เปิดตัว 'เบสท์' สาวที่พิชิตหัวใจ 'พีช'

กระแสซิงเกิ้ลเพลง "ยังโสด" และ "ไม่ได้ยิน" เป็นยังไงบ้าง

กระแสตอบรับดีมาก อย่างเพลง “ยังโสด” ล่าสุดที่ดูยูทูบ “ยังโสด” ก็มีคนดูประมาณ 7 ล้านคนแล้ว เพลง “ไม่ได้ยิน” ก็มีคนฟัง 3 ล้านคนแล้ว วง “โอลีฟ” ก็เป็นหน้าใหม่ เพิ่งจะออกมาได้ไม่นาน และบ้านเราก็มีเกิร์ลกรุ๊ปหลายวง ก็ดีใจที่ทุกคนชอบ เป็นอะไรที่เกินคาดมาก ไปที่ไหนคนก็รู้จักเพลงของเรา โอเคถึงคนจะไม่รู้จักหน้าพวกเรา จำหน้าพวกเราไม่ได้ แต่เราก็ยังดีใจที่เพลงนี้ติดหูทุกคน อย่างเวลาขึ้นรถไฟฟ้า มีคนเอาเพลงเราไปใช้เป็นริงโทนก็ปลื้มมาก

ก่อนหน้าจะทำงานเพลงทำงานด้านไหนมา

เมื่อก่อน “ไฮ ไฟว์” จะดังมาก ก็มีคนเอารูปเบสท์กับฝาแฝด บุ๊ค ไปลงเยอะ ก็มีคนติดต่อให้ถ่ายนิตยสารและแคสต์โฆษณาตั้งแต่เรียนมัธยมปีที่ 2  เมื่อก่อนเบสท์เป็นคนขี้อายมาก แค่แคสต์หน้ากล้องพูดคำว่า “สวัสดีค่ะ” ก็อายและเขินเลย ก่อนจะมาทำเพลงก็แคสต์มาเป็นร้อยครั้งแล้ว โฆษณามา 10 กว่าตัวได้ ก็ทำให้เรากล้ามากขึ้น หลังจากนั้นก็มาเป็นพิธีกรรายการ “แบง รูม” ของ แบง แชแนล ค่อย ๆ ไต่เต้าหลังจากที่มาแคสต์เป็นพิธีกร  ทีมงานก็เรียกมาออดิชั่น ระหว่างนั้นก็ฝึกร้องเพลงและเต้นไปพลาง ๆ ยังไม่ได้รวมตัวกันเป็นวงเลย

เสียงเบสท์ก็ออกจะห้าว ๆ งงมั้ยทำไมได้ร้องเพลง

(หัวเราะ) เบสท์ก็งง แต่เราก็ชอบร้องเพลง แต่ไม่ได้ขนาดเป็นมืออาชีพ พอได้มาร้องเพลงก็คิดว่าเป็นโอกาสที่ดี เราก็อยากจะลองทำอะไรหลาย ๆ อย่าง

เคยคิดมั้ยว่าจะกลายเป็นนักร้องวัยรุ่นที่กำลังมาแรงในตอนนี้

ไม่เคยคิดเลย ตอนที่มาทำงานตรงนี้ก็เหมือนเป็นงานอดิเรกมากกว่า  คิดว่าเป็นอะไรที่เรามีโอกาสมากกว่าคนอื่น ได้ทำงานก่อนคนอื่น ทำให้เราโตกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน เพราะเราต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น ยิ่งเราเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ต้องบริหารงานและเวลาเรียนให้ดี

ตอนนี้เรียนอยู่ที่ไหน

เรียนคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ภาคอินเตอร์ ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพิ่งเข้าปี 1 เลย การเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยค่อนข้างหนักมาก ต้องเรียนเป็นภาษาอังกฤษ เรามาจากโรงเรียนไทยเลยต้องปรับตัวเยอะหน่อย และคณะที่เบสท์เรียนเขาตัดคะแนนเฉลี่ย เรียนแบบนี้มันเครียด เหมือนต้องเหยียบหัวคนอื่นขึ้นไป

จัดสรรเวลาเรียนและทำงานอย่างไร

ถ้ามีเวลาว่างนอกเหนือจากเวลาเรียน เบสท์จะเรียนพิเศษเพิ่ม บางทีเราไปเรียนไม่ได้ ก็ต้องหาติวเตอร์เสริม เน้นเรียนเป็นหลัก จะไม่ค่อยโดดเรียน เพราะคุณแม่จะให้ความสำคัญกับการเรียนมาก นอกจากว่างานไหนจำเป็นจริง ๆ ถึงจะยอมหยุดเรียน

