'เป้ย' ศรัทธาในรัก โหยหาความอบอุ่น

ตั้งแต่เป็นโสด ดูหน้าตาสดใสขึ้นนะ?

ไม่หรอกค่ะ ตั้งแต่เราคบกัน มันก็ต้องเจอหลายสิ่งหลายอย่างให้เราต้องศึกษาเรียนรู้กัน อาจเจอปัญหาโน่นนี่บ้าง แต่เรื่องของเรื่องคือเราจากกันด้วยดี ไม่ใช่ว่าเราทะเลาะกันแล้วทำให้เราต้องจบตรงนี้ แต่เรามานั่งคุยกันแล้วเห็นตรงกันว่าเราไปด้วยกันไม่ได้จริง ๆ ก็เลยไม่รู้สึกเสียใจมาก คือถ้าจบด้วยความไม่เข้าใจนี่สิถึงเรียกว่าเสียใจ

ทำไมคิดว่าไปด้วยกันไม่ได้ ทั้งที่ดูสวีทกันมาก?

เรื่องบางเรื่องมันมีรายละเอียดเยอะ บางทีนักข่าวไม่รู้ เพราะเราก็ไม่ได้มาบอกว่าเราไม่แฮปปี้นะ เราก็ต้องปิดไว้เพราะเป็นเรื่องของคนสองคน ตลอดเวลาที่คบกันมันต้องคอยปรับจูนกัน พี่เต็มยังเคยออกมาพูดเลยว่ามันมีปัญหา แม้ว่าคนสองคนจะรักกัน แต่บางทีก็เข้าใจไปคนละแบบ บางทีความเป็นเพื่อนอาจจะเหมาะสมกว่าก็ได้

แล้วตอนนี้ยังคุยกันบ้างไหม?

ยังคุยกันอยู่ค่ะ ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน จริง ๆ แล้วเราทั้งคู่ก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ผ่านอะไรมาก็เยอะ เรายังคิดเลยว่าบางทีเรามาเป็นเพื่อนกันไปก่อน ส่วนอนาคตมันอาจจะเข้าใจและไปด้วยกันได้มากกว่านี้ก็ได้ แต่ตอนนี้ขอเป็นเพื่อนกันไปก่อนแล้วกัน สำหรับเป้ยก็ยังไม่แฮปปี้ซะทีเดียว ยังคิดยังห่วงว่าเขาจะเป็นอย่างไรบ้างนะ ในฐานะคนเคยคบกัน มันก็ย่อมอยากรู้ว่าอีกฝ่ายสบายดีไหม พี่เต็มเองก็เป็นห่วงเราเหมือนกัน บางครั้งเราเจอปัญหาอะไร เขาก็รับรู้มาจากคนนั้นคนนี้ เขาก็เป็นห่วงเรา ส่งข้อความมาบ้าง ต่างคนต่างห่วงซึ่งกันและกันค่ะ

เป็นเพราะความเสน่ห์แรงของเป้ยหรือเปล่า?

เป้ยมองว่าผู้หญิงทุกคนก็ต้องมีคนเข้ามาจีบอยู่แล้ว สำหรับเป้ยเรื่องคนมาชอบมันเป็นเรื่องธรรมดามาก แต่เป้ยก็ชัดเจนว่าเรากำลังคบกับใครอยู่ เพราะฉะนั้นเราไม่กังวลใจอะไรเลย เพราะเราแสดงให้เขาเห็นแล้วว่าเราเองก็เต็มที่กับเขานะ เรารักเขาและมีเขาแค่คนเดียว แต่จังหวะเวลาบางทีมันไม่ตรงกัน เพราะเป้ยมีงานเยอะ ส่วนพี่เต็มเขาก็ทำงานในห้องอัดทั้งวัน บางครั้งเขาอาจจะเห็นว่าเป้ยหายไปหรือไม่รู้ว่าทำอะไรอยู่ บวกกับความที่เป้ยเองเวลาทำงานจะลืมโทรศัพท์ไปเลย มาหยิบอีกทีตอนจะถ่ายรูป ก็เห็นว่าเขาโทรฯ มาหรือส่งข้อความมา เขาอาจจะไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น

ชีวิตตอนโสดเป็นอย่างไรบ้าง?

