ลิฟท์ - ออย
|
คู่ซี้สุดขั้ว'ลิฟท์-ออย'
"ดูมั้ยดู ดูมั้ยดู ดูไม่เสียตังค์..."หลายคนน่าจะยังคงจดจำกันได้ ว่าเป็นเพลงนี้เป็นของศิลปินคนไหน และตอนนี้พวกเขากำลังจะกลับมาพร้อมกับระเบิดความมันส์ในคอนเสิร์ตใหญ่ของคู่หูดูโอ้ ระดับตำนานอย่าง "ลิฟท์" สุพจน์ จันทร์เจริญ และ "ออย" ธนา สุทธิกมล วันนี้รายการ "ซุปตาร์ในดวงใจ" และ "บันเทิง คม ชัด ลึก" คว้าตัวทั้งสองหนุ่มเพื่อนซี้มาพูดคุยล้วงลึกถึงการเตรียมตัวสำหรับคอนเสิรต์ที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 14 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้ พร้อมกับเผยเบื้องหลังม่านมายาและชีวิตในวงการบันเทิงที่ผ่านของเขาทั้งคู่
ที่มา: คมชัดลึก
|
|
|
|
คำถาม
|
กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง
|
ลิฟท์
|
การกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้ร่วมงานกันในฐานะดูโอ้ก็หลายปี ซึ่งกลับมาคราวนี้ เราก็เหมือนเป็นการกลับมาบ้านที่มีคนคุ้นหน้าคุ้นตาและได้ร่วมงานกันอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งผมเชื่อว่าใครหลายๆ คนก็รอคอยการกลับมาในครั้งนี้ของพวกเรา และครั้งนี้เราสองคนก็เติบโตขึ้นจากเมื่อก่อนกันมากภาวะความเป็นผู้ใหญ่ต่างๆ ก็มากยิ่งขึ้น ในคอนเสิร์ตครั้งนี้ถือว่าเราได้มีส่วนร่วมในการผลิตเนื้องานมากด้วย ทั้งการคัดเลือกเพลง สคริปต่างๆ บนเวทีด้วย
|
ออย
|
ส่วนผมก็เหมือนกันกับลิฟท์นะ ว่าเหมือนได้กลับมาบ้านตัวเองอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเมื่อก่อนตอนที่เซ็นต์สัญญากับทางอาร์เอสโปรโมชั่น 9 ปี ใช่วงนั้นเรากินนอนด้วยกันเรียกได้ว่า หนึ่งเดือนมี 30 วันเราสองคนเจอหน้ากันก็ 20 วันเข้าไปแล้ว ซึ่ง ณ จุดนี้ กลับมาทำคอนเสิร์ตด้วยกัน เรียกว่าไม่ต้องมองตาก็รู้ใจกันอยู่แล้ว ว่าแต่ละคนต้องการอะไร อยากทำอะไรเพื่อตอบแทนแฟนคลับที่รอคอยการกลับมาของพวกเรา จึงเกิดเป็นคอนเสิรต์ในครั้งนี้
|
|
คำถาม
|
กว่าจะเป็นคอนเสิร์ต
|
ออย |
พูดถึงคอนเสิร์ตครั้งนี้ที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้นเป็นเพราะกระแสของแฟนเพลงที่หวนย้อนกลับมาฟังเพลงเก่าๆ ที่คงมีคนคิดถึงพวกเราอยู่มาก ซึ่งอาจจะเพราะเป็นกระแสตอบรับมาจากคอนเสิร์ตแร็พเตอร์ที่เราเคยไปเป็นแขกรับเชิญ จนมาถึงคราวนี้ถึงคราวของพวกเราทั้งสองคนจึงทำให้เกิดเป็น ลิฟท์-ออย happy & party concert
|
ลิฟท์ |
