'พีค' เชื่อความรัก ยังเป็นสิ่งสวยงามเสมอ

แฟน ๆ หลายคนบ่นบ่อย ๆ ว่าคิดถึงผลงานการแสดงแบบเต็ม ๆ ของนักแสดงสาว "พีค - ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ" เหลือเกิน เพราะส่วนใหญ่เธอจะรับงานที่เป็นซิทคอมหรือซีรีส์สั้น ๆ เพราะต้องจัดสรรเวลาเพื่อดูแลธุรกิจร้านขนม "เดสเสิร์ท แวร์เฮ้าส์" ที่ร่วมหุ้นทำกับอดีตคนรัก "ฉันทวิชช์ ธนะเสวี" ซึ่งตอนนี้กิจการนี้มั่นคง และขยายไปหลายสาขาแล้ว ซึ่งทำให้สาวพีคมีเวลาที่จะกลับมารับงานละครเต็ม ๆ โดยปีนี้เธอมีผลงานละครเรื่องใหม่แนวโรแมนติกคอมเมดี้ "2 รัก 2 วิญญาณ" ของค่ายเอ็กแซ็กท์ ทางช่องวัน งานนี้ "ดาวต่างมุม" เลยนัดแนะสาวพีคมาพูดคุยอัพเดทชีวิตทั้งเรื่องงาน ธุรกิจ และที่สำคัญความรักที่พักเบรกหัวใจไปพักใหญ่เป็นอย่างไรบ้างแฟน ๆ ติดตามได้เลยค่า

ที่มา: ดาวต่างมุม เดลินิวส์ / ภาพ: @peakpattarasaya (IG)

อัพเดทชีวิตตอนนี้ของพีคให้แฟน ๆ ได้ฟังหน่อยตอนนี้ทำอะไรอยู่บ้าง?
ชีวิตพีคตอนนี้โอเคมากเลยค่ะ มีงานเข้ามาทั้งละคร 2 เรื่อง แล้วธุรกิจร้านขนม "เดสเสิร์ท แวร์เฮ้าส์" ของพีคกับพี่เต๋อกำลังจะขยายสาขาค่ะ ปกติพีคเล่นแต่ซีรีส์และซิทคอม คือ "เซน สื่อรักสื่อวิญญาณ" และ "วงษ์คำเหลา" แต่ครั้งนี้กลับมาเล่นละครยาวเลย ในรอบหลายปีมาก เพราะละครยาวเรื่องสุดท้ายที่พีคเล่นคือ "อุบัติรักจากฟากฟ้า" นานมาก ๆ (หัวเราะ) แต่ตัดสินใจรับเล่นละครเรื่อง "2 รัก 2 วิญญาณ" เพราะพี่พิม - พิมพ์มาดา โทรฯ มาหา เค้าเป็นผู้จัดละครเรื่องนี้ครั้งแรก เราสนิทกันอยู่แล้ว บทก็เป็นโรแมนติกคอมเมดี้ ตัวละครที่พีคเล่นก็ชอบทำขนมค่อนข้างเหมือนตัวเองเลยมาเล่นดีกว่า

บทบาทในเรื่องเล่นเป็นคาแรกเตอร์ยังไง?
พีครับบทเป็น "นุชวรา" เป็นผู้หญิงเรียบร้อย เป็นสาวหวาน รักเดียวใจเดียวคือพี่บีม-กวี เป็นคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่หวาน ชอบทำขนม เป็นคู่รักที่เพิ่งแต่งงานใหม่ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านอมตะวงศ์ มีวิญญาณพี่แคท-แคทรียา และพี่แท่ง - ศักดิ์สิทธิ์ สิงอยู่มาตั้งแต่โบราณ เค้ามาทำให้คู่พีคกับพี่บีมแตกแยก พี่แท่งเจ้าชู้ กะหล่อนมาก ซึ่งบ้านนี้ผีดุเลยไม่มีใครมาเช่า แต่เราเพิ่งแต่งงานเงินก็ไม่ค่อยมีกะมาสร้างเนื้อสร้างตัว พี่แท่งก็มาเข้าสิงพี่บีม พี่บีมก็เริ่มเปลี่ยนไปเรื่อย เราก็เสียใจ จนพี่แคทสงสารก็มาสิงเราเพื่อไปจัดการพี่แท่งที่เป็นสามี เรื่องราวความสนุกก็เกิดขึ้นจากตรงนั้น บทท้าทายนะพีคต้องไปตามตบตีกับเมียน้อยของสามี โหดมาก แต่สนุกเพราะไม่เคยเล่นบทแบบนี้มาก่อนค่ะ อยากให้ติดตาม จบเรื่องนี้พีคมีซีรีส์ "อะ เลิฟ ทู คิล" รีเมคจากเกาหลีของพี่หนุ่ม - อรรถพร พีครับบทเป็น "สร้อย" เรื่องราวจะบู๊ ๆ นิดนึง มีอะไรให้พีคเล่นเยอะเหมือนกัน ใครที่อยากเห็นพีคเล่นละครเรื่องยาวปีนี้มาเต็ม ๆ ค่ะ

