ถาม

ก็แปลกตาดี เพราะเจนี่ไม่เคยเล่นเป็นทาส เจนี่เลือกบทเอง ในชีวิตนี้คงไม่มีโอกาสมารับบท ไกลตัวแบบนี้ ตอนเป็นทาสให้เจนี่นึกก็นึกไม่ออกว่าคนเป็นทาสลำบากขนาดไหน เพราะมันห่างไกล กับชีวิตจริงเราเยอะมาก เจนี่ต้องทำการบ้านเยอะ เครียดมาก เป็นละครที่เครียดที่สุดเท่าที่ เคยแสดงมา อย่างในฉากตอนที่ได้ปลอมตัวเป็นเจ้าหญิงแล้วต้องกินไก่แบบมูมมามเพราะเราไม่ เคยกินมาก่อน คนดูอาจจะขำ แต่มันยากมากนะ เนื่องจากชีวิตเราไม่เคยเป็นแบบนั้นมาก่อน

ถาม

ครั้งหนึ่งในชีวิตเจนี่ก็ขอเล่นบทอะไรแบบนี้บ้าง ก็ดีใจนะ เรื่องนี้เราต้องใช้ภาษาโบราณด้วย เจนี่ชอบนะ เป็นภาษาที่ควรอนุรักษ์เอาไว้ อย่างเด็กรุ่นนี้เขาอาจจะไม่ค่อยได้มีโอกาสชม ละครพีเรียดมากเท่าไหร่ ละครแบบนี้จะให้ความรู้เรื่องภาษาและการแต่งกายในสมัยก่อน จริงอยู่อาจจะไม่ได้ตรงตามยุคสมัยเป๊ะทุกอย่าง

หลายคนมองว่าบทของเจนี่เด่นกว่าบทของ เชอรี่-เข็มอัปสร สิริสุขะ

ไม่เกี่ยวหรอกค่ะ ตัวพี่เชอรี่เป็นคนเลือกบทเจ้าหญิงเอง เจนี่เลือกบททาส อย่างบทเจ้าหญิงหรือ คุณหนูเจนี่ก็เคยเล่นมาบ่อยแล้ว ถ้าให้เรามาเล่นบทเจ้าหญิงเราก็คงรู้สึกเบื่อไม่มีอะไรท้าทาย ในทางกลับกันพี่เชอรี่ก็เล่นบทห้าว ๆ มาเยอะ คนก็ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะมาเล่นบทน่าสงสาร รันทดได้ บทนี้เลยท้าทายสำหรับพี่เชอรี่เหมือนกัน

เจนี่อยู่วงการมา 15 ปี คิดว่าอะไรที่ทำให้เจนี่มีงานเรื่อย ๆ และอยู่ได้คงที่

เจนี่เป็นคนซีเรียสกับเรื่องงาน มั่นใจว่าเป็นคนทำการบ้านก่อนทำงานตลอด เราทำงานในวงการมานานแล้ว เราก็ต้องมีพัฒนาการในทุก ๆ ด้าน

ตอนนี้ทางช่องจะมีน้องใหม่เข้ามาเจนี่มีหวั่นบ้างมั้ย

ไม่หรอกค่ะ เจนี่ไม่จำเป็นต้องเล่นเป็นเด็กอายุ 15 ตลอด เจนี่ยอมรับได้ที่ต้องโตตามวัย อย่างงานในวงการถามว่าเจนี่มองไปถึงขนาดไหน เจนี่ก็อยากทำไปเรื่อย ๆ อย่างอีกหน่อย ถ้าต้องเล่นบทแม่ เจนี่ก็เล่นได้นะ แต่บทนั้นต้องมีความสำคัญ ไม่อย่างนั้นจะมีรางวัลนักแสดงสมทบ ยอดเยี่ยมเหรอ อนาคตในการทำงานเจนี่ยังไม่เคยมองนะ แต่ก็คงไม่ใกล้ไม่ไกลวงการบันเทิงหรอก ในเมื่อเรามีโอกาสได้อยู่ตรงนี้แล้ว เราก็ต้องรักษาโอกาสนี้เอาไว้

กับเรื่องข่าวบ้างหลายคนมองว่าตกลงกับ ฟิล์ม-รัฐภูมิ ยังไงกันแน่

ขอไม่พูดเรื่องนี้ได้มั้ย ที่ไม่อยากพูดเพราะมันไม่ได้เป็นความทรงจำสำหรับชีวิตเจนี่ ไม่ได้มีคุณค่าทางจิตใจ ไม่รู้ว่าจะพูดไปทำไม

สังเกตมั้ยว่าเจนี่จะไม่พูดเรื่องข่าว เพราะพูดไปก็ไม่เกิดประโยชน์ ถ้าเจนี่พูดจะพูดครั้งเดียว จะไม่พูดบ่อย ๆ เพราะมันดูไม่มีค่า เจนี่ยอมอดทนเพื่อให้มีวันของเจนี่บ้าง ข่าวกับอั้ม เป็นเรื่องปกติ ที่ต้องมีเข้าใจผิดกันบ้าง แต่ตอนนี้เจนี่กับอั้มก็คุยกันปกติดี เรื่องไปอังกฤษก็เป็นเรื่องการไปเที่ยวเท่านั้น แต่ที่โกรธคือเรื่องทำแท้ง เจนี่รู้สึกว่าทำไมคนเขียนถึงเขียนข่าวไม่คิดเจนี่อยู่วงการมา 15 ปี ใคร ๆ ก็อยากจะมีครอบครัวและชีวิตรักที่ดี เพื่อนของเจนี่ยังอยากมีลูกเลย แล้วเจนี่เหรอจะไม่อยากมี เขียนแบบนี้เหมือนดูถูกศักดิ์ศรีผู้หญิงนะ

