Top
สัมภาษณ์ดารา จอร์จ ลูคัส



      บทสัมภาษณ์ จอร์จ ลูคัส (ตอนที่ 1)


มหากาพย์ภาพยนตร์ผจญภัย STAR WARS: EPISODE 1 THE PHANTOM MENACE (สตาร์ วอร์ส: เอพพิโซด 1ภัยซ่อนเร้น) ผลงานจากจินตนาการของผู้สร้างภาพยนตร์จอร์จ ลูคัส ที่สร้างความประทับใจให้ผู้ชมทั่วโลกเมื่อครั้งที่มีการฉายครั้งแรกในปี 1999
กองทัพกำลังได้กลับมาแล้ว แต่คราวนี้เป็นรูปแบบ 3 มิติที่จะมอบมิติให้ภาพยนตร์อย่างเต็มอิ่ม และพลิกให้เป็นประสบการณ์ของการชม
ภาพยนตร์ที่มีความเข้มข้นขึ้น
  ต่อไปนี้เป็นการพูดคุยกับจอร์จ ลูคัส ถึงเรื่อง 'STAR WARS: EPISODE 1  THE PHANTOM MENACE  3D' ทำไมเขาถึงนำกลับมาคืนจอภาพยนตร์ เส้นทางอาชีพของเขาเริ่มต้นอย่างสวยหรูแค่ไหน และทำไมตำนานการผจญภัย
แห่ง
‘STAR WARS’ ถึงยังดังกึกก้องอยู่

 


คำถาม
คุณตื่นเต้นกับภาพยนตร์คลาสสิคเรื่อง STAR WARS:
EPISODE I THE PHANTOM MENACE
ในรูปแบบ 3 มิติขนาดไหน?

จอร์จ ลูคัส ผมตื่นเต้นกับการฉายภาพยนตร์บนจอยักษ์ครั้งใหม่มาก เราทำงานกันอย่างหนักเพื่อให้ได้คุณภาพระดับ 3 มิติเท่าที่เราทำได้ ประสบการณ์บนจอภาพยนตร์ดีกว่าการรับชมทางทีวีมาก มันถูกออกแบบมาเพื่อพาเราเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมนั้น และรายล้อมเราด้วยภาพและเสียงที่ไม่มีอะไรเสมอเหมือน ผมดีใจมากที่เราสามารถนำประสบการณ์ทั้งหมดนี้มาสู่รุ่นต่อไปได้ นี่จะเป็นรุ่นที่ 3 ที่จะได้ชมภาพยนตร์บนจอยักษ์ ซึ่งตอนที่เราเป็นเด็ก
มันเป็นช่วงเวลาที่ทรงพลังมาก


คำถาม ทำไมคุณถึงคิดว่าผู้ชมควรมาสัมผัสประสบการณ์แห่ง STAR WARS ในระบบ 3 มิติบนจอภาพยนตร์เป็นพิเศษ?

จอร์จ ลูคัส STAR WARS ถูกออกแบบเมื่อพาการรับชมบนจอภาพยนตร์
เพราะมันเป็นประสบการณ์เหมาะที่สุด ผมเคยทำงานร่วมกับระบบ
3 มิติมาพักหนึ่งแล้วและผมรู้ได้เลยว่าประสบการณ์ทั้งหมด
จะดีขึ้นด้วยระบบ
3 มิติ ไอเดียเบื้องหลังของ STAR WARS คือเราอยู่
ในโลกประหลาดนี้ ซึ่งมันดีขึ้นมากในระบบ
3 มิติพร้อมด้วย
เสียงที่มีการปรับปรุง


คำถาม คุณช่วยเล่าได้มั้ยว่าสิ่งที่ขับเคลื่อนเรื่องราวนี้คืออะไร?

