'แก้ว' จาก 'สาวห้าว' เป็น 'สาวฮอต'

ช่วงนี้มีงานอะไรบ้าง

“มีภาพยนตร์ “บางกอกกังฟู” กำลังฉายอยู่ในขณะนี้ แล้วก็มีละคร “บันทึกรักซูเปอร์สตาร์” ทางช่อง 8 เพิ่งจะจบไป กระแสตอบรับก็ดี ถึงช่องจะเปิดใหม่ แต่คนก็เข้ามาเรียกว่า “ปาล์ม” ด้วย วัยรุ่นก็เรียกเต็มเลย เป็นผลงานละครเต็มตัวเรื่องแรกเลย ก่อนถ่ายละครก็ไปเรียนแอ๊คติ้งเสริม พี่ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ คอยสอนแอ๊คติ้ง อย่างงานหนัง “บางกอกกังฟู” พี่ต้อม-ยุทธเลิศ เห็นคาแรกเตอร์เราตรงกับบทก็เลยชวนให้มาเล่น คิดว่าสาว ๆ น่าจะชอบ เพราะหนุ่มหล่อมาแสดงเยอะ มีเด็กบางคนดูประมาณ 11 รอบ ก็ดีใจที่แฟนคลับไปชมกัน นอกจากนี้ก็มีงานภาพยนตร์อีกเรื่อง กำลังถ่ายทำอยู่ แสดงกับ พี่เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ”

ดูงานค่อนข้างชุกนะ

“ก็ดีใจที่ผู้ใหญ่ให้โอกาสเรา เห็นความสามารถของเรา แก้วก็จะพยายามพัฒนางานให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนเรื่องที่คนมองว่าผู้ใหญ่ผลักดันแก้วนั้น แก้วมองว่าผู้ใหญ่ก็ให้โอกาสทุกคนนะ ตอนนี้ในค่ายก็มีศิลปินในสังกัด ประมาณ 30 กว่าคน เราก็ต้องดิ้นรนให้ตัวเองด้วย ผู้ใหญ่ก็จะทำหน้าที่คอยเป็นกองหนุนพวกเราเสมอ ถ้าเราหรือน้อง ๆ คนอื่นเป็นที่รู้จักก็จะยิ่งดีกับค่ายนะ และทุกครั้งไปไหนเราก็จะย้ำเสมอว่าเรามาจากครอบครัว “กามิกาเซ่”

รู้สึกว่าผู้ใหญ่ดันเรามากกว่าเพื่อน ๆ คนอื่นในวงหรือเปล่า

“ไม่นะ เพียงแต่ว่าโอกาสของแก้วอาจจะมาก่อนเพื่อนในวงมากกว่า แต่เราก็จะช่วยเสริมต่อโอกาสให้กับเพื่อน ๆ ในวง อย่างเฟย์ และ ฟาง ก็กำลังจะมีละครแล้ว เพื่อน ๆ ของแก้วก็ดีใจกับเรานะ เหมือนกับว่าถ้าเรามีโอกาสที่ดี เพื่อนคนอื่นก็จะได้โอกาสตามมา เรื่องแบบนี้อยู่ที่ดวง และทุกครั้งที่เรามีงาน เพื่อนก็จะยินดี เวลามีงานอะไรเพื่อนก็จะให้กำลังใจเราตลอด”

การที่แก้วมีงานละครก่อนเพื่อนคิดว่าเป็นเพราะก่อนหน้านี้แก้วมีกระแสข่าวกับฟิล์มหรือเปล่า

“ไม่น่าจะเกี่ยวนะ เพราะจริง ๆ พี่โด่ง-องอาจ สิงห์ลำพอง บอกตั้งแต่ก่อนจะมีข่าวแล้วว่าจะมีละครให้เล่น แต่ตอนนั้นยังไม่ได้บอกว่าจะเล่นเรื่องอะไร เขาก็มีแพลนไว้ก่อนแล้ว ไม่เกี่ยวกับเรื่องจับคู่ตามกระแสข่าว”

ละคร "บันทึกรักซูเปอร์สตาร์" ถึงจะจบไปแล้ว แต่ในเรื่องมีฉากเลิฟซีน จูบจริงกับฟิล์ม ทำไมตัดสินใจเล่นจริง

