Top
จุ๋ย - วรัทยา นิลคูหา

'จุ๋ย' เผื่อใจทุกเรื่อง เพราะชีวิตเปลี่ยนได้เสมอ


กำลังได้รับความสนใจจากคอละครเป็นอย่างมาก สำหรับ “สามีตีตรา” ทางช่อง 3 เพราะในเรื่องนี้นางเอกสาวหน้าคม จุ๋ย-วรัทยา นิลคูหา ตัดสินใจพลิกมาเล่นบทร้ายเป็นครั้งแรกกับบท “สายน้ำผึ้ง” ซึ่งกระแสตอบรับดีเกินคาด ชีวิตของเธอช่วงนี้นอกจากงานจะรุ่งแล้ว ความรักกับหวานใจ หนาม-รวิ ธนดล อิทธิระวิวงศ์ ก็เริดอีกต่างหาก “ดาวต่างมุม” เลยไม่รอช้า ขอชวนเธอมาเปิดหัวใจทุกมุม

ที่มา : ดาวต่างมุม เดลินิวส์



"สามีตีตรา" ลงจอแล้ว ฟีดแบ็กดีมาก
"จุ๋ยตื่นเต้นมาก เป็นสิ่งที่เราตั้งใจ ด้วยบทและตัวละครเข้มข้นกันมาก แค่ตอนที่ปล่อยตัวอย่างละครออกมาคนก็ให้ความสนใจแล้ว ตั้งแต่ตอนยังไม่ออนแอร์จุ๋ยไปเดินตลาด อ.ต.ก. คนก็พูดถึงละครเรื่องนี้กันแล้ว พี่แอน ทองประสม ผู้จัดละครตัดทีเซอร์มาได้น่าสนใจ เรื่องนี้จุ๋ยรับบทเป็น “สายน้ำผึ้ง” เป็นเพื่อนรักกับกะรัต (พลอย-เฌอมาลย์) มาตั้งแต่เด็ก แต่จู่ ๆ วันหนึ่งกะรัตมาจับได้ว่าสายน้ำผึ้งมีอะไรกับสามีของเขา โดยที่กะรัตไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วสายน้ำผึ้งเองก็โดนสามีของกะรัตหลอกเหมือนกัน สายน้ำผึ้งก็ผิดตั้งแต่แรกที่ไม่ยอมเตือนเพื่อน แต่ด้วยความที่เขาขาดความรักความอบอุ่นยอมผู้ชายตลอด พอเรื่องเปิดเผยขึ้นมา จากที่สายน้ำผึ้งเคยโดนกดมาตลอดก็ปะทุแตกระเบิดกลายเป็นอีกคนที่พร้อมจะแก้แค้นทุกอย่าง"


บทเรื่องนี้เป็นบทที่ร้ายสุด ๆ ครั้งแรกของจุ๋ยหรือเปล่า
"ใช่ค่ะ ร้ายจริงจัง บางทีนางเอกอาจจะสู้คนหรือไม่ยอมคนบ้าง แต่อันนี้เป็นความคิดเชิงร้ายริษยา แต่จริง ๆ จุ๋ยว่าชีวิตของสายน้ำผึ้งน่าสงสารพอสมควร เพราะชีวิตของเขาไม่เคยสมหวัง โชคไม่เคยเข้าข้างเขา ในขณะที่กะรัตมีทุกอย่างครบ เลยมีอารมณ์แค้นและอิจฉาไม่อยากให้เพื่อนได้ดี ที่ตัดสินใจเล่นเรื่องนี้เพราะพี่แอนโทรฯ มานานมาก พี่แอนบอกว่าถ้าจุ๋ยสามารถเล่นช่อง 3 ได้พี่อยากให้มาเล่นเรื่องนี้ พี่เขาติดต่อมาก่อนที่จุ๋ยจะเล่นละคร “บ่วงวันวาร” เสียอีก ที่พี่แอนเลือกให้จุ๋ยมาเล่นร้าย เพราะพี่แอนบอกว่าถ้าเอาคนที่เล่นร้ายอยู่แล้วมาเล่น คนดูก็จะเดาทางออกมาเดี๋ยวก็ต้องร้าย ตอนแรกจุ๋ยไม่กล้าเล่น เพราะกลัวจะทำได้ไม่เท่าที่พี่แอนหวังเอาไว้ แต่เขาก็เชื่อว่าเรามีของ ทั้ง ๆ ที่เขาไม่เคยร่วมงานกับเรา ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงมั่นใจแบบนั้น"



