คำถาม |
ชีวิตในการทำงานกว่า 24 ปีกับวงการบันเทิงนี้ได้ให้อะไรไปบ้าง
|
เต๋า |
ให้ทุกอย่างกับผมเรียกได้ว่ามหาศาล คือเราได้เติบโตมากับวงการนี้ได้ทำอะไรหลายๆ อย่าง ผมคิดว่าตัวเองโชคดีมากๆ ที่ได้มายืนอยู่ตรงจุดนี้ ได้ออกเทป อย่างเพลง บอดี้การ์ด ตอนนี้ก็ผ่านมา 20 ปีแล้ว ต้องบอกเลยว่าเพลงนี้ มันคือที่สุด ทุกวันนี้เวลากลับไปเล่นคอนเสิร์ต ก็ยังคงมีคนขอเพลงเก่าๆ ของผมอยู่อย่าง บอดี้การ์ด สมชายจรดปลายเท้า ซึ่งแฟนเพลงก็ยังคงจดจำได้อยู่ไม่เคยลืม
|
คำถาม |
อดีตที่ผ่านมามีเรื่องราวมากมายที่ไม่สู้จะดีนัก เราก้าวผ่านความทุกข์เหล่านั้นมาได้อย่างไร
|
เต๋า |
เราต้องอยู่กับมันให้เต็มที่ ยอมรับสิ่งเหล่านั้นให้ได้ ตอนที่ยังไม่มีครอบครัว ตัวเราเองนี่แหละ คือสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจตัวเองได้มากที่สุด เมื่อมันมีความทุกข์เข้ามา เราเองก็ต้องฉุดตัวเองขึ้นมาจากความทุกข์เหล่านั้นด้วยคำว่า ช่างมัน ไม่เป็นไร ยอมรับกับมันให้ได้ ผมไปพบจิตแพทย์เวลาที่ผมเครียดๆ ก็จะได้แง่คิดหรือวิธีปฏิบัติตัวมาใช้กับชีวิตเรา เพื่อไม่ให้ทุกข์ไปกว่านี้ วันหนึ่งเรามีครอบครัวมีลูกน้องสุขใจ (ด.ช.พลภัทร เข็มกลัด) กับน้องสมใจ (สรรกมล เข็มกลัด) มาเติมเต็มชีวิตผมให้มีความสุขก็เท่านั้น
|
คำถาม
|
กับชีวิตครอบครัวที่เป็นอยู่ตอนนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง
|
เต๋า
|
ทุกอย่างเป็นความใฝ่ฝันของลูกผู้ชายคนหนึ่งนะ ผมบอกภรรยาของผมว่า วันหนึ่งผมอยากไปส่งลูกไปโรงเรียน แล้วความฝันนั้นก็เป็นจริงแล้ว ผมเป็นคนไปส่งน้องสมใจไปโรงเรียน ผมมีความสุขมากๆ มันเป็นความอิ่มอกอิ่มใจเวลาที่มองลูกทำกิจกรรมกับครูบ้าง เพื่อนๆ ของเขาบ้าง มันเป็นความสุขแบบที่เราไม่เคยได้สัมผัส พอกลับมาบ้านก็ถามเขาว่าเป็นอย่างไรบ้าง มีงอแงไหม ผมก็ถามครูว่าลูกผมเป็นยังไง ครูก็บอกว่าเขาร้องแค่นิดเดียว แต่มีหลายคนบอกว่าลูกผมยังเล็กไป แต่ผมคิดว่า อยากให้เขาได้ลองทำก่อนให้เขาได้เรียนรู้ในสิ่งต่างๆ ให้เขาได้เผชิญไปก่อน นั่นแหละเป็นความสุขของคนเป็นพ่อแม่ที่ได้เห็นพัฒนาการของลูกตัวเอง
|