาม	เค้าว่ายังไง ?
จี๊ด	“เค้าก็บอกว่าอยากพูด ซักพักเจอ พี่เปิ้ล (ช่างภาพแฟชั่น) เราก็เลยคุยกับ พี่เปิ้ล เค้าบอกว่าก็คบกันมาตั้งนานแล้วก็พูดกันหน่อย (หัวเราะ)”
ถาม	ถ้าเป็นเราได้รับรางวัลจะพูดอย่างเค้ามั้ย ?
จี๊ด	“(หัวเราะ) เราคงไม่กล้าพูดอย่างนั้นหรอก เพราะ จี๊ด เป็นคนขี้อาย จริงๆ นะ ตอนที่ขึ้นไปสุพรรณหงส์มือสั่นมาก ตื่นเต้นอ่ะ”
ถาม	วางแผนอนาคตยังไง ?
จี๊ด	“เราคิดว่าเป็นจุดที่เริ่มโต ก็ดูไปเรื่อยๆเหมือนบางที มีแวบเข้ามาเรื่อง อนาคตที่จะ ใช้ชีวิตร่วมกัน แต่ยังไม่ได้คุยกันเป็นจริงเป็นยจัง บางทีความ คาดหวังอะไรมาก ทำให้เครียดมาก แล้วจะทำให้ไม่มีความสุข ปล่อยมัน ไปเรื่อยๆ ดีกว่ามั้ย มันจะ เกิดอะไรขึ้นให้มันเกิด ในแวดวงแบบนี้มี ทุก อย่างที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอกเวลา เราไม่ประมาทในความรัก ในการ ใช้ชีวิต แล้วเรารู้ตัวว่าเราทำดีที่สุดแล้ว ต้องมี ความสุขกับมัน ใช้ชีวิต แบบ one by one ให้มันมีความสุขดีกว่า ชีวิตจะ Alert ค่ะ”