'เกรซ กาญจน์เกล้า' กับวันนี้ที่รักแฮปปี้ งานรุ่ง
สาวมั่นแห่ง 7 สี ที่กำลังมีผลงานละครเรื่อง สารวัตรเถื่อน ที่สร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งกับเรตติ้งสูงมาก ๆ เพียงแค่ออกมาตอนแรกเท่านั้น สำหรับนางเอกคนนี้ "เกรซ - กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า" สาวมั่นที่เรียกว่ากำลังรุ่ง ทั้งเรื่องงานและเรื่องรักกับ "ขุนพล อิสสระ" ที่กำลังไปได้สวย และในวันนี้ เกรซจะมาเปิดใจกับเราถึงทุกเรื่องราวของเธอ เอาล่ะ...เรามาทำความรู้จักกับสาวสวยคนนี้กันให้มากขึ้น โดยขอประเดิมคำถามแรกในเรื่องความรักที่หลาย ๆ คนอยากจะรู้
ที่มา: ดาวต่างมุม เดลินิวส์ / ภาพ: @gracekanklao (IG)
ความรักกับขุนพล ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
ขุนพลก็ดีนะคะ ด้วยความที่หลาย ๆ คนจะมองเขาเป็นไฮโซ แต่เกรซรู้สึกดีกับเขาที่เขาเป็นคนที่ติดดินดี ง่าย ๆ และเขาเป็นคนใจเย็น ซึ่งตรงข้ามกับเกรซ คือเหมือนเกรซ เป็นผู้ชาย และเขาเป็นผู้หญิง คือเขาจะนิ่ง เขาโตแล้วถึงแม้จะอายุเท่ากัน แต่เขาค่อนข้างที่จะเป็นผู้ใหญ่ สุขุม
ตั้งแต่คบกันมามีทะเลาะกันบ้างมั้ย?
ก็มีที่ความคิดเห็นไม่ตรงกันบ้างบางเรื่อง ก็ต้องบอกว่าถึงเรา จะอายุเท่ากัน แต่เขาจะมองอะไรไกลกว่าเราบางเรื่อง แต่ก็ไม่บ่อยนะคะที่คิดไม่เหมือนกัน ส่วนความหวานเราไม่ได้หวานกันมาก เราเป็นแบบสบาย ๆ เรื่อย ๆ คือถ้าจะถามว่าใครหวานกว่ากันอันนี้ตอบยาก แต่อาจจะเป็นเขานะ เพราะด้วยความที่เราทำงานในวงการเราจะเจอคนเยอะมาก วุ่นวาย แต่พอได้อยู่กับเขาเราจะรู้สึกเย็นสบาย เหมือนได้พักผ่อน เขา เหมือนเป็นนํ้าเย็น ส่วนเกรซเป็นนํ้าร้อน พอมาเจอกันก็พอดีอุ่น ๆ
กับความรักครั้งนี้ มีแพลนมั้ยคะ?
ไม่เลย ไม่เคยมีแพลนกับใครเลย เกรซว่าเสน่ห์ของการใช้ชีวิตคือปล่อยให้มันเป็นไปเรื่อย ๆ มันอาจจะมีอะไรเกิดขึ้น เราอาจจะแฮปปี้มาก หรือว่าเราอาจจะเสียใจมาก ๆ แต่มันรสชาติของชีวิต ถ้าเรามัวแต่ไปนั่งคิดหรือคาดหวังอะไรล่วงหน้า มันจะทำให้เราเครียดนะ เกรซว่า คือเมื่อก่อนเกรซจะชอบดูดวงมาก ๆ ดูทุกอาทิตย์ คืองมงายมาก เหมือนกับว่าเวลาเขาพูดแล้วมันตรง เหตุการณ์เกิดขึ้นจริง เราก็เอาแล้วเชื่องมงายมากแล้วทีนี้ไม่ต้องทำอะไรเลยวัน ๆ เอาแต่ส่งไลน์หาหมอดู แล้วก็ถามแต่เรื่องความรัก คือรู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสุขเลย เหมือนเรารู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ตามที่หมอดูบอกที่ตรงบ้างไม่ตรงบ้าง แล้วมันทำให้เราคิดมาก กังวล ไม่มีความสุขเลย เลยตัดสินใจว่าเราจะไม่ดูดวงอีกต่อไป จนถึงวันนี้ปีกว่า ๆ แล้ว ที่ไม่ดูดวงเลย ก็รู้สึกว่าแฮปปี้มาก ใช้ชีวิตตามที่เราอยากเลย แล้วไร้ความกังวลและพร้อมที่จะเจอกับอะไรหลาย ๆ อย่าง คือตอนนี้เราอายุ 27 เราก็ไม่ใช่เด็กซะทีเดียว แต่ก็ยังไม่ใช่ผู้ใหญ่เต็มที่ แต่เราก็พร้อมที่จะเรียนรู้ชีวิตไปทีละขั้น ๆ
กับความรักครั้งนี้ ทางครอบครัวเราว่าไงบ้าง เขาโอเคมั้ย?