ถ้าถามว่าทำไมต้องเป็น happy&party ต้องบอกตามตรงว่าในสมัยนั้นในภาพจำของแฟนเพลง ลิฟท์กับออยก็จะต้องนึกถึงความสนุกสนาน มีสีสันในตัวเองทั้งเรื่องเสื้อผ้าที่เป็นจุดเด่นสีสันฉูดฉาดแสบตา รวมถึงท่าเต้นต่างๆ ที่ทุกๆ คนยังคงจดจำได้รับรองว่ามาในคอนเสิร์ตครั้งนี้จะได้เห็นได้ชมกันอย่างจัดเต็มกันแน่นอน
|
คำถาม |
เตรียมเซอร์ไพร์สอะไรไว้ให้แฟนเพลงบ้าง
|
ลิฟท์ |
ถ้าพูดถึงเซอร์ไพรส์ในคอนเสิร์ตครั้งนี้ ต้องขอแอบบอกว่าคอนเสิร์ตของพวกเราถูกแบ่งออกเป็น 2 พาร์ทด้วยกัน คือในส่วนของแฮปปี้ แฟนๆ ทุกคนที่ได้ไปชมคอนเสิร์ตครั้งนี้ ก็จะได้เต็มอิ่มไปกับเพลงที่เราคัดสรรมากว่า 30 เพลง อย่าง แอบมีเธอ นิ้วก้อย ซึ่งแต่ละเพลงขอบอกว่าเป็นเพลงที่ทุกคนร้องตามกันได้ยิ่งในส่วนของแอปปี้ จะได้ฟังเพลงเพราะๆ บวกกับเซอร์ไพรส์เกี่ยวกับแขกรับเชิญที่เราต้องขออุบเอาไว้ก่อน ไว้ไปรอลุ้นเอาในคอนเสิร์ตดีกว่า
|
ออย |
อย่างที่ลิฟท์บอกถ้าบอกว่าใครเป็นแขกรับเชิญมันก็ไม่เรียกว่าเซอร์ไพรส์ เอาเป็นว่ายังมีเรา 2 คนลิฟท์ออย แน่นอนงานนี้ ( ผมขอเสริมในส่วนของช่วงปาร์ตี้ละกัน ว่าในส่วนนี้ทุกคนจะได้พบกับความสนุกของเพลงมันส์ๆ เต้นๆ ซึ่งทุกคนรู้ดีว่าเพลงของเรา จะมีแนวทางอยู่แล้ว และท่าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโม่แป้ง กวนข้าวเหนียว สารพัดท่าที่เคยเห็นรับรองคุณจะได้เห็นมันอีกครั้งบนเวที และเชื่อว่าทุกคนต้องมีส่วนร่วมสนุกกับเราและลุกขึ้นเต้นไปพร้อมๆ กับเรา คงเป็นภาพที่น่าประทับใจแน่ๆ
|
|
|
|
คำถาม
|
การเตรียมตัวกับคอนเสิร์ต
|
ออย
|
สำหรับผมช่วงนี้ก็คงมีการฟิตร่างกายอยู่เยอะเลยนะ ตอนนี้ก็ยิ่งฟิตไปใหญ่ ตกเย็นมาที่ไรต้องออกไปเตะฟุตบอลตลอด ซึ่งเป็นการซ้อมที่เกี่ยวกับคอนเสิร์ตมาก(หัวเราะ) ทั้งนี้ผมก็ต้องซ้อมร้องซ้อมเต้นกันหนักอยู่นะ เพราะคอนเสิร์ตครั้งนี้ทั้งร้องทั้งเต้นกว่าสามสิบเพลงนี่ก็เอาเรื่องอยู่นะ
|
ลิฟท์
|
ส่วนผมก็เหมือนกัน เพราะเมื่อนึกถึงเวลาที่ได้กลับไปยืนอยู่บนเวทีคอนเสิร์ตอีกครั้ง หลังจากห่างไปกว่า 19 ปี เป็นใครก็ต้องฟิตร่างกายให้พร้อมแน่นอน อย่างผมก็ออกกำลังกายเช่นว่ายน้ำบ้าง เข้าฟิตเนตบ้าง ส่วนในเรื่องการร้องการเต้น ก็ต้องรื้อฟื้นกันบ้าง แต่ผมขอรับรองความฟิตของเรา 2 คนว่างานนี้ไม่มีใครเป็นลมแน่(หัวเราะ)
|
คำถาม |
ความกดดันเกี่ยวกับคอนเสิร์ต
|
ออย
|
สำหรับเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมงานประชุมกันของทีมงานในส่วนนั้นผมไม่กังวลใดๆ เลย แต่ที่ห่วงอยู่ก็คือเราจะทำในสิ่งที่เราคิดและวางแผนไว้ออกมาได้อย่างที่เราคิดไว้หรือเปล่าเท่านั้นเอง ซึ่งจุดนั้นมันก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าการซ้อมการเรียบเรียงทุกอย่างที่เราเตรียมมานั้นทำออกมาให้ดีที่สุด ถึงแม้ว่าจะกังวลนิดหน่อยก็ตามแต่ ผมก็จะทำออกมาให้ทุกคนสนุกไปกับเราในทุกๆ นาทีที่อยู่บนเวทีให้ได้
