เปิดตัวตน 'ยิปซี' เรียบง่ายไม่หวือหวา

วางแผนปี 2555 นี้ไว้อย่างไรบ้าง?

มีหลายอย่างนะคะ แต่ส่วนมากจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ได้เปลี่ยนชีวิตยิ่งใหญ่อะไร แค่ปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิตและนิสัยบางอย่างที่อยากจะแก้ คือเมื่อก่อนติดกาแฟมาก เลยคิดจะเลิก ก็เลิกได้ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว ไม่ได้ดื่มเลย รวมทั้งปีนี้จะทานมังสวิรัติต่อไป เพราะเริ่มทานมา 7 เดือนแล้วค่ะ คือเริ่มจากนึกสนุกก่อนค่ะว่าจะทำได้ไหม เพราะแต่ก่อนทานเนื้อวัว เราก็นึกสนุกอยากเลิกทานเนื้อ ปรากฏว่าทำได้ ปกติชอบทานผักกับเต้าหู้เป็นพิเศษด้วย คิดว่าเราสามารถอยู่ได้ด้วย 2 สิ่งนี้ เลยลองทานมังสวิรัติแบบเล่น ๆ ดูก่อน ก็ทำได้อีก และคิดว่ามันดีด้วยนะ เลี่ยงการฆ่าสัตว์ไปด้วยค่ะ

แล้วเรื่องงานล่ะ?

อยากบอกว่าถนัดวางแผนชีวิตมากกว่าค่ะ เพราะเราสามารถ ควบคุมตัวเองได้ แต่เรื่องงานเป็นเรื่องของปัจจัยภายนอก และเป็นเรื่องของโชคด้วยว่าจะมีงาน อะไรเข้ามาไหม ก็เลยยังไม่ได้วางแผนเรื่องงานไว้เลย ที่ผ่านมาถ้ามีงานเข้ามาก็ถือว่าโชคดีค่ะ

ล่าสุดมีภาพยนตร์ถึง 2 เรื่อง?

เป็นโปรเจคท์ภาพยนตร์ 2 เรื่องต่อกันคือ “ส.ค.ส. สวีทตี้” และ “วาเลนไทน์สวีทตี้” เป็นงานรวมญาติของยิปซีเลยค่ะ จะเห็นได้จากบรรดานักแสดงที่เคยร่วมงานกับพี่ยอร์ช ผู้กำกับมาแล้วทั้งนั้น บรรยากาศในการทำงานสนุกสนานเฮฮา ไม่รู้สึกเหมือนไปทำงานเลย ได้เล่นกับยิปโซด้วย ในเรื่องก็เป็นพี่น้องกัน วิธีการพูดจะเป็นธรรมชาติเหมือนเราคุยกันเป็นพี่น้องกันจริง ๆ ที่ได้มาเล่นเรื่องนี้ทั้งคู่ก็เพราะเราเคยเล่นซิทคอมกับพี่ยอร์ช ส่วนยิปโซก็เล่นหนังของพี่ยอร์ชมาแล้ว จริง ๆ รู้จักกับพี่ยอร์ชมานานแล้วตั้งแต่ตอนที่ยิปโซเล่นเรื่อง “32 ธันวา” จนพี่เขาสนิทกับทางบ้านเราเลย เหมือนพี่ยอร์ชเป็นญาติคนหนึ่งค่ะ

เรื่องนี้มีบทบาทการแสดงแตกต่างจากที่ผ่านมาอย่างไร?