มาเล่นเรื่องนี้ต้องไปเรียนการแสดงอะไรเพิ่มไหม
"จุ๋ยขอพี่แอนไปเรียนการแสดงกับครูเงาะ-รสสุคนธ์ กรองเกตุ เพิ่ม เพราะเราอยากรู้ว่าคนที่แย่งแฟนเพื่อนและยอมผู้ชายแบบนี้เขาคิดอะไร ต้องไปนั่งคุยและตีความตัวละครตั้งแต่เด็ก ใช้จินตนาการว่ากะรัตกับสายน้ำผึ้งคบกันอย่างไร เพราะในเรื่องเราต้องรู้ใจกะรัตและรู้ทางเขาหมด จุ๋ยบอกพี่ แอนว่าเล่นละครมา 30 เรื่อง เรื่องนี้ถ่ายยากและเหนื่อยที่สุดแล้ว ถามว่าจุ๋ยกดดันไหมเพราะทุกคนคาดหวัง กดดันนิดหนึ่งจากการที่คนตั้งใจดู แต่เราไม่รู้ว่าคนดูอยากเห็นอะไร แต่คิดว่าน่าจะถูกใจคนดู มันไม่ได้มีแค่เรื่องตบตีแย่งแฟนกัน แต่มีข้อคิดสะท้อนให้เห็นความรักความอบอุ่นในครอบครัวด้วย"


กลัวคนดูจะรับเราไม่ได้ไหม เพราะที่ผ่านมาจุ๋ยเป็นนางเอกเรียบร้อย แสนหวานมาโดยตลอด
"แฟนคลับของจุ๋ยส่วนใหญ่จะรอดูการเปลี่ยนแปลงในการทำงานของเรามากกว่า แฟนคลับบอกว่าเขาจะเชียร์และมันไปกับตัวร้าย จุ๋ยว่าถ้าเป็นคนสมัยก่อนไม่มีวิถีทางในการสื่อสารกับคนดู เพราะการเจอดาราเป็นอะไรที่ยากมาก แต่สมัยนี้ไม่ใช่ เรามีโซเชียลเน็ตเวิร์กไว้แชร์ตัวตนของเรา ดังนั้นคนไม่น่าจะติดภาพบทบาทที่เรารับ ในทางกลับกันเขาได้สนุกไปกับงานของเรามากกว่า"


นอกจากนี้มีซีรีส์ "คัพเค้ก รักล้นครีม" ด้วย
"ใช่ บทในเรื่องนี้จะเป็น “ครีม” เป็นผู้หญิงสมัยใหม่ที่เรียบร้อยไม่ทันเพื่อน เป็นเรื่องของ 3 สาว 3 คาแรกเตอร์ที่ต้องการตามหาความรัก เรื่องนี้ก็สะท้อนชีวิตสาว ๆ ในปัจจุบันนี้ที่ผู้หญิงแต่งงานยากเพราะสวย เริด เลือกเยอะ ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้ตลกมากขายมุกเหมือนซีรีส์โดยส่วนใหญ่ของ “เวิร์ค พ้อยท์” แต่ก็มีกลิ่นอายความน่ารักและใกล้เคียงกับไลฟ์สไตล์ชีวิตผู้หญิงปัจจุบันนี้ค่อนข้างเยอะ ดูแล้วสนุกคลายเครียดได้"



ช่วงนี้งานแสดงเยอะเลย
"1 ปีที่ผ่านมาจุ๋ยหันมาทำธุรกิจส่วนตัวและมีงานพิธีกรประจำกับ “เวิร์คพ้อยท์” เลยทำให้จุ๋ยรับละครได้ปีละ 1 เรื่องหลังจบละคร “สามีตีตรา” ก็เตรียมเปิดกล้องละคร “ฝันเฟื่อง” ของ พี่เจี๊ยบ-โสภิตนภา ต่อเลย กลับมาร่วมงานกับเอ็กแซ็กท์ เพราะเคยร่วมงานละคร “บ่วงวันวาร” แล้วประทับใจ แต่ที่ผ่านมาเวลาไม่ลงตัวจริง ๆ เพิ่งจะมาประจวบเหมาะคิวละครของพี่เจี๊ยบ พี่สาวที่สนิทพอดี หลังจากนี้ไปจุ๋ยจะรับงานที่หลากหลายมากขึ้น คนอาจจะได้เห็นผลงานละครเราต่อเนื่อง แต่อาจจะไม่เยอะเหมือนตอนเราเด็ก ๆ ที่โหมถ่ายละครอย่างเดียวปีละ 4 เรื่อง จุ๋ยไม่ไหวที่จะวิ่งรอกขนาดนั้นแล้ว"