|
|
คำถาม |
ความประทับใจ
|
ออย |
ลิฟท์เขาเป็นคนทำงานง่ายเป็นคนง่าย เวลาคิดอะไรก็พูด มีอะไรก็เคลียร์กันตรงนั้นเลย เพราะเขาเป็นคนตรงๆ สื่อสารกันง่าย ก็เลยทำให้การทำงานของเรานั้นไม่ค่อยมีปัญหาอะไร เพราะเวลาไปทำงานคนเดียวนั้น มันรู้สึกเขินอายยังไงบอกไม่ถูก มันไม่เหมือนกับตอนที่มีคู่หูไปด้วย การทำงานมันต่างกันเหมือนขาดอะไรไปซักอย่างประมาณนั้น (หัวเราะ)
|
ลิฟท์ |
สำหรับออย ผมรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ทำงานร่วมกันแล้วมีความสุข ด้วยเรารู้แนวทางการทำงานกันของแต่ละคน ว่าใครต้องการอะไรมีการพูดคุยกันได้แนะนำได้ตำหนิได้ไม่มีการโกรธเคืองกัน และเขาที่เป็นคนที่มีความคิดที่ไม่หยุดนิ่งเราก็ชื่นชมเขานะจุดนั้น
|
คำถาม |
มีอะไรที่เป็นห่วงกันบ้างมั้ย
|
ออย
|
เรื่องที่เป็นห่วงสำหรับลิฟท์เหรอ ผมคิดว่าคงไม่ได้ห่วงอะไรมากมาย เพราะผมรู้ดีว่าเขาเป็นคนที่รอบคอบในทุกๆ เรื่อง และผมก็คิว่าตอนนี้ชีวิตเขาก็พร้อมในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว ลูก และภรรยา ต้องขอบอกเลยว่าเป็นเรื่องที่ดี เราได้เห็นเพื่อนของเราได้มีในสิ่งที่เขาต้องการครบถ้วน ซึ่งดูต่างจากผมมากๆ คนที่น่าห่วงที่สุดน่าจะเป็นผมมากกว่านะ (หัวเราะ)
|
ลิฟท์
|
ส่วนผมมองว่าออยเขาตอนนี้ก็โตเป็นผู้ใหญ่นะ เขาเองก็มีความคิดเป็นของตัวเองที่ค่อนข้างมาก ในบางครั้งเขาก็จะมีเรื่องบางเรื่องมาปรึกษา หรือเรียกว่ามาเล่าให้ฟังจะดีกว่า ก็คงเป็นเรื่องราวที่เขาไปพบไปเจอมา และเราก็เป็นเพียงผู้รับฟังที่ดี มีแนะนำบ้าง แต่ก็เป็นบางครั้งที่เขาจะนำไปใช้นะ เพราะว่าเราเข้าใจว่าเรื่องบางเรื่องคนเราจะเจอมาในแบบที่ไม่เหมือนกัน
|
|
|
|
คำถาม |
ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงของออยมาทางด้านละครซะเป็นส่วนใหญ่
|
ออย |
กับการเปลี่ยนแปลงมารับละครในช่วงหลังๆ ก็เพราะว่าคงเป็นทางที่ดีที่สุดแล้ว เพราะเพลงคงไม่ได้ทำอีก ดังนั้นเรื่องละครก็เป็นปัจจัยที่ผมอยากลองมาตั้งแต่สมัยตอนทำเพลงแล้ว อีกอย่างไม่ใช่ผมคนเดียว ลิฟท์เองก็มารับละครด้วยเช่นกัน ก็ด้วยเหตุผลของเวลานะ ที่ทำให้เราก็เหมือนหมดวาระของเราลงเมื่อถึง ณ จุดๆ หนึ่งของวงการเพลง และในเมื่อเรายังยืนอยู่อีกจุดได้ เราก็ไม่จำเป็นต้องซีเรียสอะไรถูกต้องมั้ย เรื่องปรับตัวจากเพลงมาละครมันก็ไม่ต้องมีอะไรมาก เพราะทุกวันนี้เหมือนเราทำงานประจำของเรานี่เหละ
