Top
สัมภาษณ์ดารา ซูซี่-สุษิรา แน่นหนา

 

" 'ซูซี่' งานรุ่งรักเลิศ "

หลายคนคงจะคุ้นหน้าคุ้นตากับนางเอกสาว ซูซี่-สุษิรา แน่นหนา เป็นอย่างดี เพราะนอกจาก
เธอจะผ่านงานโฆษณามามากมายแล้ว เธอก็ได้เขยิบขึ้นมาเป็นนางเอกของช่อง 3
หลายคนคงอยากจะรู้แล้วว่าเธอคนนี้มีอะไรดี ถึงได้มาเป็นดาวอีกดวงที่ประดับวงการบันเทิง
“ดาวต่างมุม” จึงเชื้อเชิญเธอมาพูดคุยเพื่อให้ทุกคนและแฟน ๆ ละครได้รู้จักเธอมากขึ้น

บทสัมภาษณ์จาก เดลินิวส์

 
 


ถาม

ก่อนเข้าวงการถ่ายแบบโฆษณามาเยอะมาก

 

เริ่มตั้งแต่อายุ 13 ค่ะ ถ่ายโฆษณาทีวี ถ่ายแบบก็เยอะมาก ถ่ายไปประมาณ 7 ปี กว่าจะได้เล่นละคร พออายุ 20 ก็เริ่มถ่ายละคร ผ่านงานมาประมาณ 20 กว่านะ ที่มาทำงานตรง นี้ได้ก็เพราะมีคนชวนให้มาทำตั้งแต่อยู่ที่ เชียงใหม่แล้ว เขาบอกว่าน่าจะไปเป็นนางสาวไทยหรือไปถ่ายแบบ แต่ซี่ไม่ชอบประกวดอะไรแบบนี้ เลยสนใจเรื่องถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา คุณแม่เลยพามาที่กรุงเทพฯ มาหาเอเจนซี่ที่นี่ จนมาเจอพี่จิ๋ม โมเดลลิ่ง ก็ทำงานกับเขามาเรื่อย ๆ พออายุ 15 ซี่ก็ไปเจอพี่นุ ซึ่งเป็นผู้จัดการของซี่ คนปัจจุบันนี้ เขาอยู่โมเดลลิ่งเหมือนกันแล้วพี่จิ๋มกับพี่นุสนิทกัน ก็ไม่มีปัญหาอะไร

ถาม ตั้งใจจะเป็นนางแบบตั้งแต่เด็ก ๆ เลยหรือเพราะมีโอกาส
 

เราก็ถนัดด้านนี้นะในความรู้สึกของตัวเอง อยากทำงานด้านศิลปะอยู่แล้ว เลยสนใจ

ถาม จากงานโฆษณาจู่ ๆ มาเล่นละครได้ยังไง ส่วนมากคนมาสายถ่ายแบบจะไม่ค่อยมาเล่นละครนะ
 

ก็อยากเรียนแอ๊ค ติ้ง พี่นุเลยส่งไปที่บรอดคาซท์ ไทยเทเลวิชั่น เลยได้ไป โชว์ตัวอัดเทป พอเขาส่งเทปไปทางช่อง 3 ซี่ก็รอผล เขาก็โอเค อยากให้ซี่เป็นนางเอก ตอน นั้นยังเป็นแค่นางเอกในละครเรื่องแรก “สื่อรักชักใยอลวน” แล้วก็มาเป็นนางเอก “เพลิงสีรุ้ง”



ถาม ตื่นเต้นมั้ยได้ทำงานที่เราชอบ
  ตื่นเต้นค่ะ แต่ช่วง  แรก ๆ ก็เครียดนะเพราะมันต้องปรับตัวเยอะมาก ตอนนั้นก็ไม่ได้คล่องภาษาไทยมากด้วย บทก็เยอะ ไม่เข้าใจต้องพูดยังไง เพราะเราก็เรียงประโยคไม่แม่นมาก เราอยู่ที่เชียงใหม่เราเรียนอินเตอร์ด้วยทำให้ไม่ได้ฝึก ก็มาฝึกใช้ภาษาไทยกับพี่ ๆ ที่ค่าย เพราะส่วนมาก   คนรอบตัวที่ซี่สนิทก็จะพูดภาษาอังกฤษกันหมดเลย
ถาม

แอ๊คติ้ง เรื่องภาษา ทำเราเตรียมตัวหนักมั้ย

 

