ถาม

ริต้า

“ก็เป็นครั้งแรกที่ต้องมารับบทแฟนตาซีมาก ๆ ริต้าว่าคอมเมดี้มันเป็นอะไรที่เล่นยากกว่าดราม่าอีกนะ เพราะดราม่ามันเป็นอารมณ์ของมนุษย์ที่เราประสบมาแล้ว เราก็จะเข้าใจมันเป็นอย่างดี แต่อารมณ์ที่มันนอกเหนือจากนี้อย่างบทนางฟ้า ที่อยู่ ๆ ต้องมาเสกนู่นนี่นั่น แล้วเราต้องเชื่อว่าเรามีพลังอย่างนั้นจริง ๆ มันก็เป็นอะไรที่นอกเหนือจินตนาการของเราค่ะ เลยต้องแสดงออกมาอีกแบบหนึ่ง ซึ่งริต้ายังไม่เคยเล่นอะไรแบบนี้เลย ติดใจอยากเล่นอีก คือริต้าชอบความแตกต่าง อยากลองอะไรที่มันแปลก ๆ ใหม่ ๆ ริต้ามองว่ามันเป็นสิ่งที่ท้าทาย เพราะเราเป็นนักแสดง เลยไม่อยากถูกจำกัดไว้แค่คำว่า “นางเอก” ค่ะ แต่ถ้าร้ายก็ต้องมีเหตุผลมาก ๆ ไม่ใช่ว่าฉันเกิดมาร้าย ริต้าคงไม่เหมาะที่จะเล่นแบบนั้นและคงไม่เอาเลย แต่ถ้าเป็นคนดีแล้วมันมีอะไรที่ทำให้เราเครียดแค้น ริต้าว่ามันสมเหตุสมผลกว่า”

เดี๋ยวนี้คลื่นลูกใหม่เกิดมาเยอะ แต่ริต้าก็ยังมีงานสม่ำเสมอมีวิธีวางตัวยังไง?

“ริต้าเป็นคนไม่แข่งขันกับใครอยู่แล้ว เราแค่ทำหน้าที่ของเราให้ดีทีสุดตามที่ได้รับมอบหมาย คือแข่งขันกับตัวเอง ฝึกกับตัวเองเท่านั้น ไม่ได้เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใครอะไรยังไง แค่ตั้งใจพัฒนาตัวเองก็เท่านั้นค่ะ”

เรียกว่าไม่มีหวั่นว่าคลื่นลูกใหม่ที่จะเข้ามาแทนที่?

“มันไม่มีทางค่ะ แต่ละคนก็มีเก้าอี้ที่นั่งของตัวเองอยู่แล้ว ไม่มีใครที่จะมาแทนที่ใครได้ นี่คือสิ่งที่ริต้าเชื่อนะ แม้ว่าเราจะอายุมากกว่านี้ก็ตาม ก็ไม่มีใครแทนที่เราได้ เพราะแต่ละคนมีลักษณะของตัวเอง ฉะนั้นริต้าไม่เคยวิตก สิ่งที่ริต้าทำได้ก็คือการพัฒนาฝีมือตลอด เราต้องเรียนรู้ไม่หยุดนิ่ง ยิ่งเราอยู่ที่จุดนี้ เรายิ่งต้องเรียนรู้มากขึ้นอีก  ริต้าไม่เคยทะนงตัวเลยว่าฉันอยู่จุดนี้ ถือว่าฉันเก่งแล้ว เลยหยุดที่จะเรียนรู้ ริต้ายังพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดค่ะ แล้วริต้าเป็นคนชอบเรียนรู้ด้วย มันเป็นนิสัยของริต้าอยู่แล้ว ที่ทำอะไรก็จะตั้งใจมาก”

อยู่วงการนี้มา 15 ปีเป็นอย่างไรบ้าง?