สิ่งที่คนดูจะได้จากการชมละครเรื่องนี้?
เราในฐานะภรรยาที่รักสามีมาตลอด ไม่คิดว่าวันหนึ่งเมื่อสามีเปลี่ยนไปโดยที่เราไม่รู้ว่าเกิดจากวิญญาณ ความรัก ความเชื่อใจคือสิ่งสำคัญ ถ้าเรามีคนรักแต่งงานก็ต้องซื่อสัตย์ต่อกัน ครอบครัวไม่มีความสุขแน่ถ้าต่างคนต่างมีคนอื่น พีคว่าคนที่กำลังมีแฟน มีครอบครัวน่าจะติดตามได้แง่คิด ดูสนุก ไม่ซีเรียสด้วยค่ะ

ธุรกิจร้านขนมของพีคล่ะเติบโตถึงไหนแล้ว?
ตอนนี้มีสาขาที่พารากอน มีที่เอ็มควอเทียร์ แล้วกำลังจะขยายสาขาไปอีก 5 สาขาเลยค่ะ (ยิ้ม) พีคเริ่มตั้งแต่เรียนทำขนมจนตัดสินใจร่วมหุ้นทำกับพี่เต๋อกว่าจะมาเปิดร้านใช้เวลานานเหมือนกันนะคะ หลายคนมองว่าทำไมร้านเราขยายสาขาน้อย เพราะอยากให้ระบบพร้อมก่อนค่อยขยายตัวได้ แรก ๆ มันบูมมากนะคะ แต่เราต้องบริหารคุณภาพซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ ต้องทำให้แข็งแรงจริง ๆ ถึงก้าวต่อไปได้ ขนมอร่อย คุณภาพดี ก็เติบโตได้ แรก ๆ พีคกับพี่เต๋อลุยเองหมดกว่าจะเข้าที่ เหนื่อยมากเหมือนกัน จนตอนนี้เรามีทีมงาน มีลูกน้องมาช่วย ถึงตอนนี้ขยายสาขาแล้ว แต่พีคกับพี่เต๋อก็ช่วยกันดูแลอย่างดีเหมือนเดิมค่ะ

ช่วงที่เราหายไปทำร้านขนมแฟน ๆ ก็กลัวว่าเราจะไม่เล่นละครแล้ว?
อ๋ออีเวนต์พีคยังไม่ออกเลย (หัวเราะ) ตอนนั้นเราทำทั้งคิดสูตรขนม คิดหน้าตา ทำทุกอย่างทำเองหมดเลยไม่มีเวลารับงานอื่น ถ้าคนที่เคยทานขนมของร้านเราจะรู้ว่าหน้าตาขนมเป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนกับของคนอื่นนั้นสำคัญ ฉะนั้นการตกแต่งทั้งหมดมาจากเราคิดเอง พีคดีใจมากที่เวลาคนบอกว่าเห็นขนมพีคจะรู้เลยว่าของเรา ก็จะพยายามคิดอะไรใหม่ ๆ ต่อไปอีก และตอนนี้ทุกอย่างเข้าที่ลงตัวพีคสามารถรับงานในวงการได้มากขึ้นไม่หายไปไหนแน่นอนค่ะ