จอร์จ ลูคัส ในตอนแรกเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับพ่อลูก STAR WARS เป็นเรื่องราวของยุคสมัยที่คนรุ่นหนึ่งพยายามปรับปรุงสิ่งที่คนรุ่นก่อน
เคยสร้างไว้ เรื่องราวมี
2 ด้าน ทำไมคนที่ดูดีในตอนแรกถึงกลับ
ชั่วร้ายได้
และมันสะท้อนถึงการเดินทางของพ่อเขา เขากลายเป็น
ฝ่ายร้ายได้อย่างไรและมันเป็นการติดตามการเดินทางของลูกชาย
ที่ต่อต้านการเป็นฝ่ายร้าย และเป็นขั้นตอนของการกู้ชื่อเสียง
ให้พ่อของเขาเป็นช่วงยุคใหม่ที่ต้องพยายามกอบกู้โลก


คำถาม การพัฒนาด้านวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์มีอิทธิพลต่อการถ่ายทอดเรื่องราว
อย่างไรบ้าง
?

จอร์จ ลูคัส หนัง 3 ภาคแรกถูกสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันด้วยฉากที่มีอยู่อย่างจำกัด มีสัตว์ประหลาดและยานอวกาศที่มีจำนวนจำกัด แต่ในตอนที่ผมสร้างตอน PHANTOM MENACE และหนังภาคต่ออีก 2 ตอนผมมีความเป็นอิสระเพราะเราได้มีการพัฒนาเทคโนโลยี
ด้านภาคแล้วในตอนนั้น ผมสามารถทำทุกอย่างได้ตามที่ต้องการ ผมเริ่มจากภาพเขียนบนกำแพงโดยพื้นฐานและภาพวาดบนเพดาน
โบสถ์เพื่อจัดการกับภาพสีน้ำมันและดูแสงแดดส่องแสงไปสู่ใบไม้ และดูโลกทั้งใบในแบบที่ต่างออกไป



คำถาม คุณประหลาดใจกับความสำเร็จที่มาจาก STAR WARS มั้ย?

จอร์จ ลูคัส ผมไม่ได้หวังเรื่องความสำเร็จของภาพยนตร์เลย ผมไม่คิดว่าใครคาดคิดด้วย มันเลยเป็นความประหลาดใจอย่างมาก

คำถาม ทำไมถึงเว้นช่วง16 ปีของภาพยนตร์เรื่อง STAR WARS กับภาพยนตร์
ไตรภาคชุดที่ 2
แล้วภาพยนตร์มีการพัฒนาเนื้อเรื่องอย่างไรบ้าง?

จอร์จ ลูคัส ในเริ่มแรกภาพยนตร์ไตรภาคชุดที่ 2 เป็นเรื่องราวความเป็นมา
ที่ถูกเขียนขึ้นมาเพื่อไตรภาคแรก ซึ่งเป็นคำตอบของทุกข้อสงสัย
ที่อยู่ในไตรภาคแรกเกี่ยวกับอาณาจักรว่า ซิธเป็นใคร เจไดคือใคร
ส่วนใหญ่ใน THE  PHANTOM  MENACE
และเรื่องราวทั้ง 3 ตอนที่ต่อจากนั้นเป็นเรื่องราวของที่มาที่ไป เช่น ดาร์ธ เวเดอร์
มาจากที่ไหน
? เขามีเรื่องราวอย่างไร เขาจะเป็นอย่างไรต่อไป?  เขาได้กลายเป็นดาร์ธ เวเดอร์ได้อย่างไร? ในส่วนหนึ่งแล้วมันมี
การเปิดเผยตัวเองขึ้นมา ผมต้องจัดการกับเรื่องรายละเอียด
เหล่านี้ทั้งหมด เรื่องราวความเป็นมาไม่ได้เป็นปัญหาเกี่ยวกับ
ด้านเทคโนโลยีเหมือนกับภาคแรก  ผมเลยใส่พวกสัตว์ประหลาด
และโลกอีกหลายใบได้มากเท่าที่ผมต้องการ สำหรับภาคแรก
ผมมีข้อจำกัดเยอะมากและนั่นผลักดันให้ผมไปยังก้าวต่อไป
และถ่ายทอดเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้น


คำถาม      เมื่อมองย้อนไปถึงเรื่อง PHANTOM MENACE กับภาพยนตร์ไตรภาคชุดที่ 2 คุณมีความเห็นอย่างไรบ้าง?