ทำไมถึงให้ความสำคัญกับการเรียน

การเรียนเป็นสิ่งสำคัญ อย่างงานในวงการถึงจะเป็นงานที่เราชอบ แต่มันก็ไม่ยั่งยืน ต่อไปก็ต้องมีคลื่นลูกใหม่เข้ามาเรื่อย ๆ คุณแม่จะสอนเสมอให้เราตั้งใจเรียนดีกว่า เพราะยังไงชีวิตเราก็ต้องมีงานประจำเป็นงานหลัก ถ้าเกิดอะไรขึ้นเราก็ยังมีทางเลือกให้กับชีวิตได้ มีทางอื่นให้เรามอง

มีช่วงยุ่ง ๆ จนทำให้เราเหนื่อยหรือท้อบ้างมั้ย

ก็มีช่วงสอบมิดเทอมที่ผ่านมา ค่อนข้างเครียดมาก เพราะคณะที่เบสท์เรียนค่อนข้างจะแข่งขันสูง แล้วช่วงก่อนหน้านี้มีงานตี 2 แล้วต้องกลับไปสอบตอน 9 โมงเช้าก็ท้อนะ เคยคิดว่าขณะที่คนอื่นอ่านหนังสือกัน เรามานั่งทำอะไร ทำไมเราไม่ได้อ่านหนังสือ แต่ในทางกลับกัน เราก็ได้อะไรในสิ่งที่คนอื่นไม่ได้ มันก็มีข้อดีกันคนละอย่าง ชีวิตเราก็มีอะไรดี ๆ หลายอย่างที่คนอื่นอยากมีเหมือนเราแต่เขาไม่มีโอกาส จะไม่มองในแง่ร้าย ทำให้ตัวเองแฮปปี้ แล้วสู้ให้ถึงที่สุดดีกว่า

งานเพลงล่ะ เบสท์พูดว่าถึงเพลงจะดัง แต่บางทีคนก็ไม่รู้จักเบสท์ แต่พอเริ่มเป็นข่าวกับพีชคนก็เริ่มรู้จักเบสท์มากขึ้น เบสท์รู้สึกยังไงที่คนรู้จักเราในแง่ของข่าวมากกว่า

เบสท์จะมองในแง่ดี อย่างน้อยคนก็รู้จักเรา ไม่คิดให้ตัวเองเครียด บางทีกระแสอินเทอร์เน็ตต่อว่าเราแรง ๆ เราก็เลือกที่จะไม่อ่าน ปล่อยเขาไป คนเราก็คิดต่างกันได้ มันอยู่ที่ตัวเราเองมากกว่าว่าจะคิดให้ตัวเรามีความสุขหรือจะกดดันตัวเอง

กับพีชไปรู้จักกันได้ยังไง

เรียนที่จุฬาฯด้วยกัน รู้จักกันตอน “ซี ยู เฟิร์ส เดท” เป็นวันที่เด็กนิสิตใหม่ทุกคนต้องมาเจอกัน เด็กปี 1 ต้องไปทานข้าวกัน พีชก็ไปด้วย เราเลยเจอกัน ตอนนั้นเขาเป็นพีช ซัคซี้ด เราก็เป็นเบสท์ วง “โอลีฟ” แล้ว จริง ๆ เบสท์ไม่รู้จักใครเลยในคณะ ก็จะอยู่กับเพื่อนสนิทเราอีกคน บังเอิญว่ามีคนมาชวนให้ไปทานข้าวกับคณะ ก็เจอพีชที่นั่น แล้วเพื่อนของเบสท์ก็รู้จักเพื่อนของเขา ก็ทักทายกันปกติ

พอรู้จักเขาเป็นคนอย่างไร

คนภายนอกอาจจะมองว่าเขาต้องเป็นลูกไฮโซโดนตามใจ แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย เขาคิดเป็น ไม่ใช่คนฟุ่มเฟือย เป็นคนอารมณ์ดี แต่ที่ทำให้เราสนิทกันมากกว่าคนอื่นเป็นเพราะต่างคนต่างทำงานในวงการเหมือน กัน เราเลยเข้าใจกัน มีอะไรก็จะช่วย ๆ กันตลอด  

แต่เบสท์กับพีชก็มีภาพหลุดกุ๊กกิ๊กออกมา คนนอกเลยอาจจะมองว่าเป็นแฟนกันหรือเปล่า

โอเค เราสนิทกันมาก เจอกันเกือบทุกวัน แต่เพื่อนคนอื่นก็เจอกันทุกวัน เวลามีอะไรก็จะนึกถึง เพื่อนคนอื่นก็ให้กำลังใจเขานะ อย่างตอนที่เขาไปถ่ายหนัง “ท็อป ซีเครท” เพื่อนก็จะเก็บเลกเชอร์ไว้ให้