ปีนี้อยู่ในวงการเป็นปีที่เท่าไหร่แล้ว?
10 ปีแล้วนะคะ เวลาผ่านไปเร็วเหมือนกัน พีครู้สึกโตขึ้น อายุ 26 ปี แล้ว พยายามทำตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ คิดเยอะขึ้น วางแผนชีวิตมากขึ้น พีคใช้ชีวิตในวงการเรื่อย ๆ เพราะพีคไม่ได้คาดหวังว่าเราต้องดังมีชื่อเสียงอะไรเลย ตั้งแต่เล่นหนังเรื่องแรกคือ "สายลับจับบ้านเล็ก" แค่อยากให้บริษัทจีทีเอชไม่ขาดทุน เพราะเราทำเต็มที่ แต่ไม่คิดว่าคนต้องชอบเรา ซึ่งมันคือเป็นผลพลอยได้ที่ตามมาทีหลัง พอมีแฟน ๆ ชื่นชอบและติดตามเราก็ดีใจเป็นกำไรชีวิตที่ดี ไม่ดังมาก ๆ เท่าคนอื่นก็ไม่เป็นไร ชีวิตเรามีขึ้นลงเหมือนคลื่นค่ะ มุมมองเราปรับเปลี่ยนไปตามสิ่งที่เจอ ซึ่งวุฒิภาวะเราโตขึ้นเยอะ เมื่อก่อนจะงอแง เอาแต่ใจ แต่ตอนนี้อะไรที่รู้ว่าไม่ดีเราไม่ทำ เราอยู่เป็นพีคแบบนี้ของทุกคนก็พอใจแล้วค่ะ

อยู่วงการมาก็มีข่าวทำให้นอยด์และพิสูจน์ตัวเองเยอะเหมือนกันเนอะ?
ใช่ค่ะ แรก ๆ รู้สึกมันไม่จริงทำยังไงดี อธิบายให้คนรู้ว่ามันไม่จริงยากมาก สุดท้ายปรับที่ตัวเราคือไม่ต้องคิด ยิ่งโตขึ้นเราจะแคร์สิ่งเหล่านั้นน้อยลง มันจะผ่านไปเอง เวลาจะพิสูจน์อะไรคือเรื่องจริง ตอนนี้เราบอกกับตัวเองว่าอะไรที่คิดแล้วไม่เป็นประโยชน์ต่อตัวเองจะไม่คิด แต่อะไรที่คิดแล้วเกิดประโยชน์กับตัวเองเราจะค่อย ๆ คิด แบบนี้มันดีกว่าค่ะ

สิ่งที่เรียนรู้ในฐานะนักแสดงตลอด 10 ปีล่ะ?
ชีวิตค่อนข้างโลดโผนในวงการ เจออะไรเยอะมาก แต่เราก็ต้องแลกกับความเป็นส่วนตัวเมื่อเรากลายเป็นที่รู้จัก ฉะนั้นทำอะไรตามใจตัวเองไม่ได้ ทำให้เราระมัดระวังการก้าวเดินของชีวิต แต่เราเจอคนเยอะซึ่งมีแต่คนดี ๆ ในชีวิต ถึงมันมีสองด้านทั้งดีและไม่ดี แต่ในวันที่เราโตขึ้นแล้วหันมองกลับไปก็เรียนรู้ประสบการณ์ต่าง ๆ ว่าเราก็ผ่านมันมาได้นะ

พีคเคยหลงไปกับการเป็นคนมีชื่อเสียงมั้ย?
ไม่เลยค่ะ ไม่เคยคิดว่าชั้นคือดารา พีคยังเป็นพีคปกติ ทุกวันนี้คนก็จดจำและรู้จักเราในฐานะนักแสดง ไม่อยากให้มองเราคือดาราจับต้องไม่ได้ วงการบันเทิงคนมองว่าชอบทำให้ตัวตนหรือนิสัยเราเปลี่ยนใช่มั้ยคะ พีคจะบอกว่าที่เปลี่ยนไม่ได้เปลี่ยนเพราะเราเข้าวงการ แต่เราเปลี่ยนเพราะเราโตขึ้นตามวัย อยู่ที่เราจะโตขึ้นไปเป็นแบบไหนมากกว่า ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน ตอนนี้พีคยังเป็นคนเดิมที่มีมุมมองการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปแค่นั้นเองค่ะ บางคนมองว่าถ้าอยากดัง มีชื่อเสียงก็ต้องทำตัวเองให้อยู่ในกระแส ซึ่งสำหรับเรื่องแบบนี้ไม่มี ซึ่งแฮปปี้มากกว่าที่อยู่วงการแบบไม่หวือหวามาก