เรื่องนี้เล่นเป็นผู้หญิงที่ตรงกันข้ามกับตัวเองโดยสิ้นเชิงค่ะ ไม่รู้ว่าพี่ยอร์ชแกล้งหรือว่าต้องการท้าทายความสามารถของนักแสดงหรือเปล่า ก็เลยจับให้ทุกคนเล่นกันแบบพลิกคาแรกเตอร์เลย อย่างตัวยิปซีรับบทเป็นง้อ เป็นผู้หญิงงุ้งงิ้ง ง้องแง้ง ชอบสีชมพู ซึ่งในชีวิตจริงเขารู้ว่าเราไม่ใช่แบบนั้นเลย ตัวจริงเราจะนิ่ง ๆ ไม่หวานแหววเลย ตอนแรกคิดว่าต้องยากมากแน่ ๆ แต่จริง ๆ มันก็ไม่ได้ยากอย่างที่คาดนะคะ เพราะเป็นตัวละครที่เรารู้จักดีว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร อย่างถ้าไม่ชอบเราก็ต้องรู้ว่าทำไมเราจึงไม่ชอบ เลยโอเค พอจะเข้าถึงได้ว่าน่าจะเป็นผู้หญิงประมาณนี้นะ แต่ก็ต้องใช้พลังอยู่พอสมควรนะคะแบบฝืนธรรมชาติไปบ้าง เช่น วิธีการพูดของง้อกับยิปซีก็ไม่เหมือนกัน จะต้องมีสะดีดสะดิ้งนิดนึงค่ะ

คาดหวังกับงานแสดงมากน้อยแค่ไหน?

ส่วนตัวเป็นคนที่ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องเก่งมาก แค่ทำให้ตัวเองพอใจและคนที่บ้านโอเคแฮปปี้ รวมทั้งฟีดแบ็กจากผู้ชมว่าเขาชอบเราในบทบาทแบบไหน เรามีความสุขกับการได้แสดงนะ อย่างงานแสดงก็มีหลายแบบทั้งละครและภาพยนตร์ ได้ลองเล่นซิทคอมแล้ว ตอนแรกคิดว่าไม่น่าจะไหวนะ ด้วยคาแรกเตอร์ของเราคือดูแล้วไม่น่าจะเล่นซิทคอมฮา ๆ อย่าง “เฮงเฮงเฮง” ได้ ยังแปลกใจไปพร้อม ๆ กับคนดูว่าเราเล่นได้ มันใช้พลังเยอะ แต่มันก็เป็นการปลดปล่อยอย่างหนึ่งของเราด้วย เพราะบางครั้งเราเองก็มีมุมที่เป็นแบบนั้นเหมือนกัน แต่อาจจะไม่เท่ากับบทบาทของหมวยในเรื่องค่ะ

อยู่วงการมาก็พอสมควรแล้ว แต่ชื่อเสียงอาจไม่ได้เปรี้ยงปร้าง รู้สึกอย่างไร?

ชอบนะ มันเป็นหลักการเดียวกันกับการใช้ชีวิตของเราคือชอบความเรียบง่าย ด้วยจุดเริ่มต้นของการทำงานด้วยค่ะ ยิปซีไม่ได้มุ่งมั่นว่าจะทำงานเพื่อให้ตัวเองดัง แต่มองว่านี่คือการทำงาน มันก็เหมือนอาชีพปกติทั่ว ๆ ไป บางคนอาจมีเป้าหมายที่ชัดเจน แต่เราก็ไปเรื่อย ๆ พอใจแล้วที่มีวันนี้ค่ะ

แล้วถ้าเกิดวันหนึ่งไม่มีงานจะทำอย่างไร?

คิดเหมือนกันค่ะ เพราะงานด้านบันเทิงเป็นงานที่ไม่มั่นคง อาจจะไปทำงานเบื้องหลังก็ได้ เพราะเราเองก็คุ้นเคยกับมันอยู่แล้ว แต่ถ้างานเบื้องหลังไม่มีให้เราทำ คงต้องหาอย่างอื่นทำค่ะ ซึ่งในอนาคตอันใกล้คิดว่ายังทำงานตรงจุดนี้อยู่ เพราะมีเล่นซิทคอมอยู่ แต่ต่อไปเราก็น่าจะรู้ได้ไม่ยากค่ะว่าจะมีงานอีกหรือเปล่า แต่ตอนนี้เหมือนกับใช้ชีวิตระยะสั้นไปก่อน

ตัวตนจริง ๆ ของยิปซีเป็นอย่างไร?