“ริต้าอยู่วงการนี้มา 15 ปีก็จริงนะ แต่ไม่ได้ทำงานในเมืองไทยตลอด ก็มีไปเรียนซัมเมอร์ที่ต่างประเทศบ้าง หายไปทำงานที่เกาหลี ฮ่องกง ญี่ปุ่น บ้าง คือการไปทำงานที่ต่างประเทศเป็นยังไงเราก็รู้หมดแล้ว และนั่นมันก็ทำให้เราเห็นโลกกว้างมาก ได้มีประสบการณ์เยอะขึ้น 15 ปีในวงการบันเทิงของริต้า มันเลยให้อะไรที่เยอะจริง ๆ เพราะวงการนี้แข่งขันกันสูง ความกดดันเยอะ ถ้าไม่เก่งจริง อยู่นานแบบนี้ไม่ได้ และริต้าคิดว่าเราต้องมีความรับผิดชอบด้วย ซึ่งผลประโยชน์ที่เราได้รับกลับมาจากงานตรงนี้ก็เยอะมากเหมือนกันนะ ทั้งการเป็นที่ยอมรับ ความมีชื่อเสียง แต่คนรักก็คู่กับคนเกลียด การชื่นชมก็คู่กับคำวิจารณ์ เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ริต้าก็ทำใจ และพยายามทำให้ทุกวันตัวริต้าเองมีความสุขที่สุด ถามว่าอยู่ในวงการนี้มานาน เคยมีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้เราเสียใจหรือท้อบ้างมั้ย คือมีทุกวันอยู่แล้วค่ะ เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะต้องยอมรับและรับมือกับมัน จริง ๆ อยู่ตรงนี้ไม่ง่ายเลยนะ เพราะมันมีอุปสรรคตามเข้ามาเรื่อย ๆ

แล้วเวลาที่มีข่าวไม่ดีเกิดขึ้นจะรับมือยังไง?

“บางทีที่เขาก็พูดถึงเราในแง่ไม่ดี ดูถูกเรา พูดข่าวที่ไม่เป็นความจริง ก็ทำให้เราเฮิร์ตเหมือนกันนะ แต่ริต้าก็เลือกไม่ให้มันมามีอิทธิพลเหนือเรา พยายามไม่สนใจ ริต้าเชื่อว่า “ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน” ใครจะพูดอะไรเราก็พยายามทำหน้าที่เราให้ดีที่สุด แค่นั้นมันก็ไม่มีใครทำอะไรเราได้ คือเราไม่ได้ทำอย่างนั้น ก็ไม่คิดอะไรมาก ริต้าคิดว่าบางทีการที่เรายิ่งไปดิ้นรนแก้ข่าวมันก็ยิ่งเป็นการสร้างกระแส ให้เขา ซึ่งมันไม่มีประโยชน์เลย แล้วเราก็เหนื่อย สู้เราให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ทุกอย่างจะเริ่มดีเองค่ะ”

“นั่นคือสิ่งที่ ริต้าพยายามพิสูจน์มาตลอดว่าเราไม่ใช่นางเอกนะ เป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่งที่รักในการแสดง และกลายมาเป็นนักแสดง อยากให้เขามองเราเป็นแค่ศิลปินที่ทำงานตรงนี้มากกว่า ไม่อยากให้ติดภาพอะไรเลย ไม่อยากให้ทุกคนมองในสิ่งที่เขาใส่ให้ริต้าว่าเป็นนางเอกสวยหวาน อยากให้มองว่าเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่มีความคิดแบบนี้ รับงานแบบนี้ ใส่ใจตรงนี้ ให้คนมองที่ความคิดของ ริต้าจริง ๆ ค่ะ”

ดูเป็นสาวที่ค่อนข้างมั่นใจในตัวเองนะ ที่บ้านริต้าเลี้ยงดูแบบไหน?

“ค่อนข้างที่จะตามใจแต่มีระเบียบ ให้เราเลือกในสิ่งที่เราอยากทำ เขาจะไม่แบบต้องทำนี่ เรียนนั่นนะ ส่วนเรื่องมีระเบียบคือเราต้องรับผิดชอบชีวิตของตัวเอง อย่างริต้าเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง ตอนแรกที่บ้านก็ไม่แฮปปี้ จริง ๆ มีคนติดต่อริต้าตั้งแต่เด็ก แล้วคุณแม่ก็ไม่ยอม จนอายุ 14 ริต้าก็ขอเองเลย ซึ่งถ้าตอนนั้นเขาไม่ยอม ป่านนี้ริต้าคงไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้วค่ะ และด้วยความที่พ่อแม่ไม่เคยให้ความสำคัญกับเงิน ท่านสอนริต้าว่าเงินไม่ใช่เรื่องสำคัญนะ ไม่ตายลูกก็หาได้ คนเราไม่จำเป็นต้องมีเงินมากมายขนาดนั้น แต่ความสุขสิสำคัญ อย่างริต้าทำงานกลับมาแล้วบอกว่าเหนื่อย ท่านก็บอกว่าแล้วลูกมีความสุขมั้ย ถ้ามีความสุขก็ทำ ถ้าเริ่มไม่มีความสุขก็ไม่ต้องทำ เพราะไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการเติมเต็มความสุขของเรา ถ้าเราเป็นทุกข์ความหมายของการมีชีวิตอยู่ก็ไม่มีเหตุผลแล้ว ครอบครัว ริต้าก็ไม่ชอบให้ริต้าใช้ของแบรนด์เนมด้วย เขาจะมองเหมือนเป็นคนโง่เขลา เพราะมนุษย์มีความหมายของมันข้างใน คือการที่เราเป็นคนดี นั่นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดค่ะ”

แปลว่าริต้าต้องเชื่อในการตัดสินใจเลือกของตัวเองมาก ๆ เลย?