กำลังใจเวลาท้อ ๆ เหนื่อย ๆ ล่ะ?
หลัก ๆ เลยต้องมาจากครอบครัวค่ะ พอโตขึ้นพีคมีพี่ ๆ จีทีเอช ที่คอยให้คำปรึกษาและหวังดีกับเราเสมอ เด็ก ๆ คุณแม่พีคดุมาก เค้าจะหวงไม่ค่อยไปไหนมาไหน แต่ป๊าตามใจ พอทำงานในวงการแม่ก็เห็นว่าเรามีความรับผิดชอบก็ปล่อยเราบ้าง แต่ทั้งสองคนยังหวงและห่วงมาตลอด แต่เป็นกำลังใจที่ดีที่สุด ตอนนี้ถือว่าชีวิตแฮปปี้ดีมาก เราก็ขยันทำงาน หาเงิน อยากทำธุรกิจเราให้ไปไกลให้มากที่สุดค่ะ

ถามถึงเรื่องความรักบ้าง มุมมองความรักเราล่ะเปลี่ยนไปมั้ย?
พีคยังมองความรักเป็นสิ่งที่สวยงามและดีเหมือนเดิม ไม่เคยรู้สึกบั่นทอนใจอะไรเลย แม้จะผ่านเรื่องต่าง ๆ มา โอเคเราอาจจะผ่านจุดที่หนัก ๆ แต่ก็ประคับประคองความรู้สึกเราผ่านมาได้ คงไม่มีช่วงไหนแย่ไปกว่าช่วงนั้นแล้ว เราเสียใจทั้งคู่แต่ก็ผ่านมาได้เพราะกำลังใจจากครอบครัว คนที่เรารัก และพีคกับพี่เต๋อเองก็ให้กำลังใจกันและกัน ตอนนี้เราก็แฮปปี้ทั้งคู่ค่ะ

ตอนนี้พีคมีคนที่คุยใหม่หรือยัง คนที่เราจะคบด้วยต่อไปต้องเป็นคนยังไง?
ก็มีคนเข้ามานะคะ แต่พีคยังไม่ได้สนใจ ตอนนี้สนใจแค่เรื่องร้านขนม พีคไม่มีสเปกพิเศษนะ แต่ยอมรับมาตรฐานต้องสูงขึ้นแน่นอน ชอบคนที่โตเป็นผู้ใหญ่กว่า ให้คำแนะนำสิ่งต่าง ๆ เราได้ พีคโชคดีเจอแต่คนดี มีความรักที่ดี มันเลยอาจจะยากนิดนึงที่จะเปิดใจให้ใคร แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันจะเจอคนแบบนั้นอีกมั้ย ยอมรับรักครั้งใหม่ไม่ง่ายแน่ ๆ ค่ะ

แต่กับเต๋อคนก็ยังอยากให้กลับมาคืนดีกันนะ มีโอกาสมั้ย?
ก็ดีค่ะ (ยิ้ม) พี่เต๋อยังให้คำปรึกษาอยู่ คุยกันตลอดเพราะเราทำธุรกิจร้านขนมด้วยกัน ถามว่าโอกาสกลับมาคบกันในอนาคต เราไม่รู้เนอะ ว่าจะเป็นยังไง อยากให้ต่างคนต่างใช้เวลาดีกว่ายังไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้น ต่างคนใช้ชีวิตกับปัจจุบันก่อน พีคอยากให้เวลากับครอบครัวพีค ให้เวลากับร้านขนม กับงานแสดงก่อนค่ะ ที่ผ่านมาพีคอาจให้น้ำหนักกับความรักเยอะไปหน่อย ไม่เหงาเพราะไม่ได้ขาดอะไร แค่ขาดคนดูแลในแบบแฟนเท่านั้นเอง

