เปิดหัวใจสีชมพู " ป้อง - ณวัฒน์ "

ละครเรื่อง "ในรอยรัก" เล่นกับ "อั้ม" พัชราภา ไชยเชื้อ เป็นเรื่องแรก

ดีนะ อั้มเขาเป็นคนเก่งอยู่แล้ว เวลาเล่นก็เข้าขากัน เขาเป็นคนสนุกสนานร่าเริง และเป็นกันเองมาก ตอนนี้กำลังเร่งถ่ายละคร ถามว่าถ่ายไปออนแอร์ไปหรือเปล่า คงไม่ได้ถ่ายไปออนแอร์ไปซะทีเดียวหรอก ยังดีที่ละครมีถ่ายเก็บไว้พอสมควร ตอนนี้ละครจะมีเพิ่มตอนด้วย กระแสตอบรับ ถือว่าดีนะ แต่เรื่องนี้เป็นละครรักซับซ้อน อาจจะต้องปูเรื่องให้คนดูชอบก่อน และเนื้อเรื่องก็จะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ตามสเต็ปมากกว่า

ในเรื่องมีฉากกุ๊กกิ๊กเยอะเหมือนกัน

มีอยู่แล้วเป็นธรรมดา อย่างฉากจูบในเรื่องน่าจะมีประมาณ ครั้งหรือสองครั้งเอง เราเล่นไปตามบทที่เขียนมา และละครไทย คงไม่มีอะไรมากมาย เวลาเข้าฉากกุ๊กกิ๊ก อั้มจะช่วยส่งอารมณ์มาให้ผมเยอะเหมือนกัน ส่วนฉากจูบจริงคือ ผกก.บอกว่าจำเป็น เพราะเป็นตอนที่พระเอกกับนางเอกเปิดใจให้กันครั้งแรก ถ้าผู้ชมดูแล้วอินกับฉากที่ผมจูบนางเอก ก็รู้สึกดีใจ คนดูอาจจะเขินตามเวลาดูละคร แสดงว่าเราเล่นได้ดี เพราะเวลาเล่นละครกับอั้ม เขาเป็นคนที่สื่ออารมณ์ทางสายตาได้ดี เราก็พยายามเล่นรับส่งบทให้อารมณ์ต่อเนื่อง ถามว่าเขินมั้ย มีเขินอยู่แล้ว ไม่ใช่เฉพาะกับอั้มหรอก ผมเล่นกับใครก็เขิน เพราะมาเล่นต่อหน้ากล้อง ให้คนอื่นดูก็ต้องมีเขินบ้างเป็นธรรมดา

ตอนนี้กระแสของป้องในจีนแรงมาก

แรงมั้ยเหรอ..ผมว่าเหมือนเดิมนะ เพราะละครที่จีนจะฉายเป็นระบบรีรัน (ฉายซ้ำ) อย่างตอนนี้ละครของผมยังฉายอยู่เลย คิดว่าแฟนๆ น่าจะชอบกัน ต่อไปละครเรื่อง “ค่าของคน” กำลังจะออนแอร์ที่จีน คิดว่าคงเร็วๆ นี้แหละ ความจริงกระแสในจีนดาราไทยหลายๆ คน ก็มีแฟนคลับ และมีกระแสเป็นของตัวเอง ไม่ใช่ผมแค่คนเดียวที่กระแสดี เรียกว่าช่วยๆ กันโปรโมท เอาของไทยไปโชว์ให้เขาดูบ้าง ว่าเราก็ทำได้ และมีอะไรดีๆ เยอะเหมือนกัน

ชื่อของป้องเหมือนสินค้าส่งออก ที่ตีตลาดในจีนได้สำเร็จ

เรียกว่าผมเป็นรุ่นบุกเบิก ที่ทำให้คนต่างชาติ ได้เห็นฝีมือของคนไทยจะดีกว่า อย่างที่บอกไม่ได้มีแค่ผมคนเดียวที่ทำได้ อย่างบี้ (สุกฤษฏิ์ วิเศษแก้ว) กระแสเขาก็แรงมากในจีน ทุกวันนี้เหมือนเราช่วยกันทำ ช่วยกันบุกเบิกสร้างฐานแฟนๆ ให้แน่น เพื่อให้รุ่นต่อไปในอนาคต สามารถเดินได้ง่ายขึ้น ช่วยให้คนไทยได้ไปต่อกันเยอะๆ ผมคิดว่าน่าจะดี

