'โบ-เอก' ใช้ธรรมะนำความรัก
หลังจากบ่มเพาะความรักกันมานานถึง 4 ปี ในที่สุด นางเอกสาว โบ - ธัญญะสุภางค์ จิรปรีชานนท์ กับแฟนหนุ่ม เอก - จิรัฏฐ์ บูรพาพัฒนะกูล หรือ "เอก เด็กวัดร้อยล้าน" ก็กำลังจะจูงมือกันเข้าประตูวิวาห์กันอีกไม่กี่วันข้างหน้า และเนื่องในโอกาสวันวาเลนไทน์ "ดาวต่างมุม" เลยต้องขอนัดทั้งคู่มานั่งพูดคุยถึงมุมมองความรัก และเรื่องราวต่าง ๆ ที่ทำให้โบและเอกตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ส่วนจะซาบซึ้งสักแค่ไหนนั้นคงไปพิสูจน์พร้อม ๆ กัน
ที่มา: ดาวต่างมุม เดลินิวส์ / ภาพ: @bothunyasupan (IG)
อัพเดทงานแต่งวันที่ 18 มี.ค. หน่อย ว่าเตรียมงานแต่งถึงไหนแล้ว?
โบ: | โบว่าเกือบจะเสร็จหมดแล้วนะคะ เสร็จไปประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์แล้วค่ะ ก็มีตื่นเต้นเป็นพัก ๆ ค่ะ |
เอก: | เราค่อย ๆ เตรียมกันมาเรื่อย ๆ คงจัดงานแบบวันเดียวเสร็จ ช่วงเช้าจะมีทำบุญ ขันหมาก สวมแหวน มีรดน้ำสังข์ และยกน้ำชา และกลางวันก็เลี้ยงฉลอง กินข้าวกันง่าย ๆ บ่าย ๆ ก็น่าจะเสร็จ เราเกรงใจคนที่มาเพราะมันไกล ตอนนี้ก็พิมพ์การ์ดมา 1,200 ใบ คิดว่าแขกในงานน่าจะมาประมาณเกือบพันคนครับ |
เอกเพิ่งคุกเข่าเซอร์ไพร้ส์โบไปเมื่อไม่นานนี้ แสดงว่ามีกำหนดแต่งงานก่อนอยู่แล้ว?
โบ: | จริงๆเราคุยกันมาตั้งแต่กลางปีที่แล้วค่ะ ไม่ได้ตัดสินใจหุนหันพลันแล่น หลายคนมองว่าพี่เอกเพิ่งขอแต่งงาน ทำไมได้ฤกษ์เร็วจัง แต่คือเราเตรียมงานกันมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เราเองก็คิดว่าพี่เขาคงไม่ขอแล้ว เพราะบอกว่าไม่ใช่ตัวเขาเลย ในเมื่อเราคุยกันแล้ว ผู้ใหญ่คุยกันแล้วก็คือสิ่งที่ดีที่สุดแล้วนะโบ ก็เลยตกใจมากวันที่เขาขอแต่งงาน ตื่นเต้น ดีใจ ปลื้ม (ยิ้ม) |
เซอร์ไพร้ส์แต่งงานไปแล้ว วาเลนไทน์นี้มีอะไรเซอร์ไพร้ส์อีกไหม?
เอก: | พอแล้วครับ (หัวเราะ) เซอร์ไพร้ส์ครั้งนั้นจริง ๆ ผมเตรียมงานไม่ถึงอาทิตย์เลย ตอนเราคิดก็ไม่ตั้งใจให้ออกมาเต็มขนาดนั้น แต่เพราะว่ามีเพื่อนดาราไปด้วย ทุกคนเลยสนุกที่ได้มีกิจกรรมทำกันต่อ ได้ทานข้าวด้วยกัน ส่วนพลุที่จุดวันนั้นก็ไม่ใช่ของผมนะครับ แต่คนอื่นเขาจุดพลุพอดี เลยทำให้คนมองว่าเอกจัดเต็มมากเลย แต่คือจริง ๆ เราตั้งใจทำทุกอย่างออกมาให้เรียบง่าย แต่ประทับใจเขามากกว่า |
โบ: | วันวาเลนไทน์พี่เอกเขาก็จะมีดอกไม้มาให้ปกติอยู่แล้ว แต่ถ้ามองย้อนกลับไป โบว่ามีอีกหลายวันมากที่เขาทำให้โบรู้สึกพิเศษ พี่เอกเขาไม่อยากให้คิดว่าวันสำคัญต้องเป็นวันพิเศษ พี่เอกก็จะบอกตลอดว่าทำไมเราไม่ทำให้วันธรรมดาให้พิเศษไปเลย |
ก่อนจะตัดสินใจแต่งคิดนานไหม?
