“ชีวิตเปลี่ยนพอสมควรครับ จากที่ดูแลตัวเองน้อยก็เปลี่ยนเป็นดูแลตัวเองมากขึ้นครับ จากเมื่อก่อนไปไหนมาไหนก็เสื้อยืดกางเกงยีน รองเท้าแตะ แต่เดี๋ยวนี้แต่งตัวเรียบร้อยขึ้น ขายาว รองเท้าผ้าใบ”

ถาม

“โป๊ป เคยประกวดในรายการ ตามหาจะเด็ดของท่านมุ้ย และหลังจากนั้นผมก็ได้มาเล่น นเรศวร ภาค 3 เล่นเป็นขุนรามเดชะ ทหารคนสนิทของ พระราชมนู แต่ไม่มีบทพูดอะไรมากครับ และก็ไปเล่น อ๊อกโตเบอร์โซนาต้า แล้วได้มาเล่น ดอกส้มสีทอง นี่แหละครับ”

ถาม

“ก็ถือว่ามีคนรู้จักมากขึ้นครับ เออ...อีกเรื่องครับก่อนจะมา ดอกส้มสีทอง ตอนนั้นก็ได้เล่นเรื่อง เขาชื่อกานต์ ของไทยพีบีเอส แต่ว่าไม่ได้ออกอากาศ แล้วตอนที่คัดตัวได้เป็น จะเด็ด ตอนนี้เขาก็ล้มเลิกโครงการไป ก็งงเหมือนกันครับ ว่าทำไม ดวงเราเป็นแบบนี้”

มีท้อบ้างไหม?

“ก็มีท้อครับ แต่ก็อดทนต่อสู้มาจนถึงวันนี้ เมื่อสองปีแรกช่วงที่เคว้ง ช่วงนั้นก็คิดว่าจะออกไป ทำงานที่เรียนมา คือผมจบ นิเทศศิลป์ ลาดกระบัง ช่วงนั้นเลยคิดว่าจะไปทำงานประจำดีไหม ก็ไปสมัครงานเลยครับ แล้วก็ได้ด้วย แต่ผมก็คุยกับผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่เขาก็บอกว่าแล้วแต่ เขาถามผมว่า ผมรักอะไรมากกว่ากัน ผมก็บอกว่าผมรักการแสดงมากกว่า ผมสนุกมากกว่า เขาก็บอกงั้นก็ต้องสู้นะ ผมเลยปฏิเสธงานที่ได้มา ก็เลือกที่จะสู้ต่อไปตอนนั้น โดยไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง”

แล้วเรามีผู้สนับสนุนหรือว่าผู้จัดการไหม?

“ไม่มีครับ ผมเข้ามาตัวคนเดียว ทุกวันนี้ผมก็ดูแลตัวเองครับ”

แล้วตอนที่พี่หน่อง (อรุโณชา ภาณุพันธ์) เรียกไปคุยเรื่อง ดอกส้มสีทอง ตอนนั้นคิดอีกไหมว่า ละครจะได้ออกอากาศไหม?

“(หัวเราะ) ไม่คิดครับ เพราะคิดว่ายังไงบริษัทพี่หน่องทำ ได้ออกอากาศแน่  ๆ แต่ไม่คิดว่าจะมีคนรู้จัก มากขึ้นขนาดนี้ เพราะว่าบทผมไม่ได้เยอะอะไร ก็คิดว่าเราร่วมงานกับช่อง 3 ครั้งแรกก็ลองดู ก็เกินคาดครับกับสิ่งที่ตามมาจากละครเรื่องนี้”

โป๊ป ตัวจริงเป็นคนยังไง?

“ผมเป็นคนที่มีหลายบุคลิกในตัว บางทีผมก็เงียบ ๆ ครับ บางทีผมก็กวน ๆ บางทีผมก็ไม่รู้นะว่าผมเป็น คนแบบไหนกันแน่ แต่คิดว่าน่าจะเงียบ ๆ นิ่ง ๆ มากกว่า แต่ก็แล้วแต่ว่าเราคุยกับใคร ถ้าคนที่เราคุยด้วย เขาเปิดใจกับเรา เราก็สนุกสนานด้วย แต่ถ้าเขาไม่เปิดใจกับเรา เราก็นิ่ง ๆ ใส่”

“ไม่ครับ อย่างที่บอก ถ้าผมเจอคนที่ไว้ใจได้ เขาคิดดีกับเรา ผมก็จะคุยกับเขาทุกอย่างนะ เราจะเปิดใจคุยกับเขานะ ผมเป็นคนไม่มีโลกส่วนตัว”

ที่บ้านอย่างคุณพ่อ คุณแม่ ว่าอย่างไรบ้าง หลังจากที่เรามีคนรู้จักมากขึ้น หลังจากที่สู้มานาน?

“เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรครับ แต่ผมรู้สึกได้ว่าเขามีความสุขมากขึ้นด้วยอะไรบางอย่างไม่รู้ อย่างเมื่อก่อน เวลาเข้าบ้านไป เราก็เหมือนเป็นคนมีอะไรในใจตลอดว่าจะยังไงดี เวลาเข้าบ้านไปเราจะเห็นทุกคน ดูเศร้า ๆ หมดในตอนนั้น เพราะว่าพ่อผมป่วย ด้วยตอนนั้น แต่ตอนนี้พ่อผมเสียไปแล้วนะครับ ก็หลายปีแล้ว แต่พอเวลาผ่านไปตอนนี้ผมรู้สึกได้ว่า แม่มีความสุขขึ้นแล้ว”

“นอนครับ (หัวเราะ) คือเวลาทำงานก็เต็มที่กับงานครับ ตอนนี้ถ่ายละครอยู่สองเรื่องด้วย ไม่ค่อยจะได้ไปไหน หรือว่าไปออกกำลังกายเลยครับ แล้วพอว่างผมก็อยากจะนอน อยากจะอยู่บ้านมากกว่าครับ ไม่อยากไปไหนเลย แต่ถ้าเมื่อก่อนช่วงงานไม่เยอะ ผมก็จะไปฟิตเนสตลอด ชอบออกกำลังกายครับ”

ขอถามเรื่องสาว ๆ บ้าง โป๊ปมีแฟนแล้วหรือยัง?

“ยังครับ ยังไม่เจอ แต่เคยเจอคนที่ใช่ เขาก็มีแฟนแล้ว เป็นอย่างนี้ ชีวิตเศร้านะ (หัวเราะ)”

“ผมชอบผู้หญิงยิ้มง่าย ๆ หน้าไม่เครียดครับ ดูสดใส แต่ไม่พูดเก่งนะ เรียบร้อย ๆ นิดหนึ่ง หวาน ๆ จะเปรี้ยวนิดหนึ่งก็โอเคนะ แต่ขอเรียบร้อยมากกว่าเปรี้ยวดีกว่าครับ แล้วก็รู้จักแต่งตัวแบบพอดี ๆ”

โป๊ป เคยอกหักไหม?

“เคยครับ สมัยเรียน (หัวเราะ) ตอนนั้นมันเหมือนผิดหวังมากกว่า แต่ผมก็กลับมาดูตัวเองนะ ว่าเพราะอะไร หรือว่าเราเองที่ผิด ที่อยากจะให้เป็นอย่างนั้น อย่างนี้ ไม่ได้ชอบคอนโทรลนะ แต่คิดว่าอะไรที่เราไม่ชอบ เราก็จะบอกเขา ส่วนเขาจะทำได้ไม่ได้ก็อีกเรื่องหนึ่ง มันก็ต้องปรับตัวเข้าหากัน แต่สุดท้ายพอไปกันไม่ได้ ก็ต้องแยกย้ายกันไป ตอนนั้นก็เศร้ามากนะ มันเหมือนรักแรก (หัวเราะ) ตอนนั้นมันเสียใจ มันผิดหวัง คิดว่าไม่น่าจะเป็นแบบนี้”

เป็นคนเซนซิทีฟเหมือนกันนะ?

“เมื่อก่อนไม่นะครับ เวลาดูหนังเศร้า ก็คิดว่าเศร้าแต่ไม่ร้องไห้ ไม่อะไรเลย แต่ตั้งแต่ผมเข้ามาในวงการ ได้ศึกษาการแสดงมากขึ้น เริ่มมองชีวิตคนมากขึ้น เดี๋ยวนี้เวลาดูหนังเศร้าจะร้องไห้เลย (หัวเราะ) จริง ๆ นะ ถ้าเรื่องไหนคล้อยตามได้ง่าย ถ้ามันเศร้าจริง ผมก็น้ำตาไหล อย่าง กังฟู แพนด้า ภาค 2 ผมดูแล้วผมยังน้ำตาไหลเลย ตอนที่พ่อเป็ดคุยกับโป ว่าเขาเลี้ยงมา เขารักเหมือนลูกจริง ๆ ของเขา ตอนนั้นน้ำตาไหลเลย (หัวเราะ)”