มันก็เบาลงตรงที่ไม่ต้องเป็นห่วงว่าเขาจะเป็นอย่างไร จะนั่งรอเราอยู่ไหม แต่ด้วยความที่เป้ยเป็นคนที่มีความรักมาตลอด เป้ยเป็นคนที่ขี้เหงา อยากมีคนรักอยู่ข้าง ๆ คอยให้กำลังใจเรา ต่อให้เรามีเพื่อนมากขนาดไหน มันก็ไม่เหมือนกับแฟน พอตอนนี้ไม่มีใครก็แอบเหงาบ้างนิดนึง เพื่อนยังเคยบอกเลยว่าเป้ย แกลองอยู่คนเดียวบ้างสิ เคยลองนะ แต่เอาเข้าจริง ๆ ทำไม่ได้ เพราะเราเหงา มักจะชอบคิดถึงความรักที่ผ่านมา แล้วเราก็เป็นคนใจอ่อนด้วย เลยพยายามหาอะไรมาทดแทน บางทีมันก็พลาด มานั่งคิดทบทวนว่าไม่น่าพลาดเลย แต่เป้ยจะไม่คิดว่าฉันต้องอยู่คนเดียว ฉันต้องอยู่กับตัวเอง จะออกแนวสนุกสนานมากกว่า คุยได้ก็คุยไปหรือเป็นเพื่อนกันไป ดีกว่าไปตั้งกฎเกณฑ์บีบตัวเองว่าฉันต้องอยู่คนเดียว พยายามไม่คิดอย่างนั้น ก็หาอะไรทำดีกว่า คุยกับทุกคนได้ ทุกคนเป็นเพื่อนหมดเลย ไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะต้องคุยกับใครเป็นพิเศษ เวลาใครมาจีบถ้าเขามีแฟนอยู่แล้ว ก็จะปฏิเสธเขาไปเลย แล้วความรักของเราก็ชัดเจน จะไม่คุยกับคนเยอะ เพราะจะปวดหัวต้องคอยไม่ให้รถไฟชนกัน แบบนี้ไม่เอาเลย แต่สำหรับช่วงนี้ก็คุยได้กับทุกคนนะ แต่อย่ามาตั้งความหวังกับเป้ย และอย่ามองว่าเป้ยเป็นผู้หญิงเจ้าชู้ด้วย

มองความรักครั้งใหม่อย่างไร?

ตอนนี้ยังไม่มีแพลนเลยว่าจะต้องคุยกับใคร แฟนใหม่จะเป็นคนอย่างไร นักข่าวชอบมาถามว่าแฟนคนต่อไปของเป้ยจะเป็นแบบไหน เป็นนักร้องอีกหรือเปล่า เอาจริง ๆ นะ ยังไม่มีอยู่ในความคิดเลย เป้ยอยากแต่งงานกับคนที่เป้ยคบ ซึ่งมี พี่บุศย์ อาร์ และพี่เต็ม ทั้ง 3 คนนี้เป้ยยอมรับเลยว่าเป้ยคิดถึงเรื่องแต่งงาน แต่เมื่อศึกษาแล้วมันไม่ใช่ มันก็คือไม่ใช่จริง ๆ

อยากเป็นเจ้าสาวแค่ไหน?

อยากมาก เป้ยพร้อมทุกอย่างเลยนะ ทั้งแบบชุดแต่งงานที่คิดไว้ จะจัดงานแต่งงานแบบไหน จะกล่าวในงานแต่งงานว่าอย่างไร อาฟเตอร์ปาร์ตี้เป้ยจะใส่ชุดอะไร คือคิดไว้หมดแล้ว เป้ยเป็นคนที่ชอบดูรูปชุดแต่งงานและอะไรที่เกี่ยวกับงานแต่งงาน ดูแล้วอินในเรื่องของความรักมาก ดูแล้วแฮปปี้ ชอบชุดแต่งงานแบบนี้นะ แต่งหน้าแบบนี้ บอกได้เลยว่าผู้หญิงคนนี้มีความใฝ่ฝันว่าอยากแต่งงาน อยากมีครอบครัว อยากมีลูก เป็นคนรักเด็ก อย่างเวลาไปห้างด้วยกันก็ไปเป็นครอบครัว ไปทานข้าวด้วยกัน ถึงแม้ตอนเราแก่แล้วก็ยังมีคนข้าง ๆ มาจูงมือเรา มันอาจจะด้วยพื้นฐานครอบครัวเป้ยเองด้วยที่คุณแม่เจออะไรที่เสียใจมา เพราะคุณแม่แยกทางกับคุณพ่อตั้งแต่เป้ยยังไม่เกิด ด้วยเหตุนี้เป้ยจึงโหยหาสิ่งนี้มาตลอด นั่นคือคำว่า “ครอบครัว” เป้ยจึงศรัทธาในความรักและความอบอุ่น