หลายคนก็ชื่นชมว่าเลิกกับเต๋อไปแต่ยังเป็นเพื่อน พี่น้องได้ดี?
ใช่ค่ะ เราคบกันมา 8 ปี มีความรักให้กันอยู่แล้ว พี่เต๋อก็เป็นเหมือนคนในครอบครัวของพีค มันเป็นความรักที่ดีมาก ๆ พอเราเลิกเป็นแฟนกัน แต่เรายังมีความรักในรูปแบบอื่นให้กันเสมอ ห่วงใยกันเหมือนเดิม

ช่วงเลิกกันใหม่ ๆ คำวิจารณ์ของคนอื่นมาตกที่เรานอยด์มั้ยโดนเยอะเหมือนกัน?
ไม่เลยค่ะ เพราะพีคเข้าใจเวลาคนวิจารณ์เพราะเค้ารักคู่เราและคาดหวัง แต่มันอยู่ที่การตัดสินใจของเรา ในเมื่อเลือกแบบนี้ต้องยอมรับผลนั้น ๆ พี่เต๋อจะให้กำลังใจตลอดบอกเราไม่ต้องคิดมาก พีคก็ไม่คิดมากเดี๋ยวมันก็ผ่านไป ซึ่งตอนนี้โอเคแล้วค่ะ

แล้วข่าวว่ารุ่นพี่ในวงการเป็นแม่สื่อให้ไฮโซคนนั้นคนนี้จีบเราล่ะ?
โอ้โห ไม่จริงเลยค่ะ ไม่มีใครมาเป็นแม่สื่อให้ ขึ้นอยู่กับจังหวะเวลามากกว่า ข่าวต่าง ๆ รวมถึงภาพถ่ายปาปารัซซีกับผู้ชายที่ออกมา ไม่มีใครที่พีคศึกษาเลย มีแต่เพื่อนแล้วเป็นภาพที่นานแล้วด้วย ตอนนี้พีคโสดสนิท ไม่เหงา แฮปปี้มากค่ะ

ข้อดีของการเป็นโสดล่ะ?
ข้อดีของการเป็นโสด ทำให้เราเข้มแข็ง เข้าใจชีวิตมากขึ้น แต่ก่อนจะคาดหวัง ฝากอะไรหลายอย่างไว้กับคนรัก แต่ทุกวันนี้เรากลับมาดูแลตัวเอง แล้วก็ทำได้ดีซะด้วย ไม่มีความรักก็ไม่ได้หมายความว่าชีวิตเราจะเดินต่อไปไม่ได้ค่ะ (ยิ้ม)

อนาคตในวงการบันเทิงของเราต่อ ๆ ไปเป็นยังไง?
พีคคงเล่นละครควบคู่ไปกับธุรกิจนะคะ พีคดีใจที่ผู้ใหญ่ให้โอกาสพีคทำงานตลอด เราจะเอาโอกาสตรงนี้ที่ได้มาพัฒนาการแสดงให้ดีขึ้น ควบคู่ไปกับธุรกิจร้านขนมซึ่งเป็นอีกด้านที่เรารักค่ะ

สุดท้ายฝากถึงคนที่ให้กำลังใจเราเสมอ ติดตามผลงานเราตลอด?
พีคยังรู้สึกว่าคนให้กำลังใจพีคและพี่เต๋อเยอะมาก ขอบคุณที่ให้กำลังใจเรา ทุกวันนี้ยังมีคนเชียร์เราอยู่ก็ขอบคุณมาก ๆ นะคะ สิ่งเหล่านี้คือพลังบวกให้เราทั้งคู่เลย ส่วนคนที่ติดตามผลงานการแสดงของพีค หนูฝากละคร "2 รัก 2 วิญญาณ" ด้วย เพราะสนุกจริง ๆ นักแสดงแต่ละท่านมีฝีมือดีมาก ได้แง่คิดด้วย อากาศร้อน ๆ แบบนี้ดูละครโรแมนติกคอมเมดี้สบาย ๆ แล้วก็เรื่อง “อะ เลิฟ ทู คิล” แล้วก็ “เซนสื่อรักสื่อวิญญาณ” จะพยายามมีงานเรื่อย ๆ แล้วก็ฝากร้านขนม "เดสเสิร์ท แวร์เฮ้าส์" ของพีคกับพี่เต๋อด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ (ยิ้ม)

* ดูประวัติ พีค - ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ
* ดูอัลบั้ม พีค - ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