เขาโอเคเลยค่ะ คือเขาเข้าใจความรู้สึกเรา ว่าคนเรามีความรัก ถ้าความรักดีก็จะมีกำลังใจในการทำงาน ในการใช้ชีวิต แต่ถ้าเจอคนรักไม่ดี มันก็ทำให้เราแย่นะ ที่บ้านเขาก็จะไม่ค่อยชอบให้เราเป็นแบบนั้น สำหรับเกรซในเรื่องความรักที่ผ่านมา เกรซจะขอบคุณแฟนทุกคน เพราะมันจะทำให้เราค้นพบตัวเองว่าจริง ๆ แล้วเราชอบแบบไหนกันแน่ สมมุตินะคะว่าเราชอบคนตลก เพราะเราเป็นคนตลก คุยอะไรสนุกแต่พอเราเจอแฟนที่เป็นคนตลก ๆ พูดเยอะ เราก็จะเฮ้ย…เรารำคาญ เราชอบที่จะอยู่ด้วยกับเพื่อนที่ตลก แต่เราไม่ได้ชอบที่จะอยู่ด้วยกับแฟนที่ตลก คนตลกก็จะมาด้วยกับความกระล่อน เราทำงานตรงนี้เราวุ่นวายหลาย ๆ แบบ แล้วพอเราคุยกับแฟนเราก็เจอแบบนั้นอีก มันไม่ใช่นะ เราอยากจะเจออะไรที่มันสงบ ๆ ตลกได้บ้างบางครั้งนะ แต่ไม่ใช่ตลอดเวลา เลยทำให้เรารู้ว่าจริง ๆ แล้วเราไม่ได้ชอบคนแบบนั้น
ผู้หญิงส่วนใหญ่อยากได้แฟนที่เป็นผู้นำ?
ผู้หญิงส่วนใหญ่อาจจะชอบแบบนั้น แต่สำหรับเกรซ ไม่ต้องเป็นผู้นำก็ได้ ขอแบบเท่า ๆ กัน เดินไปพร้อม ๆ กัน อยู่ข้าง ๆ เรา ถ้าเขานำเราไปในทางที่ดี แต่ถ้าเมื่อใดมีความคิดเห็นไม่ตรงกันมันจะเกิดปัญหาทันที เพราะฉะนั้นเอาแบบเท่า ๆ กัน ให้เกียรติกันดีกว่า ปรึกษากันพยายามมองอะไรให้เกียรติกัน เกรซมองว่าเราคบกับคนที่อายุใกล้กันหรือเท่ากัน เราได้รับเกียรติมากกว่า เราอยู่ตรงนี้เราสร้างตัวเรามาก เราไม่มีอะไรต้องพึ่งใคร ไม่ต้องกลัวใคร ผู้ชายไม่ต้องมาขับรถให้ ผู้ชายไม่ต้องมาส่งเราถึงบ้าน ขอแค่เป็นที่ปรึกษาทางใจอยู่ข้าง ๆ เราเป็นกำลังใจให้กันเท่านั้นจบ ในการเป็นแฟนเกรซง่ายมาก แต่ต้องเข้าใจเกรซนะ เพราะเราเป็นนักแสดง เราอยู่กับอารมณ์ เราเล่นกับอารมณ์ บางทีเราก็จะไม่อยากจะดราม่าหรือซีเรียสอีกหลังจากที่เราเสร็จงานแล้ว เกรซต้องการคนที่ไม่ทำให้เกรซเหนื่อยใจไปมากกว่าเดิม คือต้องเข้าใจ เกรซมาก ๆ เลย แล้วขุนพลเขาก็เป็นคนเย็นมาก ๆ เลย อยู่ใกล้แล้วสงบ และเขาก็ติดดินมาก ๆ เกรซเลยเรียกเขาว่าผู้ใหญ่บ้าน เพราะว่าเขาเป็นคนที่อยู่กับทุกคนได้หมด เข้ากับคนได้หมดไม่ว่าจะทำงานแบบไหน และไม่แต่งตัวเลย ไม่ชอปปิง เป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ มาก ก็เลยรู้สึกว่าแฮปปี้เวลาที่อยู่กับเขา แล้วครอบครัวเขาก็น่ารักมากจริง ๆ
เกรซ คิดว่าได้อะไรจากวงการบันเทิงบ้าง?