ตอนนี้มีงานอะไรบ้างที่นอกเหนือจากงานละคร
"เป็นพิธีกรรายการ “ชิงช้าสวรรค์” และ “หนูน้อยกู้อีจู้” บางเดือนก็มีถ่ายรายการ “ชิงร้อยชิงล้าน ซันไชน์ เดย์” ด้วย รายการต่าง ๆ ที่ได้มีโอกาสทำ จุ๋ยว่าผู้ใหญ่คงเห็นว่าเหมาะกับจุ๋ย ส่วนใหญ่เป็นรายการมีสาระและมีเด็ก ๆ ตอนนี้เวิร์คพ้อยท์ดูแลงานทุกอย่างของจุ๋ยทั้งหมด แต่ตอนที่เซ็นสัญญาจุ๋ยขออนุญาตว่าอยากจะเลือกรับงานละครเอง เพื่อความสบายใจของเรา ผู้ใหญ่ก็เข้าใจและให้โอกาส ถือว่าเราโชคดีมาก ถึงจะไม่มีงานละครเยอะ แต่การทำรายการโทรทัศน์ทำให้คนดูได้เห็นเราทุกอาทิตย์ ละครก็จะได้ในวันธรรมดา ทำให้เราอยู่ในวงการได้ตลอดไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่ไปทำหน้าที่ที่แตกต่างกันไป ในเรื่องธุรกิจส่วนตัวของเรา เช่น ขายครีมและอาหารเสริม,โรงแรมน้องหมาและแมว และเสื้อผ้าที่เราหิ้วจากต่างประเทศหรือเสื้อผ้ามือ 2 ของเรา ชีวิตจุ๋ยตอนนี้สามารถทำอะไรหลายอย่างได้พร้อมกัน ซึ่งเป็นความฝันของเราตั้งแต่เด็ก เราเรียนบริหารและรัฐศาสตร์มาได้ใช้ความรู้ที่เราเรียนมาจริง ๆ งานในวงการอาจให้อะไรเราได้เยอะ"


จุ๋ยพอใจกับจุดที่เรายืนอยู่หรือยัง
"จุ๋ยอยู่ในตำแหน่งที่พอใจแล้ว ทำมากกว่านี้เราก็เหนื่อย เราไม่เคยฝันว่าจะมาได้ขนาดนี้ เป็นที่รู้จัก ได้ทำงานที่ตัวเองรัก ได้ใช้ประสบการณ์ของตัวเองเต็มที่ และชีวิตเราก็คงเส้นคงวามาตลอด อยู่ที่สูงมากไปก็มีข่าวเยอะและวางตัวลำบากหรือบางคนเข้ามาในวงการไม่นานก็หายไป โดยที่ยังไม่มีใครจดจำชื่อเขาได้เลยด้วยซ้ำ จุ๋ยว่าเราโชคดีกว่าคนหลายคนมาก และตอนนี้เวิร์คพ้อยท์ก็มีช่องเป็นของตัวเอง เราก็มีความมั่นคงในชีวิต"



วางแผนงานในวงการไว้อย่างไรบ้าง
"ถ้าเราเป็นนางเอก อายุงานของเราก็ได้แค่ 30 กว่า หลังจากนั้นก็ต้องเล่นเป็นแม่แล้ว แต่อายุงานด้านพิธีกรมันยาว แต่อาชีพนักแสดงเป็นอาชีพที่มีค่าสำหรับจุ๋ยมาก ๆ ไม่ได้เกี่ยงว่าจะเป็นบทอะไร จุ๋ยไม่ได้ยึดติดกับบทพระ-นางอย่างเดียว เมื่ออายุเราเปลี่ยนไปเราก็ต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลงให้ได้ และวงการบันเทิงบ้านเราสมัยนี้ก้าวสู่ความเป็นสากลมากขึ้น คือ ถึงเราจะเป็นนางเอก แต่พอเปลี่ยนมาเล่นบทร้ายคนก็รับได้ ถ้าบทเหล่านั้นพัฒนาการแสดงของเราได้ และทุกคนก็ต้องทำงานเพื่อให้ทันกับความทันสมัยของโลกมากขึ้น ตราบใดที่เรารักษามาตรฐานของเราได้ ก็น่าจะมีงานอะไรให้เราสนุกกับชีวิตได้อีก แต่ถามว่ามองเรื่องการเป็นผู้จัดละครบ้างไหม ความที่เห็นพี่ ๆ รอบตัวเราทำรู้สึกว่าเหนื่อย ต้องใส่ใจและดูแลคนมาก ๆ บางเรื่องถ้าผู้จัดเล่นละครเองด้วยอีก แย่เลยนะ ตอนนี้ยังไม่คิดว่าจะเป็นหรือไม่เป็น คงต้องรอเมื่อพร้อมว่าจะเป็นหรือไม่เป็น"