แต่หลายคนมองว่าคู่เราปากแข็ง

การที่เราจะสนิทกันก็ไม่จำเป็นต้องเป็นแฟน ไม่จำเป็นต้องมีคำพูดระบุว่าเราเป็นอะไร ถ้าเราอยู่แบบนี้แล้วโอเคมันก็ดีแล้ว เบสท์ไม่ต้องการแบบว่าเป็นเจ้าของใคร เบสท์ว่าการที่คนเราจะทะเลาะกันอย่างแรกเลยคือ คนคิดว่าเขาเป็นเจ้าของกัน เราคิดว่าเขาเป็นของเรา ทำให้เกิดปัญหา ถ้าเราไม่คิดว่าเขาเป็นของเรา มันจะยังมีความเกรงใจกันอยู่ ตรงนี้เลยทำให้เราอยู่ด้วยกันได้

เบสท์ก็ไม่น้อยใจที่พีชไม่พูดว่าเบสท์เป็นแฟน

ไม่น้อยใจเลย เบสท์ว่าก็ดีแล้วที่เราเป็นอย่างนี้ เราเพิ่งจะอายุ 18 เอง ต้องเจออะไรอีกเยอะ ตอนนี้ทั้งเรียนทั้งทำงาน โฟกัสเรื่องอื่นดีกว่า อย่าให้เรื่องนี้มาทำให้เราหนักใจเลย

แสดงว่าถ้ามีสาวไหนมาตอแยพีช เบสท์ก็ไม่หวง

ไม่นะ ทุกวันนี้ไปไหนมาไหนก็มีคนขอถ่ายรูป เบสท์ว่าพีชเป็นขวัญใจวัยรุ่นนะ ไม่หวงเลย เขามีคนชอบก็ดีใจ ถ้ามีคนเกลียดเบสท์คงเครียดมากกว่า

ตอนนี้เบสท์อยู่ในฐานะสาวคนสนิทของหนุ่มฮอตอีกคนของเมืองไทย รู้สึกยังไงบ้าง

ไม่รู้นะ เบสท์รู้จักกับพีช โดยที่ไม่ได้มองว่าเขาเป็นใคร เรารู้จักเขาในฐานะเพื่อนกัน เรามองแค่ว่าเขาเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่นิสัยดี เข้ากับเราได้

เบสท์ก็มีข่าวกับพีชตลอด ทำให้หนุ่มอื่นหายหมดมั้ย

ไม่ค่อยมีใครเข้าหาเบสท์อยู่แล้ว เบสท์ว่าผู้ชายคงมองว่าเบสท์สูงไป คนตัวเตี้ย ๆ คงจะไม่กล้าเข้ามายุ่ง ถามว่าถ้ามีคนอื่นเข้ามาคุยเบสท์จะเปิดใจมั้ย เบสท์ไม่สนใจเรื่องนี้ มีหลายอย่างให้เราคิด หน้าที่หลักของเราคือต้องตั้งใจเรียนและทำงาน แค่นี้ก็มีอะไรให้เราคิดเยอะแล้ว

พูดแบบนี้แสดงว่าไม่เปิดโอกาสให้หนุ่มอื่นล่ะซิ

(หัวเราะ) ไม่ใช่ไม่เปิดโอกาส ก็โอเคถ้าใครจะมาก็คุยด้วยได้ แต่คงไม่เอามาเป็นเรื่องหลักของชีวิต

นิยามความสัมพันธ์กับพีชคืออะไร

พีชเป็นเพื่อนผู้ชายที่สนิทที่สุดในตอนนี้ ไลฟ์สไตล์เราคล้ายกันทำให้เราคุยกันรู้เรื่อง พีชจะเป็นคนชอบฟังเพลงเหมือนเบสท์ เราจะชอบแต่งตัวแนววินเทจเหมือนกัน

สเปกผู้ชายของเบสท์เป็นอย่างไร

ก็ไม่ได้ตายตัว แต่ขอแค่เขารักเราและให้ความสำคัญกับเราก็พอ เบสท์ชอบผู้ชายเทคแคร์ดี ถ้าจะไม่สนใจหรือคบไปงั้น ๆ ไม่ได้เด็ดขาด เพราะเบสท์ เป็นคนเซ้นซิทีฟ ถามว่าพีชดูแลดีมั้ย ก็ไม่ต้องดูแลมั้ง ไม่รู้จะดูแลอะไร แต่เขาเป็นคนเหมือนเบสท์ ใส่ใจในรายละเอียด ทำอะไรจะคิดก่อน เลยทำให้ไม่เกิดเรื่องทะเลาะกัน