ก็ต้องคิดหลายอย่างมาก แต่พอได้เริ่มปรับตัวเข้าหาสังคมผู้คนที่อยู่ในกองเราต้องใช้เวลานิดนึงใน การจะเข้ากับคน พอได้ปรับตัว แล้วก็รู้สึกสบายใจขึ้นเยอะเลย เริ่มถ่ายกับพี่สมาร์ท-กฤษฎา พรเวโรจน์ ได้ดีขึ้น เพราะตอนแรกจะเกร็งนิดนึง อย่างช่วง อาทิตย์แรกที่ถ่าย “เพลิงสีรุ้ง” ต้องเข้าฉากเลิฟซีนเลย ต้องจูบกันครั้งแรกเครียดเพราะต้องจูบคนแปลกหน้าครั้งแรก ก็รู้สึกผิด กับแฟนมากด้วย (หัวเราะ) แต่ไป ๆ มา ๆ ก็ไม่รู้สึกอะไร เป็นการแอ๊คติ้งมากกว่า

ถาม ทำไมถึงตัดสินใจเล่นจริง เพราะบางคนที่เริ่มงานใหม่มักจะยังไม่กล้าเล่นเลิฟซีนจริง
 

ซี่เป็นคนอยากทำงานเต็มที่ เวลาจะทำอะไรเราต้องทำให้เต็มที่ที่สุด ให้ร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่อย่างนั้นจะไม่ทำ ถ้าเราทำอะไรครึ่ง ๆ กลาง ๆ ผลงานก็ออกมาไม่ได้ดีที่สุด แล้วอีกอย่างเราเป็นคนชอบทำอะไรให้สมบูรณ์แบบด้วย

ถาม

จากที่เคยไปเป็นนางรอง พอได้เป็นนางเอกดีใจมั้ย

  ก็รู้สึกเป็นเกียรติที่เขาเลือกเรามาเป็นนางเอกในขณะที่เราเล่นแค่เรื่องที่สองเอง
ถาม

เคยถามพี่หน่อง-อรุโณชา ภาณุพันธุ์ บอสใหญ่ บรอดคาซท์ไทย เทเลวิชั่นมั้ยว่าเห็นอะไรในตัวเราแล้วถึงเลือก

 

ไม่ได้ถามเขานะ แต่เขาก็เกริ่นมาให้นิดนึงว่าเห็นเรามีอะไรอยู่ในตัวที่จะ สามารถดึงทุกคนมา ชอบเราได้  แล้วอีกอย่างเราเป็นคนเต็มที่กับงานด้วย

ถาม

จากถ่ายแบบโฆษณาแล้วมาเล่นละคร ต่างกันเยอะมั้ย

 

เยอะมาก เพราะว่าจริง ๆ แล้วซี่ก็ได้มีโอกาสเรียนแอ๊คติ้งจากเชียงใหม่ด้วย ตอนอายุ 15 แต่โฆษณามันเล่นแค่แป๊บเดียว 10 วินาทีก็คัตแล้ว ไม่เหมือน ละครที่ต้องเล่นยาว โฆษณาไม่ต้องไต่ระดับอารมณ์แต่ละครต้องมีเพื่อเพิ่ม พัฒนาการทางอารมณ์ของตัว ละครในตอนนั้น ๆ

ถาม

หนักใจกับบทไหนมากที่สุดที่ต้องเล่น

 

บทจอมขวัญ ในละคร “เพลิงสีรุ้ง” นี่แหละ ที่ต้องร้องไห้ เศร้า เพราะเราต้อง เข้าให้ถึงอารมณ์มาก แล้วซี่เป็นคนที่ถ้าจะแอ๊คติ้ง อะไรมันต้องมาจากข้างใน จะเฟคไม่เป็น มันก็เหนื่อยมาก เราต้องสร้างจินตนาการเยอะแยะในสมอง ก่อนที่จะปล่อยออกมาได้ ตอนถ่ายเพลิงสีรุ้ง ที่เล่นเป็นจอมขวัญ ก็ถูกทำร้าย ทารุณเยอะแยะไปหมด ต้องเศร้าตลอดเวลา มีเก็บไปเครียดที่บ้านต่อด้วย
แรกๆก็มีทำให้เรานอนไม่หลับบ้าง เพราะยังติดอารมณ์ของตัวละครกลับไป บ้านด้วย แต่ว่าตอนนี้มาถึงจุดที่ซี่สามารถแยกแยะได้แล้วว่าอันไหน เป็นละครหรือชีวิตจริง



ถาม ตอนนี้มีผลงานอะไรอีกบ้าง
 

ตอนนี้มีถ่ายแบบหนังสือเยอะ แล้วก็มีโฆษณาด้วย แต่งานละครก็รอถ่าย “เรือนหอรอเฮี้ยน” อยู่ เป็นโรแมนติกคอมเมดี้ มีแฟนตาซีด้วยนะเพราะมีผี แต่กำลังถ่ายทำอยู่ค่ะ ยังพูดอะไรมากไม่ได้