จอร์จ ลูคัส
ผมรักเนื้อเรื่อง ผมรักที่ผมสามารถถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับ
ดาร์ธ เวเดอร์ ทั้งหมดได้ หรืออย่างที่ผมชอบเรียกว่า
โศกนาฎกรรมของดาร์ธ เวเดอร์มันเกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมด
ที่เกิดขึ้นและถ่ายทอดเรื่องราวทั้งหมดได้ตั้งแต่ต้นจนจบ


คำถาม อะไรทำให้คุณอยากแปลงภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นระบบ 3 มิติ?
จอร์จ ลูคัส ในตอนแรกผมไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ของเรื่อง 3 มิติเลยจริงๆแล้ว
ผมเคยคิดว่าภาพ
3 มิติเป็นพวกเรื่องหลอกลวงต่อมาผมพยายามนำ
เครื่องฉายระบบดิจิตอลมาสู่โรงภาพยนตร์ ผมทำการนำเสนอที่
ลาสเวกัส บ็อบ เซเม็กคิส และ จิม คาเมรอนมาหาผมและพูดว่า
เราอยากนำ 3 มิติมาสู่โรงภาพยนตร์คุณจะมาร่วมกับเรา
เพื่อแสดงให้เจ้าของโรงเห็นมั้ยว่าคุณสามารถสร้างหนัง
3 มิติได้?’ ผมก็ตอบว่า ก็ดีเลยเพราะการสร้างหนัง 3 มิติเราต้องมีโรงหนัง
ระบบดิจิตอลมันเลยเป็นการสนับสนุนไอเดียเรื่องโรงภาพยนตร์
ระบบดิจิตอลของผม
จากนั้นผมก็ได้ดูการทดสอบที่เราสร้าง
STAR WARS
ในระบบ 3 มิติ แล้วผมก็เข้าใจเลยว่ามันยิ่งใหญ่ขนาดไหน
และมันดูดีขนาดไหน ผมกลับหลงใหลกับไอเดียของการแปลง

STAR WARS
เป็นรูปแบบ 3 มิติ ซึ่งมันพูดได้ง่ายกว่าการลงมือทำ มันทำให้เราต้องใช้เวลาในการพัฒนาโครงสร้างที่เราสามารถ
แปลงหนัง
2 มิติให้เป็น 3 มิติได้อย่างดี


คำถาม มีความท้าทายอะไรบ้าง?

จอร์จ ลูคัส   
ผมไม่อยากให้อะไรต่างๆ พุ่งเข้ามาหาผู้ชม ผมอยากให้ทุกอย่าง
อยู่ด้านหลังของสิ่งที่อยู่ด้านหน้า ผมอยากให้ภาพ
3 มิติเป็นเหมือน
ศิลปะ เราต้องมีศิลปินที่มีความรู้สึกเข้าถึงสิ่งต่างๆ ที่เหมาะกับเฟรม
มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่มันเป็นเรื่องสำคัญมากเรามีข้อได้เปรียบ
เพราะเรามีผู้เชียวชาญด้านวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์อย่างจอห์น นอล
เรามีกลุ่มผู้มีความชำนาญจาก
ILM (Industrial Light & Magic) และผู้คนที่เคยทำงานในภาพยนตร์ 3 มิติอย่างเรื่อง
AVATAR เราจึงมีกลุ่มคนที่สามารถสร้างสิ่งนี้ขึ้นมาได้จริงๆ
มารวมตัวกัน


คำถาม จะได้เห็นว่าภาพยนตร์ในระบบ 3 มิติได้เพิ่มประสบการณ์ให้
อย่างไรบ้าง
?  