ความรักตอนนี้ดูแฮปปี้นะ
"เป็นความรักที่แฮปปี้แบบธรรมดา ไม่ได้หวานอะไรมาก เพราะเป็นคนที่ไม่สื่ออะไรออกมาให้เห็นอยู่แล้ว เราพยายามเรียนรู้นิสัยกันและทำให้มันดีที่สุด กับพี่หนามเจอกันตอนไปไหว้พระตรีมูรติ ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ตอนนั้นพี่หนามรู้ว่าจุ๋ยเป็นนักแสดง เพราะเขาชอบผู้หญิงหน้าไทย นักแสดงไทยมี 2 คนที่เขารู้จักคือ จุ๋ยและ พี่แอฟ-ทักษอร จากวันแรกที่เจอกันมาถึงตอนนี้ก็ประมาณ 1 ปีแล้ว แต่เราคบกันไม่ถึงปี เพราะวันแรกที่รู้จักเขาแค่มาขอบคุณที่เราใช้ของเขา เราก็เลยรู้จักว่าพี่เขาเป็นเจ้าของ แต่หลังจากนั้นน้องที่ทำงานของพี่หนามกับเลขาฯของจุ๋ยติดต่อกันไปมา ก็เลยได้กลับมาคุยกันอีกที"


ที่ผ่านมาจุ๋ยนิ่งเรื่องความรักมานาน ทำไมเปิดใจกับคนนี้
"จุ๋ยเปิดใจกับคนที่เราคบอยู่แล้ว แต่บังเอิญมีพี่นักข่าวคนหนึ่งที่รู้ พอรู้คนหนึ่งก็กระจายไปหมด พอพี่ ๆ มาสัมภาษณ์ก็ไม่อยากโกหกว่าไม่มี ถ้าพูดแบบนั้น แล้วพี่หนามจะรู้สึกอย่างไร เราก็ทำให้พี่เขาสบายใจ เพราะพี่เขาเองก็หวงที่เราทำงานในวงการบันเทิง พูดตรง ๆ ว่ามันหมดสมัยที่จะพูดว่า เพื่อนสนิท พี่ที่รู้จัก ตอนนี้เป็นยุคแห่งความจริงใจ ตรวจสอบได้ (หัวเราะ) และวุฒิภาวะของเราก็อยู่ในวัยที่เราคบใครสักคนได้"



พี่หนามมีดีอะไรทำให้เราถึงคบหาดูใจกับเขา
"ระหว่างที่จุ๋ยโสดก็มีคนเข้ามา แต่บางคนไม่ใช่เลย แค่คุยไลน์ก็รู้เลยว่าไม่ใช่ เราก็จะหายไปเอง แต่กับพี่หนามพอเขาคุยมาเหมือนเราคุยต่อได้หลาย ๆ เรื่อง มีโน่นนี่ให้คุยได้ตลอด และเขาเป็นคนน่ารัก รักครอบครัวมาก เพราะจุ๋ยรักครอบครัวเหมือนกัน ที่บ้านจุ๋ยไม่ได้สอนให้คบคนที่หน้าตาหรือเงินทอง แต่สอนให้เลือกคนที่รักครอบครัว ถ้าความรักของเขามีให้ครอบครัว ก็จะมีความรักเหลือมาถึงเรา พี่หนามเป็นผู้ชายอบอุ่น แต่คนเราไม่ได้สมบูรณ์แบบทุกอย่าง นิสัยบางอย่างเราต้องปรับเข้าหากัน อยู่ที่ว่าเรา 2 คนรับกันได้ไหม ซึ่งระยะเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าสิ่งที่ไม่เหมือนกันจะเข้ากันได้ไหม"