“ผู้กำกับต้องการได้ภาพจริง ๆ แก้วมองว่าเป็นเรื่องของการแสดงมากกว่า ฉากนี้จำเป็นต้องมีเพราะมันจะต่อเนื่องไปกับฉากอื่น ๆ ด้วย ถ้าเล่นไม่จริงคนดูก็จะไม่อิน และจริง ๆ ก็ไม่มีอะไรแค่ประกบปากจูบแบบเด็ก ๆ ไม่ได้ดูดดื่มอะไร ก่อนจะเล่นฉากนี้ก็ต้องใช้สมาธิเยอะ เพราะผู้ใหญ่เพิ่งจะบอกวันที่ต้องแสดงเลย แต่ด้วยความที่เราสนิทกับพี่ฟิล์ม ทำให้ลดความขัดเขินไปได้ ถามว่ามีอึดอัดมั้ย เราเองก็เป็นพี่เป็นน้องกัน แก้วก็รู้สึกแปลก ๆ บ้าง แต่ด้วยความที่พี่ฟิล์มประสบการณ์เยอะ เขาก็ทำให้เราลดความประหม่าและเกร็งไปได้

เริ่มติดใจงานแสดงมั้ย

“ชอบเลยล่ะ การได้เล่นหนังหรือละครก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับแก้วแล้ว ทำให้เราได้ประสบการณ์เพิ่ม ถ้ามีอีกก็จะเล่นอีก ส่วนงานเพลงก็ยังไม่ทิ้ง ตอนนี้มีซ้อมเต้นเกือบทุกวัน เพราะใกล้จะมีอัลบั้มใหม่แล้ว ก็จะเต้นให้แข็งแรงขึ้น จะดูเป็นผู้หญิงมากขึ้น อาจจะไว้ผมยาวขึ้นอีกนิดหน่อย เพลงจะโตไปตามวัยของเรา เพราะตอนนี้น้อง ๆ ในกามิกาเซ่ก็เยอะ ต้องเป็นพี่แล้ว (หัวเราะ)”

ได้ทำทั้งงานเพลงและงานแสดงแล้ว ชอบแบบไหนมากกว่ากัน

“ชอบทั้ง 2 แบบ เพราะงานแต่ละอย่างก็มีเสน่ห์ในตัวของมัน เราได้ทำอะไรที่ต่อยอดตัวเราไปด้วย เหมือนกับเราได้ฝึกฝนความสามารถของเราตลอดเวลา เราก็จะได้เก่งขึ้น”

ย้อนกลับไปเรื่องฟิล์มนิดนึง หลายคนยังอยากรู้ว่าแก้วและฟิล์มมีความสัมพันธ์ยังไงกันแน่

“เป็นพี่น้องที่สนิทกัน แก้วก็เจอกับพี่ฟิล์มอยู่บ่อย ๆ เป็นพี่เป็นน้องในค่ายเดียวกัน ไลฟ์สไตล์เราใกล้เคียงกัน อย่างแก้วจะดูห้าวนิด ๆ ก็เลยทำให้สนิทกับพี่ฟิล์มได้เร็ว มีอะไรก็ปรึกษากัน พอมีเรื่องไม่สบายใจเรื่องข่าวก็จะคุยกัน ช่วงที่มีข่าวถึงเราต้องทำงานด้วยกัน แต่แก้วก็ไม่อึดอัดนะ เราจะให้กำลังใจเขาตลอด ช่วงที่เขาไปอังกฤษ เราก็คุยกันตลอด เพื่อนแก้วที่เรียนที่อังกฤษก็รู้จักกับพี่ฟิล์ม เราเหมือนเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันเลย

แล้วกับพี่ป้อง-ณวัฒน์ ไปรู้จักกันได้ยังไง

“ความจริงเราก็รู้จักกัน เป็นพี่น้องในวงการ เราเคยไปออกรายการ “เดอะ เกสท์เฮ้าส์” ที่พี่ป้องเป็นพิธีกร ตอนนั้นก็ไม่มีอะไร แต่พอเจอกันงานหลัง ๆ เราเพิ่งสนิทกันได้ 2 เดือน ยังไม่นาน แต่ก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น ก็ปรึกษากันเรื่องงานและเรื่องชีวิตมากกว่า”