แบบนี้ถ้ามีรักครั้งใหม่ ก็อยากถึงขั้นแต่งงาน?

อย่างที่บอกว่าเรารู้สึกแบบนี้ตั้งแต่คบกับพี่บุศย์แล้ว กับอาร์และพี่เต็มก็คุย แต่ต่างคนต่างก็มีเป้าหมายที่ต่างกัน พี่บุศย์พร้อมแต่ด้วยอะไรหลายอย่างทำให้เราไปด้วยกันไม่ได้ อย่างอาร์เขายังไม่พร้อมด้วยวุฒิภาวะ อย่างพี่เต็มก็มีปัญหาด้วยความที่ยังจูนไม่ตรงกัน ทำให้ต้องจบ อยากบอกว่ากับทุกคนจบกันด้วยดี ปัจจุบันก็ยังเป็นเพื่อนกัน เพราะฉะนั้นเป้าหมายตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิม ยังอยากได้ความรัก ยังอยากมีครอบครัวที่อบอุ่น เราก็ไม่ได้อยากจะเปลี่ยนคนรักบ่อย ๆ หรอก เพราะทุกครั้งที่เลิกมันก็ต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวด ทุกครั้งที่เป้ยร้องไห้ ไม่มีใครเห็นหรอก และเป้ยเชื่อว่าไม่มีผู้หญิงที่จริงจังกับความรักคนไหนอยากจะเปลี่ยนคนรัก บ่อย ๆ หรอก

เป้ยศรัทธาความรักขนาดไหน?

สำหรับเป้ย เรื่องความรักเป็นที่หนึ่งเลย เป้ยไม่ดูคนแค่ภายนอก ไม่ได้ดูที่เงิน เป้ยไม่รู้ว่าใครจะเชื่อหรือเปล่า มันอยู่ที่การคุยเราจะรู้เลยว่าคนนี้อบอุ่นจังเลย ดูแล้วคนนี้เขาดูแลเป้ยได้ ดูแล้วรู้สึกว่ามันคลิก เป้ยก็จะคุยกับคนนั้น ถึงแม้คนนั้นหน้าตาจะไม่ดี เพราะเป้ยจะเลือกคนที่รู้สึกว่าเป้ยเชื่อ มากกว่าจะมองจากรูปร่างภายนอก เป้ยเชื่อว่าถ้าเราจริงจังกับใครสักคนแล้วเรามอบความจริงใจให้ไป เราจะได้รับกลับมา

ช่วงนี้เลยทำงานเยอะขึ้นหรือเปล่าเพื่อให้ลืมรักที่ผ่านมา?

ไม่ได้ทำงานให้ลืมรัก คือไม่ได้คิดอะไรเลย ทำงานไปเรื่อย ๆ มีโปรเจคท์ที่ต้องคุยเยอะแยะ แล้วเราก็ได้ไอเดียมาจากโก๊ะตี๋ด้วยว่า เงินมันลอยอยู่ในอากาศ อยู่ที่ว่าคุณจะคว้ามันมาได้หรือเปล่า และอย่าดูถูกเงินแค่บาทสองบาท เพราะมันอาจจะก่อตัวเป็นพันล้านก็ได้ เป้ยมีคุยธุรกิจอยู่ 3 ตัว หลายคนอาจจะยังไม่รู้ เพราะอยู่ในขั้นตอนของการคุยและดำเนินการอยู่ เป้ยรู้สึกว่าเราต้องทำอะไรแล้ว เพราะไม่อยากคิดว่าในอนาคตจะต้องพึ่งสามีอย่างเดียว เลยอยากให้ตัวเองมีเงินเยอะ ๆ มั่นคง และดูแลแม่ได้ แล้วเราก็รู้ดีว่างานในวงการมันเป็นอย่างไร ไม่รู้ว่าวันไหนมันเกิดไม่มีงานขึ้นมา ยอมรับว่ากลัวเหมือนกัน ตอนนี้สร้างรากฐานของตัวเองและเลือกทำในสิ่งที่สบายใจ อย่างงานอีเวนต์หลาย ๆ งานที่เซ็กซี่ เป้ยก็ปฏิเสธไปหลายงานแล้ว จะเลือกรับเฉพาะที่สนิทใจกันจริง ๆ และเลือกงานที่มันก้าวไปสู่อนาคตได้ เช่นงานธุรกิจน้ำหอม หรือขนตาปลอม