|
คำถาม |
พูดถึงครอบครัวของลิฟท์เป็นอย่างไรบ้าง
|
ลิฟท์ |
ครอบครัวของผมตอนนี้ก็มีความสุขดีกับทุกอย่าง มีลูกสาวชื่อน้องพราว ตอนนี้ก็อายุได้สองขวบแล้ว กับการเลี้ยงดูเขาก็เป็นเด็กที่เลี้ยงง่าย เพราะจะมีจินตนาการต่างๆ ของเด็กอยู่ในวัยที่เรียนรู้ กับสังคมในปัจจุบันที่มีปัญหาวุ่นวายมากขึ้น ตัวผมเองก็ต้องเป็นพ่อที่ดูแลเและเอาใจใส่กับลูกมากขึ้นบางอย่างเราก็จะปล่อยให้เขาได้เรียนรู้ไปเอง บางอย่างที่มันหนักไปเราก็จะบอกว่าอย่างนั้นไม่ดีอย่างไรจะบอกเขาด้วยเหตุผลตลอด และในอนาคตผมก็ไม่ได้คาดหวังว่าน้องพราวต้องเป็นอย่างนั้นอย่างโน่น สำหรับผมไม่ต้องการ ผมคิดว่าเขาจะโตและเลือกทางเดินของเขาได้เอง
|
|
คำถาม |
นาทีที่ดังสุดๆ เป็นอย่างไร
|
ลิฟท์ |
ผมว่ามันก็ไม่ได้พิเศษอะไรหรอกนะ เพราะว่าในสมัยนั้น ศิลปินมีน้อยด้วย มันต่างจากสมัยนี้มาก พูดถึงความดังในตอนนั้นแฟนคลับในยุคนั้นอยากที่บอกวงการมีตัวเลือกน้อย และพวกเราก็อายุ 20 ต้นๆ ก็เป็นจุดเปลี่ยนอย่างหนึ่งที่ว่ามันเกิดจุดเปลี่ยนในชีวิตจากเป็นคนที่ไม่มีใครรู้จักก็กลายเป็นคนมีหน้ามีตาในสังคม เดินไปไหนก็มีแต่คนรู้จักเราสิ่งนั้นนี่แหละคือจุดที่คิดว่านี่แหละความดัง
|
ออย |
ในช่วงที่ดังสุดๆ คงจะเป็นเหมือนเวลา เราไปเดินตลาดแล้วมีคนมากรี๊ดกร๊าดอะไรประมาณนั้น แต่ด้วยวัยนั้นชีวิตคนเราก็มีจุดหนึ่งที่เกิดความหลงระเริงบ้างในชื่อเสียง แต่พอมาถึงจุดหนึ่งเมื่อมีสูงสุดก็ต้องมีจุดลดไปตามกาลเวลา
|
คำถาม |
วงการบันเทิงให้อะไรแก่เราบ้าง
|
ลิฟท์ |
ในช่วงเวลาทั้งหมดที่ผ่านมาในวงการที่พวกผมโลดแล่นอยู่นั้น ทุกอย่างผมคิดว่ามันสอนในหลายๆ สิ่งที่เรานำมาใช้ในชีวิตประจำวันของเราได้ เราได้มีแฟนคลับได้ทำงานที่พวกเราทั้งสองคน รักมีคนติดตามผลงานมาตลอด ซึ่งเราโชคดีอย่างที่เรามีโอกาสได้ทำหลายๆ อย่าง และทำให้เราได้รู้ว่าบนโลกความจริงคนเราก็ไม่ได้อยู่บนจุดสูงสุดเสมอไป
|
ออย |
จริงๆ แล้วคนเราก็ได้เรียนรู้ได้เห็นได้อะไรหลายอย่างมีการเรียนรู้ สำหรับผมวงการนี้สอนให้ผมรู้จักพูด รู้จักคิด รู้จักการวางตัว และได้บทเรียนจากการได้เล่นละคร ทำให้เรารู้ว่าความจริงบนโลกมายาใบนี้ เราต้องใช้เวลาศึกษามันให้เข้าใจแล้วเราจะอยู่ในวงการนี้ได้ตราบนานเท่านาน
|
|
|
|
* ดูประวัติ
ลิฟท์ - สุพจน์ จันทร์เจริญ
* ดูอัลบั้ม ลิฟท์ - สุพจน์ จันทร์เจริญ
* ดูประวัติ ออย - ธนา สุทธิกมล
* ดูอัลบั้ม ออย - ธนา สุทธิกมล