เท่าที่รู้จักเขาเป็นคนอย่างไรบ้าง

“เขาเป็นผู้ใหญ่ แต่ก็มีความเป็นเด็กอยู่ในตัว ก็คุยกันได้ เขาก็น่ารักดี แต่เราเพิ่งรู้จักกันไม่นาน ก็ต้องคุยกันไปเรื่อย ๆ แก้วไม่รีบ พี่เขาเองก็ไม่รีบ เราต่างคนต่างมีงานด้วย ถ้าจะเป็นยังไงก็ต้องดูต่อไปเรื่อย ๆ”

ไม่กลัวกิตติศัพท์ความเจ้าชู้ของเขาเหรอ

“อย่างที่บอก เราก็เพิ่งจะรู้จักกันไม่นาน แก้วจะเป็นคนไม่ชอบดูจากข่าว ถ้าจะรู้นิสัยของเขาจริง ๆ เราก็ต้องรู้จักกันจริง ๆ ดูกันไปเรื่อย ๆ แต่แก้วว่า “ความเจ้าชู้” เป็นเรื่องปกติของผู้ชาย แต่เขาจะหยุดตอนไหนก็ต้องอยู่ที่เขา ก็ดูไปดีกว่าว่าจะเป็นอย่างไร”

ทำไมเราถึงกล้าพูดว่ากำลังคุยกับพี่เขาอยู่ ไม่กลัวหน้าแตกเหรอ เพราะที่ผ่านมาเขาเองก็ไม่ค่อยพูดถึงเรื่องหัวใจเท่าไหร่ ได้มีการตกลงกันก่อนมั้ย

“หลังจากที่พี่ป้องไปดูภาพยนตร์ “บางกอกกังฟู” แล้วมีข่าวนี้ออกมา เราก็ได้คุยกันว่าจะพูดยังไงดี แต่เราก็ไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ที่ผ่านมาแก้วต้องเป็นฝ่ายพูดก่อนเพราะแก้วต้องโปรโมตหนังและละคร เลยมีโอกาสเจอสื่อเยอะกว่าพี่ป้อง เราก็เลยต้องตอบเยอะ แต่ก่อนตอบก็มีการพูดคุยกันว่าจะพูดอย่างไรดี

ได้มีโอกาสฟังฝั่งทางพี่ป้องพูดบ้างหรือยัง รู้สึกโอเคมั้ย

“ก็มีพี่ ๆ น้อง ๆ แฟนคลับ และเพื่อนคุณแม่เอาข่าวมาให้ดูว่าคำสัมภาษณ์เป็นอย่างไร ก็เหมือนที่คุยกันเอาไว้ แก้วก็ต้องขอบคุณทางพี่ป้องด้วย”

ป้องตรงสเปกหรือเปล่า

“จริง ๆ แก้วเป็นคนไม่มีสเปกนะ ไม่เคยตั้งกฎเกณฑ์อะไรมากมาย แค่เราคุยกับใครแล้วสบายใจก็โอเค”

คุยกับพี่ป้องแล้วมีความสุขมั้ย

“โอ๊ย! (ทำเสียงเขิน) เราเพิ่งคุยกันเอง ก็ต้องดู ๆ ไป ก็คุยแล้วสบายใจ พี่เขาก็โตแล้วสอนอะไรเราได้หลายอย่าง เขาก็โอเคในระดับหนึ่ง”

รู้สึกยังไงบ้าง ก่อนหน้านี้ลุคแก้วดูเป็นทอมบอย แต่ตอนนี้กลับฮอตทั้งงานและเรื่องความรัก

“มันอยู่ที่จังหวะชีวิตมากกว่า บังเอิญว่าตอนนี้ทุกอย่างมันพุ่งขึ้นมา แต่แก้วว่าผู้หญิงทุกคนก็มีคาแรกเตอร์เป็นของตัวเองอยู่แล้ว เขาคงชอบของแปลกกันมั้ง (หัวเราะ) ถามว่าตอนนี้แก้วพอใจกับชีวิตตอนนี้มั้ยที่ทุกอย่างลงตัว แก้วก็พอใจนะ เพราะตอนนี้เพิ่งสอบเสร็จ เลยสบายใจโล่งอก แล้วงานก็ลงตัวค่ะ”