มองกระแสของตัวเองในจีนอย่างไร

เท่าที่ผมได้ลองคุยกันกับหลายๆ คน คิดว่าตอนนี้ โอเคในระดับหนึ่ง เพราะถ้าเทียบกับบันเทิงเกาหลี เรายังไม่ไปถึงขนาดนั้น คงต้องพยายามกันต่อไป ที่สำคัญต้องมีหลายๆ ฝ่ายช่วยกัน ค่อยๆทำไปเรื่อยๆ เหมือนเป็นการเปิดตลาดใหม่ของวงการบันเทิงบ้านเรา ซึ่งผมโชคดีมาก ที่กระแสตอบรับจากจีน ถือว่าดีทีเดียว โปรเจกท์ละครที่จีนซื้อไปก่อนหน้านี้ ก็มีเรื่อง "ค่าของคน" ส่วนของช่อง 7 เรื่อง "ในรอยรัก" จีนก็ซื้อไปแล้วตั้งแต่ยังไม่ออนแอร์ และคิดว่า “ดอกโศก” ของเอ็กแซ็กท์ เขาก็น่าจะติดต่อซื้อไปเหมือนกัน ความจริงละครของผม ไม่ได้เป็นโลโก้ของคนไทยหรอก อาจจะเป็นเพราะคนจีนค่อนข้างรู้จัก ทำให้ง่ายในการบุกเบิก หรือการซื้อขายเท่านั้นเอง

มีโปรเจกท์อะไรที่ต้องทำร่วมกับจีน

ตอนนี้ผมได้เล่นเอ็มวีเพลง "ร้องไห้ทำไม" ของพี่เบิร์ด (ธงไชย แมคอินไตย์) ที่ร้องเป็นเวอร์ชั่นภาษาจีน เนื้อเรื่องในเอ็มวี พี่เบิร์ดจะเป็นพระเอก ส่วนผมไม่เชิงเป็นตัวร้ายนะ เราเล่นเป็นแฟนนางเอก (ซอนย่า ซุย) มาก่อน ระหว่างที่คบกัน เรามีปัญหาทะเลาะกันรุนแรง สุดท้ายนางเอกต้องหลบมาพักใจที่เมืองไทย ทำให้มาเจอกับพี่เบิร์ด เรื่องสถานที่ถ่ายทำในเอ็มวี จะเป็นการโปรโมทการท่องเที่ยวของไทยด้วย เพราะไปถ่ายทำในสถานที่สวยๆ หลายแห่ง ทั้ง เพลินวาน ในหัวหิน เขาวัง ที่สำคัญเอ็มวีตัวนี้ จะออนแอร์ที่จีนชัวร์ และมีแผนโปรโมททั่วเอเชีย ตอนนี้เหมือนเราทุกคน ช่วยกันไปสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศมากกว่า

โปรเจกท์หนังหรือละครที่จีน

หนังหรือละครมีคุยๆ กันบ้างกับทางจีน แต่ยังไม่ได้เป็นเรื่องเป็นราว ยังไม่มีการตกลงในเรื่องรายละเอียด เดี๋ยวเป็นรูปเป็นร่างเมื่อไหร่ ค่อยว่ากันอีกที อย่างเรื่องการจะถ่ายหนัง จะต้องคุยกันเยอะมาก เพราะถ้าจะเล่นจริงๆ ผมต้องเตรียมตัวบินไปแคสติ้งนักแสดง ต้องทำทุกอย่าง ให้ถูกต้องตามขั้นตอน แต่ตอนนี้ผมยังไม่มีเวลาไปเลย รวมทั้งต้องดูในเรื่องของบท ว่าเหมาะสมกับเรามั้ย ละครก็ยังไม่มีอะไรแน่นอน แต่คิดว่าจะมีโอกาสได้ร่วมงานกัน อีกสักพักน่าจะรู้