เยอะมากค่ะ 12 ปีในวงการก็สอนเราเยอะมาก เพราะว่าเราต้องทำงานกับคนเยอะ ตั้งแต่แม่บ้านในกองถ่าย ช่างไฟ ช่างผม ช่างหน้า ผู้กำกับ นักแสดงทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง สื่อมวลชน หรือว่าแฟน ๆ ละครที่เขาชื่นชอบเรา ยาวไปจนถึงคนใหญ่คนโต คืออาชีพเราเจอคนหลากหลายมาก และเราเห็นอะไรเยอะกว่าเพื่อน ๆ ในวัยเดียวกัน เราแฮปปี้ที่เราอยู่ตรงนี้ อาชีพนี้นอกจากเงินทองชื่อเสียงแล้ว สิ่งที่เราได้มามันมากกว่านั้นอีกนะ มันสอนเรื่องการใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว และเราได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ ตลอดเวลา
แสดงว่า เกรซ คิดว่ามาทางนี้ถูกแล้ว?
ช่ายค่ะสำหรับตอนนี้นะ แต่เมื่อก่อนตอนเด็ก ๆ ที่เข้าวงการมาบ่อย ๆ ตอนแรกที่ได้มุงกุฎมิสทีนมาใหม่ ๆ ตอนนั้นปรับตัวไม่ได้ รู้สึกว่าเราไม่ใช้ชีวิตกับเพื่อนเลย และอีกอย่างคือที่บ้านสนับสนุนให้เล่นดนตรี กีฬา เต้น แต่พอเข้ามาทำงานในวงการบันเทิงคือปรับไม่ได้ เพราะว่าไม่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักเลย ตอนนั้นร้องไห้ใหญ่โตมาก อยากจะเอามงกุฎไปคืนเขาเลย (หัวเราะ) ตอนนั้นคิดว่าอาชีพนี้มันดูสวยหรูนะ แต่ทำไมมันจัดการกับเวลายากจัง และอีกอย่างเราเองตอนนั้นไม่ได้ตื่นเต้นกับการเป็นดาราเลย ซึ่งอาชีพนี้อาจจะเป็นความฝันของใครหลาย ๆ คน แต่เรารู้สึกเฉยกับงานในวงการ เพราะเกรซชอบการร้องเพลง กับการเต้นมากกว่า ชอบเล่นเปียโน อยากจะเป็นครูสอนเปียโน แต่พอมาเล่นละครตอนนั้นมันปรับเยอะมาก เลยไม่อยากจะเป็นนักแสดงเท่าไร อยากคืนมงกุฎเขาจริง ๆ คือบอกเลยว่า ถ้าไม่ได้เข้ามาวงการนี้ ตอนนี้ก็อาจจะเปิดโรงเรียนสอนเปียโนไปแล้ว
แล้วอะไรที่ทำให้เรารู้สึกรักและชอบในงานแสดงขึ้นมา?