ถาม เรารู้สึกยังไงบ้างตอนเล่น “เพลิงสีรุ้ง” เปรี้ยงมากแล้วตอนนี้งานละครเหมือนซาไป
 

ซี่ไม่อยากจะเล่นละคร 2 เรื่องในเวลาเดียวกัน มันไม่ไหวค่ะ หลายคนเขาอาจจะทำหลายเรื่องพร้อมกันเพื่อที่จะมีผลงานออกไปเยอะ ๆ ให้คนติดตาม แต่ซี่เองก็ไม่ได้เครียดอะไรกับเรื่องนี้มากนะก็อยากทำงานให้ดีที่สุด  อีกอย่างเราไม่ได้เป็นแค่นักแสดงไง เราเป็นนางแบบด้วย ต้องทำงานนี้งานนั้นด้วย อีกอย่างเรารักงานถ่ายแบบเหมือนกัน เรามาจากตรงนั้นด้วย ก็เลยไม่อยากทิ้ง งานถ่ายแบบไป ก็ขอทำควบกันไปค่ะ 


ถาม
ตอนนี้พอเริ่มมีชื่อเสียงความเป็นส่วนตัวเราหายไปบ้างหรือยัง
 

ก็มีบ้างค่ะ จะมีคนทักตลอดเวลา ตอนเป็นนางแบบคนยังไม่ค่อยรู้จัก ตอนนี้ก็ต้องระวังตัวมากขึ้นด้วย แต่ซี่ก็พยายามจะเป็นตัวเองให้มากที่สุด ถ้ามีอะไรที่คนไทยเขาอาจจะไม่เห็นด้วยในบางเรื่อง  เราก็จะอธิบายว่าเรามาจาก พื้นฐานตรงนี้นะ ความคิดพื้นฐานมันแตกต่างกัน แต่เราก็ไม่ทำอะไรให้มันดู น่าเกลียดอยู่แล้วแหละ คุณแม่เองท่านเป็นฝรั่งแต่ท่านก็จะชอบพฤติกรรม เห็นมารยาทของเมืองไทยเป็น สิ่งที่ดี แต่ก็สอนเราให้เป็นธรรมชาติ

ถาม
ความรักกับเจมส์เป็นยังไงบ้าง
 

ก็ดีค่ะ เหมือนเดิมแฮปปี้ดี เรารู้จักกันมาตั้งแต่ 5-6 ขวบ ประมาณ 20 กว่าปี ได้ แต่มาคบกันเป็นแฟนคือช่วงเมื่อประมาณเกือบจะ 3 ปีที่แล้วค่ะ ตอนหลัง แล้วเจมส์เขามาเล่าให้ฟังว่าเขาปิ๊งเราตั้งแต่อยู่ไฮสคูลแล้ว แต่ตอนนั้นเรา ก็ไม่รู้ นะเพราะเขาเข้ามาแบบเพื่อน แต่พอเกิดเหตุการณ์บางอย่าง ขึ้นที่ เชียงใหม่จนทำให้มีการรวมตัวของเด็กนานาชาติเมื่อ 3 ปีที่แล้วเราก็ได้เจอ เขาอีกที แล้วก็มาปิ๊งกัน ตอนนั้นค่ะ (ยิ้ม)

ถาม
ประทับใจเจมส์ตรงไหนบ้าง
 

เขาเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดที่เราเคยเจอมา ในแง่การดูแล ความคิดมุมมองต่าง ๆ โตคล้าย ๆ เราพื้นฐานเป็นลูกครึ่งที่โตเชียงใหม่ มุมมองความรักใกล้เคียง กันมาก  เลยทำให้เข้ากันง่าย ถามว่าวันนี้ยังมีอะไรที่ต้องปรับกันอีกมั้ย ซี่ว่าโดยธรรมชาติแล้ว คนเราต้องปรับเปลี่ยนอยู่ตลอด อยู่แล้ว

 
ถาม เคยมีทะเลาะกันบ้างหรือเปล่า
 

กับเจมส์บางครั้งก็มีไม่เข้าใจกัน แต่ก็ไม่ถึงกับโวยวาย ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจกัน การสื่อสารเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าต่างคน ต่างโกรธมาก เดี๋ยวจะพูดอะไรแรง ๆ แล้วทำให้อีกฝ่ายเสียใจ ซึ่งความรู้สึกที่เสียไปแล้ว มันไม่สามารถเอาคืนมาทีหลังได้ เราจะระวังเรื่องนี้กันมาก