เอก: | ผมว่าทุกอย่างมีเหตุผลในตัวอยู่แล้ว เรามีคำตอบให้ทุก ๆ คำถามเลย เราตัดสินใจอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง เราไม่ได้ใช้อารมณ์ เลยคิดว่าไม่ได้เร็วหรือว่าช้าเกินไป เพราะเราก็คิดว่าเราพร้อมที่จะดูแลใครสักคนแล้ว แต่ตอนผมเข้าไปบอกคุณแม่ผม เขาก็ตกใจนิดนึง เพราะเราก็บอกว่าอยากแต่งงานแล้ว นะม้า อยากมีครอบครัวแล้ว ซึ่ง จริง ๆ พ่อแม่เขาก็พูดมาตลอดว่าอยากให้แต่ง อยากเลี้ยงหลาน |
โบ: | ตลอดเวลาที่เราคบกัน พี่เอกจะบอกโบตั้งแต่ตอนแรก ๆ เลยว่าพี่คบโบพี่จริงจังนะ พี่ไม่ได้อยู่ในช่วงวัยที่คบใครเพื่อฆ่าเวลา หรือแค่ความสนุก เขาตั้งใจหาคนสุดท้าย ส่วนคุณแม่โบก็จะบอกเสมอว่าพี่เอกเป็นสุภาพบุรุษ คุณแม่เลี้ยงโบมาดี ก็จะบอกเสมอว่าโบคือที่สุดของชีวิตคุณแม่ การที่คุณแม่จะส่งต่อไปให้ใครอีกคนดูแล ท่านก็ต้องมั่นใจมาก ๆ ซึ่งพี่เอกก็พิสูจน์ตรงนี้ให้คุณแม่โบได้เห็น พี่เอกเป็นคนทำอะไรก็ทำเต็มที่ อย่างเรื่องการทำงานก็ทำเกินร้อยตลอด แล้วทุก ๆ ครั้งที่ไปไหนมาไหนกับพี่เอก โบจะรู้ว่าพี่เอกจะดูแลโบอย่างดีที่สุด นับตั้งแต่วินาทีที่ก้าวเท้าขึ้นรถพี่เอก จนถึงวินาทีที่พี่เอกมาส่งโบที่บ้าน พี่เอกจะเป็นสุภาพบุรุษมาก |
หลายคนมองว่าโบกับเอกแต่งงานตอนอายุยังน้อย?
โบ: | ในมุมของโบว่าถ้ามองในเรื่องของตัวเลขก็ไม่ได้น้อยนะคะ โบอายุ 25 ปี ส่วนพี่เอกอายุ 27 ปีแล้ว โบว่าวุฒิภาวะเราโอเค โบคิดว่าเราโชคดี ที่เจอคนที่มั่นใจ คนที่ใช่เร็ว ก็เหมือนมีแต้มต่อที่เราได้ใช้ชีวิตคู่เร็วกว่าคนอื่น เพราะมีหลายที่ที่อยากไป หลายสิ่งหลายอย่างที่อยากจะทำ แล้วโบก็มองว่าการที่พี่เอกขอโบแต่งงานเขาก็เหมือนให้เกียรติโบ และคุณพ่อคุณแม่โบ เพราะโบเป็นลูกสาว เวลาจะไปเที่ยว ไปไหนต่อไหนก็ยังไม่มีโอกาสไปกันสองคน ถ้าไปไหนพี่เอกก็ต้องไปกับครอบครัวโบ หรือโบก็ต้องไปกับครอบครัวพี่เอก หรือไปกับเพื่อนเป็นกลุ่ม เราก็ทำทุกอย่างตามประเพณีไทย วันนี้พี่เอกมาสู่ขอโบ เราก็คิดว่าหลังจากนี้เราก็จะมีโอกาสได้ใช้ชีวิตด้วยกัน ได้ไปเที่ยวรอบโลกอย่างที่เคยฝันไว้ |
เอก: | สำหรับผมไม่ได้มองว่ามันเร็วไปหรอกครับ เขาเรียกว่าจะได้มีลูกทันใช้ (ยิ้ม) |
แพลนจะมีทายาทเลยไหม?