ก็พอเราตั้งสติได้ คือไหน ๆ เข้ามาแล้ว ลองตั้งใจดูสักตั้ง ก็เริ่มที่จะปรับตัวได้ และเริ่มที่จะเข้าใจศาสตร์ของละครมากขึ้นและที่สำคัญวงการบันเทิงให้อะไรเราหลาย ๆ อย่างตามมา ให้โอกาสเราได้ทำธุรกิจ ซึ่งอาชีพนี้เปิดทางให้เราได้หลาย ๆ ทางมากจริง ๆ ค่ะ ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ทุก ๆ ท่าน ที่ให้โอกาสเกรซในการทำงานในวงการบันเทิงจริง ๆ ค่ะ ขอบคุณทุกโอกาสและขอบคุณทุก ๆ กำลังใจจากแฟน ๆ ละครด้วยคะ
วงการบันเทิงมีขึ้นมีลง เรามีแพลนสำหรับอนาคตบ้าง มั้ยสำหรับการทำงานในวงการบันเทิง?
คือใจจริงเกรซอยากจะทำงานในวงการนี้ตลอดไป ยาว ๆ เลยนะคะ ถึงแม้ว่าวันหนึ่งเราจะต้องเล่นเป็นคุณแม่มีลูก อะไรก็มาเลยค่ะไม่กลัว เพราะจริง ๆ แล้ว เกรซอยากจะดูโต เพราะว่าคนจะติดภาพเราที่เป็นมิสทีน เขาจะดูเราเป็นเด็ก ก็อยากจะรับบทที่โตขึ้นมา เกรซอยากจะเปลี่ยนจากบท แบ๊ว ๆ กรี๊ด ๆ เกรซ อยากจะเปลี่ยนตรงนี้ด้วยคะ อยากที่จะลองเปลี่ยนตัวเองมากขึ้น อยากจะลองบทที่มันท้าทาย และอยากจะทำงานในวงการนี้ยาว ๆ
จริง ๆ เกรซ อยู่วงการนี้มาก็ได้ทำทุกอย่างครบหมดแล้ว?
ใช่ค่ะ ทำทุกอย่างครบหมดแล้ว ทั้งละคร เดินแบบ ถ่ายแบบ และหนัง ในส่วนของภาพยนตร์เกรซเล่นเรื่อง ตี 3 ไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว สนุกมาก ก็อยากจะเล่นอีกนะคะ ส่วนบทนี้เอาตรง ๆ เลยนะอยากจะเล่นบทตลก ๆ ขำ ๆ เพราะจริง ๆ เกรซเป็นคนตลกนะ บางคนไม่รู้ ต้องเข้ามาคุยแล้วจะรู้ว่าเกรซเป็นคนสนุกสนานขำ ๆ แต่คนส่วนมากจะคิดว่าเกรซเป็นคุณหนู จริง ๆ ไม่นะ
เกรซ เป็นคนมีโลกส่วนตัวมั้ย?
ไม่เลยค่ะ เกรซคุยทั้งวันเลย (หัวเราะ) แต่มีบ้างที่เหนื่อยแต่ก็จะหยุดพักแป๊บหนึ่ง แล้วก็กลับมาคุยต่อใหม่ เกรซเป็นคนที่ชอบบันเทิง ๆ ตื่นเช้ามาก็เปิดเพลงเลยค่ะ ต่อสายเข้าห้องนํ้า อาบนํ้าก็ร้องเพลงไปด้วยเลยค่ะ ลงมามีเวลาว่างก็มาแกะกับเปียโน เอาไว้เล่นให้ที่บ้านฟัง อย่างคุณพ่อกับคุณแม่เขาชอบมากเวลาที่อยู่บ้านแล้วให้เราเล่นให้ฟัง หรือว่าบางทีเวลามีแขกมาที่บ้าน พ่อก็จะแบบเอาเกรซ เล่นเปียโนให้ฟังหน่อยลูก คือมีแบบอวดลูกนิดหน่อย (หัวเราะ) เขาก็จะแฮปปี้ มีความสุข
* ดูประวัติ เกรซ - กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า
* ดูอัลบั้ม เกรซ - กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า
|