โปรเจคท์ธุรกิจที่จะทำมีอะไรบ้าง?

ก็มีขนตาปลอม มีน้ำหอม และมีอีกตัวจะเป็นขนม ซึ่งญาติ ๆ ช่วยกันทำ อย่างขนตาปลอมเราชอบนะ เพราะเป็นคนชอบติดขนตาปลอม เราอยากให้ผู้หญิงทุกคนสวย คิดว่ายังไม่ค่อยมีใครทำเยอะ ก็ร่วมหุ้นและเป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วย อยู่ในขั้นตอนพูดคุยกันและเลือกสินค้าว่าจะเป็นแบบไหนบ้าง ส่วนที่ทำน้ำหอมเพราะคิดว่าผู้หญิงกับความหอมเป็นของคู่กัน เป้ยพยายามศึกษาหาข้อมูล เลือกเองคิดเองทุกขั้นตอน ไปนั่งประชุมเอง เลือกแพ็กเกจเอง ออกแบบเอง อยากให้เป็นของขวัญสำหรับผู้หญิงทุกคน เรียกว่าเป็นเคล็ดลับความสวยสำหรับผู้หญิงแล้วกัน เป้ยอยากทำอะไรแล้วมันไปได้ยาว มากกว่าที่จะฉาว ๆ แล้วจบไป มันดูไม่มั่นคง เป้ยอยากทำอะไรที่มันสบายใจและมันสามารถรองรับอนาคตของเราได้ 

เป้ยเป็นดาราที่อยู่ในกระแสได้ตลอดเวลา มองเรื่องนี้อย่างไร?

ขอบคุณก็อยากขอบคุณนะ แต่บางทีมันก็ท้อเหมือนกัน เพราะบางเรื่องเราก็ไม่อยากให้นักข่าวมาถามเลย แต่นักข่าวก็ถาม เราก็ตอบออกไป กลับกลายเป็นว่าเราสร้างข่าวอีก แต่ก็ต้องขอบคุณที่นึกถึง มันทำให้เรายังมีข่าว มันไม่หายนะ แต่ใจหนึ่งคิดว่าแล้วคนทั่วไปจะรู้จักนิสัยจริง ๆ ของเราหรือเปล่า บางคนคิดว่าเป้ยเซ็กซี่ เอะอะโชว์นม เอะอะเปลี่ยนแฟนอีกแล้ว และข่าวที่ออกมาก็ดูไม่ค่อยดีเลย ทุกวันนี้เลยพยายามทำอะไรเพื่อตัวเองแล้ว ทำอะไรก็ตามที่เราคิดว่าเราแฮปปี้และเห็นถึงอนาคตดีกว่า

สุดท้ายอยากฝากอะไร?

บางสิ่งบางอย่างที่สื่อออกไป อยากให้เปิดโอกาสให้เป้ยนิดนึง เพราะเป้ยเองก็ไม่ได้อยากจะนำเสนอภาพเซ็กซี่ตลอดเวลา อยากนำเสนอในเรื่องของการแสดงบ้าง แต่มันก็ไม่มีข่าวด้านนี้เลย อยากบอกว่าไม่อยากให้มองเป้ยแค่ด้านเดียว อยากให้มองอีกด้านของเป้ยบ้างค่ะ
ความเซ็กซี่มันเป็นเพียงแค่เปลือกนอกเท่านั้น บางครั้งสิ่งที่เห็น ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดจริง ๆ.