ยังไม่รู้ เป็นเรื่องอนาคต เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ต้องคุยกัน ตอนนี้เราก็ยังเป็นเพื่อนปกติ สามารถร่วมงาน กันได้  ถ้าเจนี่ให้คำว่าเพื่อนก็คือเพื่อนจริง ๆ ก็แปลว่าร่วมงานกันได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เจนี่รู้สึกว่า เขาเป็นคนหนึ่งที่เจนี่คบก็คงทำงานด้วยกันไม่ได้

ที่ผ่านมาเรื่องความรักของเจนี่ดูไม่แฮปปี้เท่าไหร่

เจนี่ไม่ประสบความสำเร็จด้านนี้ เลือกเยอะ ชีวิตผู้หญิงคนเราก็อยากจะเจออะไรดี ๆ ที่ใช่ หลังจากที่เพื่อน ๆ เริ่มแต่งงานมีครอบครัว เรารู้สึกว่าเหงา แต่เจนี่ไม่อยากมีใครสักคน แค่เพื่อมาคลายเหงา เพราะอันนั้นไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน

เจนี่เป็นคนไม่อยากคาดหวังอะไรที่ไกลเกินไป ถ้าเราคาดหวังอยากให้เป็นแบบนั้น แล้วถ้าไม่เป็น อย่างที่หวังขึ้นมาเราจะเสียใจ เจนี่แค่อยากทำวันนี้ให้ดีที่สุด ยังไงเจนี่ก็อยากใช้เวลามากที่สุด

ล่าสุดกับ ตั้ม-สิริเกียรติ ทำไมถึงเรียกว่า "แฟน"

ก็มั่นใจอ่ะ ถ้าไม่มั่นใจก็ไม่พูด และเราก็โตแล้ว คงไม่เร็วเกินไปที่เจนี่จะพูดว่ากำลังศึกษาดูใจ ใครคนหนึ่งอยู่ ที่เจนี่ไม่อยากปิดเพราะว่าถ้าเจนี่ไปไหนมาไหนกับเขามีคนเห็นเราเดินจูงมือกัน เราก็ไม่อยากให้คนมานั่งนินทา บอกให้รับรู้ไปเลยดีกว่า และถือว่าเราก็ให้เกียรติเขาด้วย

เขาก็ต้องมีอะไรพิเศษเราถึงได้กล้าพูดแบบนั้น เราก็ไม่อยากพูดว่าเขาดีเวอร์ เดี๋ยวคนอื่นหาว่า เจนี่หน้ามืดตามัว จริง ๆ คนที่เคยคุยที่ผ่านมาก็ดี แต่พี่เขาใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่บางครั้งเราอาจจะละเลยหรือคาดไม่ถึง คนเราคบกันไม่จำเป็นว่าเขาต้องมีเงินร้อยล้าน เจนี่ว่าเรื่องความสัมพันธ์มันมีอะไรที่มากกว่านั้น เงินทองมีมากแค่ไหนตายไปก็เอาไปไม่ได้ แต่สิ่งที่ตายไปกับเราคือความรู้สึกในใจว่าคน ๆ นี้คือคนที่เรารัก พี่เขาเป็นฟ้าหลังฝนของเจนี่

อคนนี้ทำให้เจนี่ดูสดใสขึ้น

แน่สิ คนมีความรักอ่ะ เรามีความสุข ชีวิตเจนี่ไม่ได้มีความสุขมานานแล้ว คนอาจจะมองว่า เจนี่มีพร้อมทุกอย่าง เจนี่ก็ยอมรับว่าเรื่องอื่น ๆ เราเติมเต็มทุกอย่างแล้ว มีบ้านและรถ หน้าที่การงานก็คงที่ แต่เจนี่ไม่มีความสุขเรื่องความรัก เป็นอย่างเดียวที่เจนี่รู้สึกว่าขาดหายไป แต่ตอนนี้ก็มีคนเติมเต็มแล้ว

พี่ตั้มเองก็เคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว และคนมักจะมองว่าเจนี่เป็นคนเลือกเยอะ แล้วทำไมถึงเลือกคบคนที่เคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว

เจนี่เป็นคนไม่สนใจอดีต เขายังไม่สนใจอดีตเจนี่เลย และเราไม่เคยก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขา อดีตก็คืออดีต ปัจจุบันเรามีความสุข ตรงนี้มากกว่าที่เป็นจุดสำคัญของชีวิต

เจนี่กลัวว่าทางตั้มจะโดนขุดคุ้ยเรื่องอดีตมั้ย

ไม่กลัว เพราะพี่เขาไม่ใช่ดารา เขาเคลียร์แล้ว และเรื่องนี้มันก็นานมาแล้ว เจนี่ไม่สนใจ เจนี่ว่าคนสมัยนี้เข้าใจแล้ว ถ้าเจนี่เริ่มต้นกับพี่เขา ณ วันนี้ ก็เป็นเรื่องวันนี้ ไม่ใช่เรื่องอดีตที่ผ่านมา

ก็ให้มันดีบ้างเถอะ ตอนนี้ก็ครบแล้ว ก็ขอให้ดีไปตลอด