“ใช่ค่ะ เชื่อและศรัทธามาก ไม่ว่าผลกระทบจะออกมาดีหรือไม่ดี เราก็พร้อมจะยอมรับมัน เพราะเราตัดสินใจเลือกแล้ว บางทีมันก็เสี่ยงนะเพราะมันเป็นอะไรที่นอกกรอบ แต่เราเชื่อว่ามันเป็นสิ่งที่ดี ซึ่งถ้าผลมันออกมาไม่ดี เราก็ยอมรับว่ามันพลาด เพราะเราเลือกเอง ไม่มีใครมาบังคับ เกิดมาริต้าก็ตัดสินใจอะไรหลาย ๆ อย่างด้วยความเชื่อของริต้าเอง เราต้องศึกษาเอง พอคิดแบบนี้ชีวิตก็แฮปปี้ค่ะ”

ความรักล่ะตอนนี้กับขันเงิน เนื้อนวล วงไทเทเนี่ยม เป็นผู้ชายที่เราสนิทที่สุดมั้ย?

“ก็เป็นเพื่อนค่ะ โอกาสพัฒนาก็ยังไม่รู้เลย เพราะไม่ได้คาดหวังอะไร ตอนนี้ต้องยอมรับว่าโฟกัสไปแต่ที่งานจริง ๆ ถามว่าเรามีสเปกยังไง ริต้าขอให้เป็นคนดี เป็นสุภาพบุรุษ คุยกันรู้เรื่อง มีความชอบคล้ายกัน มีความคิดที่เป็นไปในทางเดียวกัน และก็ต้องอบอุ่น รักเรา เหมือนนิสัยพื้นฐานทั่วไปที่ผู้หญิงอยากได้ค่ะ ถามว่าขันเงินตรงที่บอกบ้าง มั้ย เขาก็ตรงนะคะ”

แต่ที่ผ่านมาดูเหมือนเราไม่ค่อยพูดถึงเรื่องความรักเท่าไหร่?

“ริต้าไม่อยากให้คนมาโฟกัสที่ตรงนี้ บางคนก็มองว่ามันเป็น กระแส คือริต้าอยากให้คนมาดูเราเรื่องงานมากกว่าค่ะ เพราะเรื่องอื่นริต้าก็ยังไม่แน่ใจ ยังไม่ได้จะไปถึงขั้นไหนเลย ก็เลยยังไม่อยากเปิดเผย จริง ๆ ถ้ามั่นใจแล้วริต้าก็เป็นคนเปิดเผยนะ แต่นี่มันยังไม่ถึงขั้นนั้นค่ะ ซึ่งถ้าริต้ามั่นใจว่าใครเป็นแฟนก็ยินดีบอกให้คนอื่นรับรู้ค่ะ ยอมรับว่าก่อนที่จะคบใครก็เลือกมากเลยค่ะ ริต้าไม่ใช่ผู้หญิงเรื่องมาก แต่แค่อยากรู้ว่าเขาเป็นคนดีหรือเปล่า ถ้าไม่ดีก็ไม่อยากข้องแวะ แม้แต่จะเป็นเพื่อนก็ตามค่ะ”

“อยากได้คนดี แต่งงานมีครอบครัว เหมือนผู้หญิงทั่วไป แต่ริต้าเป็นคนไม่เร่งรีบเรื่องนี้เลย เพราะริต้าอยากจะใช้เวลากับมัน คำว่าแต่งงานก็ไม่ได้หมายความว่าแฮปปี้ เอนดิ้ง หลายคู่แต่งงานกันไป ก็มีปัญหากัน เลิกรากัน สำหรับริต้าถ้ายังไม่พร้อมก็ไม่อยากคบใคร ครอบครัวริต้าเองก็ไม่ถามเรื่องแต่งงานเราเลยนะ ถ้าเราพร้อมเมื่อไหร่เราก็ค่อยจริงจัง แต่ริต้าคิดว่าตอนนี้มันยังไกลตัวมากเลยค่ะ”