ช่วงนี้ถือว่าเป็นจุดสูงสุดของป้องไหม

ผมไม่ถือว่าเป็นจุดสูงสุดนะ เพราะผมอยู่ในวงการมา 10 ปี ชีวิตในวงการ เหมือนการทำงานบริษัท ยิ่งอยู่นานเท่าไหร่ ตำแหน่งเราก็ยิ่งสูงขึ้น คนอาจจะมองว่าผมมีชื่อเสียงช้ากว่าคนอื่นหรือเปล่า แต่ผมคิดว่าทุกคนมีช่วงเวลาเป็นของตัวเอง บางคนเข้ามาแล้วดังในชั่วข้ามคืน กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วประเทศ แต่บางคนต้องใช้เวลาค่อยๆ สั่งสมประสบการณ์ไปเรื่อยๆ ผมว่าเรื่องอย่างนี้ต้องอาศัยองค์ประกอบหลายอย่าง ทั้งจังหวะเวลา และโอกาสที่เหมาะสม เรื่องของดวงก็สำคัญ ผมไม่รู้ว่าอนาคตในวงการของผม ต่อไปจะเป็นยังไง ทำวันนี้ให้ดีที่สุดดีกว่า ไม่ต้องคาดหวังอะไรมาก แค่ตั้งใจทำงานให้ดีขึ้นกว่าเดิม ถือว่าโอเคแล้วนะ

แนะนำรุ่นน้องที่จะเข้ามาในวงการ

ผมจะไปแนะนำอะไรได้ (หัวเราะ) เพราะแต่ละคนมีความคิดไม่เหมือนกัน ผมคิดว่าแค่ซื่อสัตย์กับผลงานและการทำงานของเราก็พอแล้ว

เปิดตัวว่าคุยกับ "แก้ว" ประทับใจอะไรในตัวเขา

น้องเขาก็น่ารักดี เราเพิ่งเริ่มคุยกัน อยู่ในช่วงทำความรู้จักกันเท่านั้นเอง ทุกวันนี้เราคุยกันปกติเลย ไม่ได้คาดหวังอะไร ต้องเรียนรู้กันไปอีกเยอะมาก เรื่องหน้าตาคงเป็นแค่จุดเริ่มต้น ที่ทำให้เรารู้สึกสนใจ ที่เหลือจะเป็นเรื่องของนิสัย ซึ่งต้องศึกษากันไปเรื่อยๆ ดูๆ ไปตามเรื่องตามราว เรื่องแบบนี้ผมมองว่าขึ้นอยู่กับจังหวะของชีวิตมากกว่า เหมือนเวลาที่เราเจอใครคนหนึ่ง ไม่ใช่ว่าเห็นแล้ว จะต้องรีบจีบมาเป็นแฟนให้ได้ บางคนเจอกัน 2-3 ครั้งยังไม่รู้สึกอะไรเลยก็มี ผมว่าถ้าเราจะรู้สึกพิเศษกับใคร ต้องลองคุยกัน ถึงจะรู้สึกว่าคนนี้ตลกดี นิสัยน่ารัก น่าจะเป็นเรื่องแบบนั้นมากกว่า ที่ทำให้ผมประทับใจ

คนจับตามองเยอะ เรื่องความสัมพันธ์กับแก้ว

อาจเพราะผมไม่เคยพูดเรื่องอย่างนี้ และผมก็ไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้ในชีวิตมาก่อน เอาจริงๆ พอเป็นข่าว ก็รู้สึกกดดันนิดหนึ่งนะ แต่เข้าใจว่าเป็นเรื่องปกติแหละ ส่วนเรื่องที่คนมองว่าน้องมาเกาะกระแสผมดัง เรื่องนี้ผมเข้าใจธรรมชาติของข่าวในวงการบันเทิง ว่าต้องมีกระแสลักษณะนี้ออกมา แต่ความจริงไม่ใช่เลย น้องไม่ได้มาเกาะกระแสผมแน่นอน เพราะน้องมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว

คนจะมองว่าแก้วเป็นสาวห้าว ป้องเห็นมุมหวานอะไรในตัวแก้ว

ความจริงด้วยภาพลักษณ์ เขาอาจจะดูห้าวๆ แต่เขาไม่ใช่ทอมนะ เท่าที่ดูก็เป็นผู้หญิงปกติเลย แค่เขาเป็นผู้หญิงที่ไว้ผมสั้นเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องอายุที่ห่างกัน คงไม่เกี่ยวหรอก อย่างที่บอกเราเพิ่งเริ่มต้นคุยกัน ตอนนี้ยังบอกอะไรไม่ได้มาก ถามว่าคุยกับคนอายุน้อยกว่า ต้องทำตัวลดอายุตัวเองมั้ย ไม่เกี่ยวนะ เพราะผมเด็กอยู่แล้ว (หัวเราะ)

มีกระแสว่าชอบ"แก้ว"เพราะหน้าเหมือน "นุ๊ก"สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา

เรื่องนี้ไม่เกี่ยวเลย ไม่ได้มีอะไร คือตอนนั้นผมอยู่ ม.ปลาย เรียนโรงเรียน เซนต์คาเบรียล ซึ่งเป็นโรงเรียนชายล้วน ช่วงนั้นนุ๊กเขาออกเทป และกำลังดังมาก ผมก็ชอบผลงานเขา เหมือนคนอื่นๆ ชอบนักร้องปกติทั่วไปเท่านั้นเอง ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นความชอบฝังใจอะไรเลย เรื่องนี้ตลกมาก เอาจริงๆ ยุคนั้นผู้ชายทุกคนคงชอบนุ๊กหมดแหละ เพราะเขาน่ารัก สดใสดี ไม่เกี่ยวว่าเป็นคนที่ผมชอบฝังใจ แล้วต้องหาคนหน้าเหมือนนุ๊กมาคุยหรือคบด้วย ถ้าเป็นอย่างนั้น คงเพ้อเจ้อเกินไปแล้ว (ยิ้ม)

ก่อนหน้านี้ ป้องไม่เปิดเผยเรื่องความรักเท่าไหร่

เรื่องความรัก ผมไม่ได้ไม่เปิดนะ แต่ไม่มีอะไรจริงๆ เพราะผมไม่ได้คบกับใครเป็นพิเศษ และผมไม่ได้มองใครจริงจัง กับกระแสข่าวที่ผ่านมา ผู้หญิงที่มีข่าวกับผม หลายครั้งเป็นข่าวที่ไม่มีมูลเยอะมาก แต่ผมไม่ซีเรียสเลย เพราะพอเวลาผ่านไป คนจะรู้ว่าไม่ใช่เรื่องจริง สุดท้ายข่าวก็เงียบไปเอง แต่กับน้อง อาจเพราะว่าน้องเขาเป็นนักแสดงด้วยมั้ง คนเลยสนใจมากขึ้น ทำให้กลายเป็นกระแสขึ้นมา

คาดหวังถึงเรื่องแต่งงานไหม

ทุกคนต้องคาดหวังเรื่องแต่งงานอยู่แล้ว แต่อนาคตไม่มีไม่มีใครรู้ เพราะเวลาในชีวิตของผม ก็ล่วงเลยมาเรื่อยๆ ที่คิดไว้เล่นๆ ไม่อยากแต่งงานเกินอายุ 40 ผมอยากแต่งงานตอนอายุประมาณ 38 เท่าพี่มอส (ปฏิภาณ ปฐวีกานต์) แต่ไม่รู้จะเป็นไปได้หรือเปล่า ถ้ามีคนที่ใช่ คงจะแต่ง ถามว่าเจ้าสาวจะเป็นน้องแก้วมั้ย อย่างที่บอกเรื่องในอนาคตไม่มีใครรู้ ตอนนี้เราคุยกันธรรมดาไปก่อน แต่ถ้าอนาคตเราไปด้วยกันได้ดี คุยกันรู้เรื่อง มันก็ดีไป แต่ถ้าไม่ใช่ คงไม่ต้องฝืนใจตัวเอง เพราะเราคุยกันจากพื้นฐานความเป็นเพื่อน จะคบกันแบบพี่น้องก็มีความสุขได้ ไม่มีปัญหาอะไรกับเรื่องนี้เลย