โบ: | ยังค่ะ เพราะรายชื่อประเทศที่เราอยากไปก็ยังมีอีกเยอะ คงใช้ชีวิตคู่ให้เต็มที่ก่อน อีกอย่างโบว่าการเป็นแม่เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตลูกผู้หญิง ดังนั้นเราคงจะต้องพร้อมมากจริง ๆ ที่เราจะเลี้ยงใครสักคนหนึ่งให้โตขึ้นมาเป็นคนดีได้ ยิ่งเป็นลูกของเราด้วย |
อีกหนึ่งเดือนจะเปลี่ยนสถานะเป็นสามี-ภรรยา แล้วนะ?
เอก: | ใช่ ใจหายเหมือนกันนะ คือผมไม่ได้หวงชีวิตโสดนะ (หัวเราะ) เพราะเราก็ตัดสินใจแล้ว แต่คือเราต้องปรับตัวไง หลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว อย่างทุกวันนี้ผมยังอยู่วัดก็ต้องค่อย ๆ ปรับ เพราะตอนนี้ก็เตรียมเรือนหอที่เราจะเข้าไปอยู่ ก็มีซ้อมลองนอนบ้าน ลองอยู่บ้าง เพราะเราก็ต้องคำนึงหลาย ๆ อย่าง รวมถึงความปลอดภัย แต่เรือนหอที่เราทำก็ไม่ได้ไกลจากวัดเลยครับ เป็นทำเลที่ทำมาหากิน แล้วเราก็ยังได้ดูแลหลวงพี่เหมือนเดิม |
คนชอบให้ฉายาโบกับเอกว่าคู่รักสายบุญ?
เอก: | มีแต่คนพูดแบบนี้นะครับ อาจจะเพราะเราเจอกันที่วัด และก็เป็นลูกศิษย์หลวงพี่อุเทน วัดท่าไม้ เหมือนกัน เลยทำให้ทุกคนมองว่าเราเป็นคู่รักสายบุญ เพราะทั้งชีวิตของผมก็ผูกพันมากับวัด ผูกพันมากับศาสนาอยู่แล้ว |
ทุกวันนี้มีอะไรที่ต้องปรับจูนกันอีกบ้าง?
โบ: | โบว่าเราปรับกันทุกวัน เพราะคนเราเปลี่ยนแปลงทุกวันอยู่แล้ว ตัวโบเองก็ยังเปลี่ยนเลย แต่สุดท้ายเราอยู่บนพื้นฐานเดียวกันคือความรัก ความเข้าใจซึ่งกันและกัน ซึ่งหลวงพี่อุเทนจะสอนเสมอว่า "คนเราคบกันจะต้องให้เวลา ให้ความรัก ให้อภัย ให้โอกาส แล้วก็ก้าวไปพร้อมกัน" เพราะฉะนั้นโบคิดว่าสี่ปีที่ผ่านมา เราก็ดำเนินชีวิตตามนี้ด้วยกันมาตลอด ใช้คำสอนของหลวงพี่อุเทน มาประยุกต์ใช้ กับสิ่งที่เราคิด มีของมาม้าพี่เอกด้วย ของคุณพ่อคุณแม่โบด้วย |
ที่ผ่านมามีไม่เข้าใจกันบ้างไหม?
เอก: | มีบ้างเป็นเรื่องปกติครับ แต่เราแตกต่างกับคู่อื่นตรงที่เราปรับความเข้าใจกันได้ไว บางทีแทบจะไม่ได้ง้อด้วยซ้ำ จะหายโกรธกันไปเอง พอเช้าอีกวันตื่นมาก็โทรฯ หาเขาปกติแล้ว หายเอง เพราะเราไม่ได้คิดแค้นว่าเขาจะต้องมาขอโทษก่อนนะ เพราะเราคบกันแบบคนที่โต ๆ กันแล้ว เราอยู่กันด้วยเหตุผล ไม่ได้อยู่กันด้วยอารมณ์ |
พูดแบบนี้แสดงว่าโบงอนบ่อยกว่า?