ถาม ณ วันนี้กับเจมส์มั่นคงพอที่จะพัฒนาถึงขั้นแต่งงานมั้ย
 

ค่ะ ซี่เห็นว่าอนาคตก็อยากจะอยู่กับคนนี้ ตอนนี้เราก็พยายามเก็บเงินหาเงินเพื่อครอบครัวและอนาคตของเราทั้งสองคน เพราะเราก็ไม่ได้มาจากครอบครัวที่ร่ำรวย คิดว่าอีกประมาณ 3 ปีน่าจะมีข่าวดี

ถาม

กับเจมส์มีวิธีดูแลความรักยังไงเพราะ 3 ปีสำหรับบางคน จะมีจุดอิ่มตัว

  ก็ง่าย ๆ เลย มีอะไรต้องสื่อสารและปรับความเข้าใจกัน ไม่อย่างนั้นถ้ามี อะไรติดอยู่ในใจ มันก็จะอยู่ตรงนั้นแหละไม่ไปไหน อีกอย่างเราต้องจริงใจ ซื่อสัตย์ต่อกันเพราะเป็นสิ่งสำคัญมาก
ถาม

เจมส์มีเจ้าชู้บ้างมั้ย

 

ไม่เคยเลยค่ะ เขาเป็นคนที่ไม่เจ้าชู้เลยแหละ น่ารักมาก ๆ

ถาม

มองมั้ยว่าจะอยู่ในวงการบันเทิงไปอีกสักกี่ปี

 

ตอนนี้ยังไม่แน่ใจนะ แต่เราก็พยายามทำต่อไปเรื่อย ๆ เราก็ยังมีอย่างอื่น ที่อยากจะทำในวงการ เช่น งานเพลง อยากจะบอกว่าเพลง ดนตรี คืออันดับหนึ่งของซูซี่เลยที่คนไม่รู้ เพราะเราชอบร้องเพลง ชอบเต้น แต่ก่อนเป็นครูสอนเต้นที่เชียงใหม่ด้วย ถ้าเป็นไปได้อยากทำเพลง แนวอาร์แอนด์บี เพราะเราชอบเต้นฮิปฮอปและถนัดด้วย

ถาม

เคยมีค่ายไหนมาจีบหรือยัง

 

ที่ผ่านมาก็มีคนมาชวนให้ไปทำ แต่ซี่ก็บอกเขาไปว่ายังอยากเป็นนักแสดงอยู่ อย่างเวลาไปทำงานช่อง 3 ก็ได้ไปเต้นไปร้อง สนุกมาก เป็นความชอบที่ อธิบายไม่ถูกเลย



ถาม โอกาสมีมาแล้วนะ ทำไมเราไม่ตอบรับล่ะ
 

รู้สึกอยากจะทำงานตรงนี้ให้ดีที่สุดก่อน ให้เป๊ะก่อน แถมตอนนี้อายุก็ยังน้อยอยู่ ไม่ต้องรีบอะไรหรอก (หัวเราะ) 

ถาม คิดว่าตัวเองโชคดีมั้ยเพราะบางคนงานรุ่ง แต่ความรักไม่ดี ในขณะที่ชีวิตซูซี่ลงตัวทุกอย่าง
 

โชคดีสิคะ ซี่รู้สึกเหมือนเราได้พรจากพระเจ้าเลยค่ะ แล้วเด็ก ๆ ก็ไม่เคยคิดไกลถึงขนาดนี้แค่อยากจะถ่ายแบบเดินแบบ เท่านั้นแหละ แต่ก็ถือว่าเป็นชีวิตและโอกาสที่ดีค่ะ

 

* ดูประวัติ ซูซี่-สุษิรา แน่นหนา

* ดูอัลบั้มรูป ซูซี่-สุษิรา แน่นหนา


 
 

Box Office

เรื่อง
ล่าสุด
รวม
1.
2.
3.
4.
5.
เรื่อง
ล่าสุด
รวม
1.
2.
3.
4.
5.

บทสัมภาษณ์ทั้งหมด

 
ยังไม่มีข้อมูล
หน้าแรกย้อนกลับ [ 1 ] หน้าถัดไปหน้าสุดท้าย
 
 

ติดตามหนังดี : Youtube Instagram Facebook Twitter  

MMM Digital Asset Co.,Ltd.
109 อาคารซีซีที ชั้น 2 ถนนสุรวงศ์
แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
Tel. 0-2234-7535    FAX. 0-2634-4269
E-mail: webmaster@nangdee.com   © 2006 nangdee.com
แผนที่ | sitemap | ติดต่อโฆษณา