ผู้หญิงที่จะมาเป็นแม่ของลูกในอนาคต

โห...เอาง่ายๆ ต้องเป็นคนที่เราชอบ และเขาก็ต้องชอบเรา ยิ่งจะมาเป็นแม่ของลูก เราก็ต้องมองว่าเขาจะดูแลลูกเราได้ดี อันที่จริงไม่ต้องคิดอะไรมากหรอก ผู้หญิงคนนั้นเขาอาจจะเป็นคนตลกๆ ก็ได้ เพราะคนเราคบกันไปจนแก่ พออยู่ด้วยกันนานๆ คงไม่มีอารมณ์มานั่งหวานแหวว สวีทกันตลอดเวลาหรอก พอถึงเวลานั้นจริงๆ น่าจะอยู่ด้วยกันเหมือนเพื่อนมากกว่า ถามว่าหวงความโสดมั้ย ไม่หรอก...แต่เอาจริงๆ รู้สึกหวงนิดหนึ่งแหละ เพราะเราอยู่แบบนี้ สนุกดีมีเพื่อนๆ ไปเฮฮาด้วยกัน

ที่หวงความโสดเพราะไม่มั่นใจว่าจะดูแลใครไปตลอดชีวิตไหม

เรื่องนี้ก็มีส่วน เพราะถ้าคิดจะเลือกใครสักคน ที่เราคิดว่าเขาคือคนที่ “ใช่” และเขาต้องมาใช้ชีวิตอยู่กับเราไปตลอด 30-40 ปี ฉะนั้นเราต้องรับผิดชอบดูแลชีวิตเขาให้ดี ไม่ใช่พอเขาตัดสินใจมาอยู่กับเราปุ๊บ เราจะดูแลเขาดีแค่ช่วงแรก จากนั้นก็ทิ้งขว้าง คงไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง ผมคิดว่า ถ้าเราจะเลือกใครสักคนมาอยู่กับเราไปตลอดชีวิต สิ่งแรกต้องมั่นใจ และแน่ใจจริงๆ ว่าเขาคือคนที่ใช่ จะมานั่งรักๆ เลิกๆ คบกันแป๊บเดียว แล้วมีคนใหม่ ไม่ดีหรอก ที่ผมตอบแบบนี้ ไม่ใช่ว่าผมเป็นเจ้าบ่าวที่กลัวฝน แต่ผมคิดอย่างนี้จริงๆ

เปิดตัวว่ามีสาวคุยด้วยแฟนคลับว่าอย่างไร

เรื่องแฟนคลับ ผมมองว่าเป็นธรรมดา ที่เขาจะต้องรู้สึกตกใจไปกับข่าวบ้าง เพราะเขาไม่เคยเห็นผมมีใคร ส่วนใหญ่จะเป็นแฟนคลับคนจีนที่รู้สึกอินกับข่าวมากหน่อย แต่แฟนคลับคนไทยจะไม่ค่อยตกใจเท่าไหร่ ถามว่าผมรับมือยังไง ผมจะใช้วิธีพูดความจริงไปเลย บอกพวกเขาว่าไม่ต้องคิดอะไรมาก ให้ตั้งสติ เพราะตอนนี้ความสัมพันธ์ยังไม่ได้ไปถึงไหน เราแค่คุยกันปกติยังไม่มีอะไร ส่วนคนที่รับได้ก็มี เขาก็โอเคเลย เข้าใจและมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่ส่วนใหญ่แฟนคลับผมน่ารักอยู่แล้ว

มีคนรู้ใจ ทำให้สาวๆ อกหักหรือเปล่า

โอ๊ย...จะอกหักอะไร ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน ตอนนี้ยังไม่เรียกว่าเป็นความรักเลย เพราะเราเพิ่งรู้จักกัน นี่แค่ขั้นตอนเริ่มแรกของการทำความรู้จัก เราคุยกันในระดับความสัมพันธ์เหมือนพี่น้อง เป็นเพื่อนกันไปก่อน เวลามีอะไรดีๆ แชร์กันได้ พูดคุยกันไปเรื่อยๆ ค่อยๆ พัฒนาไปตามขั้นตอนของมัน เรามีแต่ความจริงใจ ไม่ได้ตั้งใจมาหลอกกัน เท่านั้นเอง อนาคตจะเป็นยังไงค่อยว่ากันอีกที เรื่องแบบนี้ไม่มีใครรู้ และไม่มีใครคาดเดาได้ ว่าวันข้างหน้าผลที่ออกมาจะเป็นอย่างไร