โบ: | ถ้าถามเรื่องงอน พี่เอกเป็นคนขี้งอนกว่าโบเยอะ (ยิ้ม) เขาเป็นผู้ชายละเอียด เป็นพวกเพอร์เฟกชั่นนิสต์ โบว่าโบละเอียดแล้ว แต่พอมาเจอเขาก็รู้สึกว่าเขามองไกลกว่าโบเยอะ ถ้าในทางทฤษฎี โบมั่นใจว่าโบเป๊ะกว่าเขา แต่ถ้าในทางปฏิบัติหรือการใช้ชีวิตต้องเป็นเขาเลยค่ะ อาจเพราะเขาประสบการณ์ทำงานสูงกว่า แล้วก็โตกว่าด้วย เพราะฉะนั้นโบทั้งรักและเคารพพี่เอกในเวลาเดียวกัน แต่ด้วยความที่เราเป็นผู้หญิงบางทีก็มีอารมณ์บ้าง ก็ขอนิดนึง |
เอก: | เพราะฉะนั้นต่อไปต้องเชื่อพี่ (หัวเราะ) |
เอกเป็นผู้ชายละเอียดแบบนี้ แล้วมีมุมตลก ๆ บ้างไหม?
โบ: | เยอะค่ะ (ยิ้ม) คือมันอาจจะไม่ใช่ตัวเขาที่ตลก แต่มีหลาย ๆ มุมของเขาที่โบมองว่าน่ารักดี ทำให้โบขำได้ แต่ถ้าให้ยกตัวอย่าง คงนึกไม่ออก แต่พี่เอกเขาก็ทำให้โบยิ้มทุกวัน หัวเราะทุกวันอยู่แล้ว ส่วนที่เห็นเขานิ่ง ๆ แบบนี้ เมื่อก่อนโบเองก็เคยมองเขาว่าโห...เป็นนักธุรกิจ แล้วอยู่วัดด้วย เก่งมาก แต่พอรู้จักกันเขาก็มีไปเตะบอลกับเพื่อน มีไปดูหนัง ฟังเพลง บางวันไปทานข้าวกับเพื่อนก็มีกลับวัดดึกบ้าง คือเขาก็ใช้ชีวิตเหมือนวัยรุ่นทั่วไป แต่จุดสมดุลของเขา เป็นจุดที่อยู่ระหว่างวัดกับวัยรุ่นทั่วไป |
เห็นว่าเอกทำธุรกิจหลายอย่าง โบช่วยซัพพอร์ตอย่างไรบ้าง?
เอก: | ธุรกิจของผมก็ยังเหมือนเดิมนะครับ มีร้านทองที่ต้องดูแล มีบริษัทก่อสร้าง มีโรงงานอุตสาหกรรม มีอพาร์ตเมนต์ มีบริษัทไฟแนนซ์มีร้านอาหาร แล้วก็กำลังจะเปิดตัวรีสอร์ตบุรีธารา อยู่แถวกระทุ่มแบน สมุทรสาคร ด้วยครับ ตอนนี้โบเขาก็มาช่วยดูงานในส่วนของร้านอาหาร เพราะรายละเอียดเยอะมาก โบเขาก็ชอบด้วย ก็เลยให้มาลองทำงาน จะได้มาเรียนรู้วิธีทำงานของผม สไตล์การทำงานของผม อีกอย่างเขาบอกกันว่าคนที่จะประสบความสำเร็จเขาใช้วิธีที่แตกต่างกัน ซึ่งโบเขาก็อาจจะมีวิธีการของเขา ที่ทำแล้วอาจจะดีกว่าผมได้ |
แล้วงานในวงการบันเทิงล่ะ?
โบ: | งานในวงการยังเหมือนเดิมค่ะ โบมองว่างานในวงการบันเทิงเป็นอะไรที่สนุก ทำให้เราไม่หยุดนิ่ง แต่ทำให้เราเจอคนตลอดเวลา เราไม่ได้ทำงานประจำเหมือนอาชีพอื่น ๆ มีความยืดหยุ่นค่อนข้างสูง โบเลยมองว่าเราสามารถทำธุรกิจควบคู่กับงานในวงการได้ ไม่จำเป็นต้องเลือกแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง อยู่อย่างพี่เอกก็เป็นนักแสดงในสังกัดโพลีพลัส ยังสามารถทำธุรกิจได้ตั้ง 5-6 อย่างเลย เลยไม่ได้คิดว่าจะทิ้งสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่อยากทำหน้าที่ทุกอย่างให้ดีที่สุด |
สุดท้ายฝากถึงแฟน ๆ ที่เป็นกำลังใจให้เอกกับโบมาตลอด?
โบ: | โบเองก็ต้องขอบคุณทุกคนมากจากใจ ทั้งใจโบและใจพี่เอก ก็ขอบคุณที่รักเราและสนับสนุนเรา มองเราอย่างที่เราทั้งสองคนเป็น เราก็มองว่ากำลังใจจากทุกคนที่เป็นสิ่งที่ดีและสวยงาม |
|