จอร์จ ลูคัส "มันเหมือนความแตกต่างระหว่างการดูหนังขาวดำการดูหนังสี หนังขาวดำก็ดูเข้าท่าแต่ถ้าเป็นสีก็จะดีกว่า ก็เช่นเดียวกับหนัง 3 มิติ
เราไม่จำเป็นต้องดูหนังในรูปแบบ
3 มิติ แต่ในความเป็นจริงใน
รูปแบบ
3 มิติก็ดีกว่า ความลึกของภาพได้นำความสมจริงมาสู่ตัว
ละครดิจิตอล เช่น จาร์ จาร์ บิงค์ส และวัตทู เราจะรู้สึกได้ว่า
พวกเขาดูสมจริงมากขึ้น พวกเขาดูสมจริงขึ้นจริงๆ แทนที่จะเป็นปูน
ปลาสเตอร์บนจอภาพในรูปแบบ
2 มิติและในส่วนของความลึกและ
การถ่ายทอดเรื่องราว ก็มีหลายสิ่งเกิดขึ้นในฉากหลังที่มีความสำคัญ
มาก เราสังเกตเห็นมันได้ในระบบ
3 มิติมากกว่า 2 มิติ"


คำถาม เส้นทางอาชีพของคุณเดินหน้าไปอย่างไม่ธรรมดา ในตอนแรกคุณมีส่วนร่วมในการสร้างภาพยนตร์ได้อย่างไร?

จอร์จ ลูคัส ผมเข้ามาในวงการภาพยนตร์ได้แบบแปลกๆ ซึ่งมันเกิดขึ้น
ในชีวิตจริงๆ ในตอนแรกผมแค่อยากสร้างรถขึ้นมาเพราะผมชอบ
การทำงานเกี่ยวกับรถ ผมเป็นเป็นช่างไม้และพ่อของผมไม่ยอม
ให้ผมเข้าเรียนที่โรงเรียนด้านศิลปะ ผมเลยเริ่มศึกษาด้านการ
ถ่ายภาพ ผมเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนเกี่ยวกับภาพยนตร์
USC
(University of Southern California)
ผมเข้าใจได้เลยว่า
นั่นเป็นโรงเรียนสำหรับตากล้อง ตอนนั้นผมไม่มีความคิดว่าจะเรียนรู้
การสร้างภาพยนตร์ในมหาวิทยาลัยได้เลยผมไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับ
หนังมากมายแต่พอผมค้นพบว่าผมรักการสร้างภาพยนตร์และ
ผมก็ทำได้อย่างดีมาก ผมได้ค้นพบความหลงใหลของผม


คำถาม แล้วก้าวต่อไปคืออะไร?

จอร์จ ลูคัส พอผมได้เริ่มสร้างภาพยนตร์ หนังเหล่านั้นก็ได้รับรางวัลต่างๆ แล้วผมก็เริ่มได้ทุนการศึกษาและเป็นที่ยอมรับในเทศกาลหนังต่างๆ ผมอยากดูว่าถึงยังไงผมก็สามารถทำมาหากินในโลกภาพยนตร์ได้ เพราะในจุดนั้นมันเป็นเรื่องที่ยากมาก ผมคิดว่า ผมจะได้เป็น
ตากล้องและเป็นผู้ลำดับภาพ และจะสร้างภาพยนตร์สารคดี และสร้างภาพยนตร์แนวทดลองในยามว่าง
นั่นคือสิ่งที่
ผมวางแผนไว้ที่
Warner Bros. ผมได้พบกับแฟรนซิส (ฟอร์ด คอปโพล่า)
และได้ผสมผสานในวงการภาพยนตร์และพบว่ามันน่าตื่นเต้น
แฟรนซิสกับผมเห็นด้วยว่าเราไม่อยากอยู่ในโลกฮอลลีวูดเราเลย
ย้ายไปที่ซานฟรานซิสโก}และเริ่มสร้างบริษัททำภาพยนตร์ที่นั่น
สำหรับผมแล้วมันเป็นการสร้างนวัตกรรมและความแปลกประหลาด
ของภาพยนตร์แฟรนซิสท้าทายผมให้ทำสิ่งที่อยู่นอกกรอบและ
มีความเป็นศิลปะ มันก็มีแต่หนังคอมเมดี้เท่านั้น ผมเลยบอกว่า
โอเค ผมสร้างหนังคอมเมดี้ได้แล้วผมก็เริ่มเขียนเรื่อง AMERICAN GRAFFITI


คำถาม นั่นนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงทิศทางของคุณหรือเปล่า?

จอร์จ ลูคัส ผมไม่เคยมีมุมมองที่ชัดเจนว่าผมอยากไปทิศทางไหน แต่โอกาสเข้ามาหาผมตลอดและผมก็คว้ามันไว้ มันต้องใช้
เวลาถึง
2 ปีเพื่อทำให้เรื่อง AMERICAN GRAFFITI มีชื่อเสียงขึ้นมา ซึ่งผมให้ความสำคัญเป็นอย่างแรกเลยเพราะผมอยากได้งานทำ  ผมเสนอไอเดียไปที่สตูดิโอทุกแห่งแล้วพวกเขาก็ตอบว่า ไม่ต้องการ
ไม่มีใครต้องการเลย มันจึงต้องใช้ความพยายาม จนสุดท้าย
เราไปที่
Universal เขาบอกว่า หากเราหาชื่อผู้สร้างภาพยนตร์ที่มีชื่อ
ใส่เข้าไปในภาพยนตร์ได้ เราจะรับเอาไว้
แฟรนซิสเพิ่งสร้างเรื่อง
THE GODFATHER เสร็จ และเขาก็มีชื่อเสียงตอนนั้นเขาเลยใส่ชื่อเข้าไป
ในภาพยนตร์แล้วผมเลยได้สร้างหนัง สุดท้ายผมก็ได้สร้าง
แต่สตูดิโอไม่ชอบหนัง เขาเลยเอาหนังไปเก็บขึ้นหิ้ง

 
คำถาม แล้วเกิดอะไรขึ้น?

จอร์จ ลูคัส เราเตรียมฉายให้ผู้ชมได้ดูจริงๆและทุกครั้งที่หนังมีการฉายมันก็
มีการต้อนรับอย่างยอดเยี่ยมสุดท้ายพวกเขาก็ตัดสินใจฉายใน
เดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แย่ที่สุดของปี แต่มันกลับได้รับ
ความนิยมอย่างมาก อลัน แลดด์ จูเนียร์ จาก
Fox ได้ดูหนังจาก
ที่มีการฉาย เขาถามว่า
คุณมีหนังเรื่องอื่นอีกมั้ย?’ ผมตอบว่า
มีอีกครับ มันเป็นภาพยนตร์ในอวกาศเขาบอกว่า โอเค เราจะเอามาสร้าง คุณเป็นคนที่มีความสามารถดีนะผมเลยเอาเรื่อง STAR WARS มาให้ ‘Laddy’ จากนั้นชีวิตผมก็แขวนอยู่บนเรื่อง STAR WARS ชีวิตเราดำเนินไปบนเส้นทางที่มีความสนุกสนาน เราไม่มีทางเดา
ได้เลยว่าเราจะไปอยู่ในทิศทางไหน ผมคิดว่า
AMERICAN GRAFFITI จะเป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ แต่มันกลับเป็นเรื่อง STAR WARS

* ดูประวัติ จอร์จ ลูคัส

* อ่านต่อ บทสัมภาษณ์ จอร์จ ลูคัส (ตอนที่ 2)





 
 

Box Office

เรื่อง
ล่าสุด
รวม
1.
2.
3.
4.
5.
เรื่อง
ล่าสุด
รวม
1.
2.
3.
4.
5.

บทสัมภาษณ์ทั้งหมด

 
ยังไม่มีข้อมูล
หน้าแรกย้อนกลับ [ 1 ] หน้าถัดไปหน้าสุดท้าย
 
 

ติดตามหนังดี : Youtube Instagram Facebook Twitter  

MMM Digital Asset Co.,Ltd.
109 อาคารซีซีที ชั้น 2 ถนนสุรวงศ์
แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
Tel. 0-2234-7535    FAX. 0-2634-4269
E-mail: webmaster@nangdee.com   © 2006 nangdee.com
แผนที่ | sitemap | ติดต่อโฆษณา