เมื่อก่อนนิ่งมากเลยนะ แต่พอมาทำงานตรงนี้แล้วรู้สึกว่าพูดเยอะขึ้น แต่ความนิ่งก็ยังมีอยู่ เพราะเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง ต้องการอยู่คนเดียวบ้าง เข้าวงการมาก็มีปรับตัวเล็กน้อยในเรื่องมนุษยสัมพันธ์ จะนิ่ง ๆ เงียบ ๆแบบแต่ก่อนคงไม่ได้ค่ะ

เข้าวงการมาทั้งพี่ทั้งน้อง คงมีการโดนเปรียบเทียบกันบ้าง?

เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ แม้ตอนก่อนหน้านั้นที่ยังเด็กอยู่ ยอมรับเลยว่าไม่ชอบ เพราะไม่มีใครชอบโดนเปรียบเทียบหรอก แต่มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ ขนาดฝาแฝดยังโดนเปรียบเทียบกันเลย ยิ่งเราเข้ามาทำงานในวงการ ยิ่งตกเป็นเป้าของการเปรียบเทียบเป็นหัวข้อสนทนาอยู่แล้ว ซึ่งเราก็จะสนใจเฉพาะคนที่เราควรสนใจ คือถ้าคนในครอบครัวโอเค เราก็โอเคมากแล้ว แต่ก็ไม่ได้มานั่งคุยกันกับยิปโซถึงเรื่องนี้หรอก เพราะเราต่างก็เข้าใจถึงธรรมชาติของมันว่ายังไงก็โดนเปรียบเทียบแน่ ๆ

ทางบ้านสอนหรือเน้นอะไรเป็นพิเศษไหม?

ไม่ได้สอนอะไรเป็นพิเศษเลยค่ะ เคยมีคนมาสัมภาษณ์คุณพ่อเหมือนกัน คุณพ่อบอกว่าไม่ได้สอนเลย เพราะคุณพ่อมองว่าตัวเองไม่สมควรเป็นผู้สอน เพราะไม่เคยมีประสบการณ์ในงานวงการบันเทิง ก็ปล่อยให้เราโตเอง เพราะประสบการณ์จะสอนเราได้ดีที่สุด แต่ที่เข้มงวดคือเรื่องการเรียน แต่ตอนนี้เรียนจบแล้ว เขาจะปล่อยอิสระในแง่ของความคิด ให้เราเรียนรู้ด้วยตัวเอง ซึ่งเราคิดว่าเราโชคดีมากที่เกิดมาในครอบครัวนี้ ทุกคนในบ้านคุยกันได้ทุกเรื่อง

ทางบ้านซีเรียสเรื่องข่าวไหม?

ส่วนใหญ่ที่เป็นข่าว ถ้าไม่เรื่องงานก็เป็นเรื่องความรักใช่ไหมคะ เรื่องงานไม่มีปัญหาอะไร ส่วนเรื่องความรัก คุณพ่อคุณแม่จะรู้ก่อนเป็นข่าวอยู่แล้ว เพราะเราคุยกันตลอดค่ะ ในเรื่องของงาน เขาไม่ได้ห้าม แต่จะแสดงความคิดเห็นว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร อย่างเลิฟซีนดูดดื่ม ไม่ต้องเขาหรอกค่ะ ยิปซีก็ไม่กล้าเล่นไม่ได้อยากจะไปทางนั้นด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเลิฟซีนหรือเซ็กซี่ มันไม่ใช่ทางเราค่ะ

เรื่องความรักปรึกษาทางบ้านหรือเปล่า?

ก็บอกนะคะ แต่เลือกที่จะบอกตอนไหนมากกว่า อย่างถ้าเริ่มคุยกันในช่วงแรกๆ ก็ยังไม่ได้เล่าให้ทางบ้านฟัง เพราะเราก็ยังไม่แน่ใจว่าความรักนั้นมันจะเป็นรูปเป็นร่างหรือเปล่า เราจะบอกต่อเมื่อเขาคนนั้นเป็นคนที่เป็นไปได้ คุณพ่อคุณแม่ก็เป็นผู้ฟังที่ดี เขาเข้าใจว่าเรื่องของความรักคงห้ามไม่ได้อยู่แล้ว

แล้วความรักตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?