จุ๋ยเล่นละคร ต้องมีบทเลิฟซีน เขามีหวงบ้างไหม
"โชคดีที่ละคร “สามีตีตรา” ไม่ค่อยมีบทเลิฟซีน แต่เรื่องใหม่ “ฝันเฟื่อง” เนี่ยน่าจะเยอะหน่อย แต่เป็นละครของพี่เจี๊ยบ ซึ่งพี่หนามรู้จักอยู่แล้วก็น่าจะเคลียร์กันได้ เรื่องเลิฟซีนเขาอาจจะมีคำพูดที่ออกมาบ้างว่าหวง แต่เรารู้ว่าเขาเข้าใจ เพราะเขาไม่เคยตามไปกอง หรือตามรับ-ส่งเรา"


มีอะไรที่ต้องปรับจูนกันอีกไหม
"มีบ้างนิดหน่อย เช่น การฟังเพลง เขาชอบฮิปฮอปฝรั่ง แต่เราชอบฟังเพลงไทย ก็ต้องปรับตัวกันนิดหนึ่ง เขาโตมาจากเมืองนอก ฟังเพลงไทยก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง อย่างเรื่องการทำงานจะไม่ยุ่งกันเลย แรก ๆ อาจจะมีไลน์ถามระหว่างวันบ้าง แต่หลัง ๆ มาเรารู้ว่าพี่หนามเป็นคนโฟกัสงาน เราก็จะไม่ค่อยถามอะไร จะมีก็แค่โทรฯ ไปถามตอนดึก ๆ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง และตัวจุ๋ยเองก็ไม่ค่อยพกโทรศัพท์ ไม่คุยกันระหว่างวันมาก เพราะคบกันแบบคนที่โตแล้ว"



ต่างคนต่างบ้างาน เรื่องเวลาเป็นปัญหาบ้างหรือเปล่า
"ตอนแรก ๆ พี่สาวของพี่หนามกลัวจุ๋ยรับพี่หนามไม่ได้ เพราะพี่หนามทำงานหนักมาก เพราะออฟฟิศเขาอยู่ใกล้บ้าน ในส่วนของจุ๋ยทำงานไม่เป็นที่ ไป ๆ มา ๆ เรายุ่งมากกว่าเขา แต่จุ๋ยพยายามเคลียร์วันเสาร์ให้เป็นวันของเขา วันอาทิตย์เป็นวันครอบครัว ต่างคนก็ต่างอยู่กับที่บ้าน"


ความรักของหนามและจุ๋ยลงตัวหรือยัง
"ณ ตอนนี้ คนอาจคิดว่าเข้ากัน แต่ด้วยความที่จุ๋ยเป็นคนเผื่อใจ ชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ เราต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลงนั้น ๆ แต่ตอนนี้เราก็เต็มที่และจริงใจกับเขามากที่สุด แต่อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน เลยไม่อยากพูดว่าใช่คนนี้ร้อยเปอร์เซ็นต์ไหม ชีวิตจุ๋ยกับทุกเรื่องเวลาสุขจะสุขไม่สุด แต่เวลาทุกข์ก็จะทุกข์ไม่นาน"


เคยมองเอาไว้ไหมว่าตัวเองจะมีครอบครัวเมื่อไหร่
"จุ๋ยเคยมองเอาไว้ว่าเมื่อไหร่ที่งานพอดีกว่านี้ถึงจะมารับผิดชอบเรื่องครอบครัว เพราะเราถือว่าเรื่องครอบครัวก็เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าจะมีสามีหรือลูกต้องดูแลได้เต็มที่ ถามว่าคิดว่าจะลดงานเพื่อมีครอบครัวไหม คงไม่นะ แต่เอาเป็นว่าถ้าธุรกิจส่วนตัวของเรานิ่ง โดยที่เราไม่ต้องเต็มที่มาก เราก็น่าจะมีครอบครัวได้"

แหม!อิจฉาจริง ๆ คน “ลัคกี้ อิน เกม ลัคกี้ อิน เลิฟ” เนี่ย!.




 
 

Box Office

เรื่อง
ล่าสุด
รวม
1.
2.
3.
4.
5.
เรื่อง
ล่าสุด
รวม
1.
2.
3.
4.
5.

บทสัมภาษณ์ทั้งหมด

 
 
 

ติดตามหนังดี : Youtube Instagram Facebook Twitter  

MMM Digital Asset Co.,Ltd.
109 อาคารซีซีที ชั้น 2 ถนนสุรวงศ์
แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
Tel. 0-2234-7535    FAX. 0-2634-4269
E-mail: webmaster@nangdee.com   © 2006 nangdee.com
แผนที่ | sitemap | ติดต่อโฆษณา