เป็นในแบบที่ชอบนะ ราบรื่นและเรื่อย ๆ ดีค่ะ คบมา 1 ปีแล้ว ยิปซีมีจุดอ่อนเรื่องความรักนะ คือเมื่อก่อนเรามีแฟนเยอะ แต่ละคนก็คบแป๊บเดียว คงด้วยความที่เด็กมั้งคะ ความรักทุกครั้งเป็นความรักแบบเสน่หา คือต้องมีใจให้กันก่อนจึงจะเป็นแฟนกันได้ แต่รักครั้งนี้มันต่างออกไปค่ะ มันเริ่มจากศูนย์ เพราะเขาเป็นฝ่ายเริ่มเข้ามา แล้วพัฒนาเป็นความสัมพันธ์ที่ดี มันดีตรงที่มันไม่หวือหวาแต่เรียบง่าย มันเหมือนเราอยู่กับเพื่อน และยิปซีก็ใส่ความเป็นตัวเองเต็มที่เลย เขาก็ชอบในแบบที่เราเป็น

คาดหวังกับความรักครั้งนี้แค่ไหน?

ไม่คาดหวังอะไรเลยค่ะ บางคนอาจจะมองไปถึงเรื่องแต่งงาน ยิปซีเคยคิดว่าเราไม่อยากแต่งงาน คิดว่าคนเราสามารถมีความสุขได้ในหลาย ๆ รูปแบบ บางคนมองว่าเป้าหมายชีวิตคือการได้มีงานดี ๆ ทำ ได้แต่งงานมีครอบครัวที่ดี แต่เรากลับมองว่ามันเป็นแพทเทิร์นเกินไป ชีวิตจริง ๆ คืออะไรเราไม่รู้หรอก มันอาจจะเป็นการใช้ชีวิตไปวัน ๆ ก็ได้ จึงคิดว่าเราสามารถมีความสุขในรูปแบบอื่นก็ได้ หรืออยู่คนเดียวเราก็มีความสุขได้ บางคนถามแล้วอย่างนี้จะมีแฟนไปทำไมถ้าไม่อยากแต่งงาน ก็ตอบไปว่าตอนคุณเด็ก ๆ เวลามีแฟน คุณมองไปถึงเรื่องแต่งงานเลยเหรอ คงไม่ใช่ แต่มันเป็นเรื่องของความรักต่างหาก กับแฟนคนนี้ก็ไม่ได้ตั้งใจเป็นแฟนด้วยซ้ำ แต่ก็ได้เป็นแฟนกันมาเรื่อย ๆ บางทีเขาอาจจะทำให้ความคิดของเราเปลี่ยนก็ได้ อาจจะอยากอยู่กับเขาไปจนแก่ อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ก็ไปเรื่อย ๆ ตามธรรมชาติค่ะ

นิยามความรักของยิปซีเป็นอย่างไร?

เคยคิดว่ามันเป็นแค่ปฏิกิริยาเคมี เพราะไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมเราจึงโดนดึงดูดจากคนบางคน แต่กับบางคนมันไม่มี คิดว่าความรักไม่สามารถนิยามได้นะ เพราะแต่ละคนก็จะเชื่อเรื่องความรักไปคนละแบบกัน เรากลับคิดว่าสิ่งที่จะทำให้เราอยู่กับอีกคนหนึ่งได้ต่อไปเรื่อยๆ มันไม่ใช่ความรักหรอก แต่มันคือความสัมพันธ์อันดีต่อกันมากกว่า

ฝากอะไรถึงแฟน ๆ ที่คอยติดตามผลงาน?

ขอขอบคุณทุกคนนะคะที่ติดตามกันมาไม่ว่าจะติดตามตั้งแต่เมื่อไรก็ตาม บางคนนานแล้ว บางคนเพิ่งจะได้ทำความรู้จักกัน ดีใจที่ชอบ ฝากด้วยนะคะไม่ว่าอนาคตจะมีผลงานอะไรต่อไปหรือไม่ จะพยายามทำทุกงานให้ดีที่สุดค่ะ