ใช่ มันเป็นแบบนั้น ผมไม่อยากเชื่อมากมายนะ แต่ผมมีอีเมล์ที่คุยกับ ผู้กำกับ เขาเป็นคนเปิดรับความคิดมาก และมันเป็นช่วงจังหวะที่หวั่นไหว ได้ง่ายเสมอ เมื่อเรามีบทภาพยนตร์ที่ดีมากรออยู่แล้ว เราเลยต้องก้าวเดิน ไปด้วยความระมัดระวังมาก แต่ก็มีฉากที่เขานุ่มนวลพอ และผู้เขียนก็ ปล่อยให้ผมเปลี่ยนแปลงบทพูดบางประโยคใหม่ มีหลายครั้งที่ผมพูดว่า ‘ปัญหาของคนที่สงสัยและเชื่อว่าพระเจ้าไม่มีอยู่จริงคือ การที่เราพยายาม แสดงให้เห็นว่าสิ่งไหนที่มีอยู่จริง’ หรือประโยคไหนก็ตามแต่ แล้วเขาหัน มาพูดว่า ‘คุณนั่นแหละที่เชื่อว่าไม่มีพระเจ้า’ ....ใช่ ทุกวันผมต้องต่อสู้ดิ้นรนกับความไร้ซึ่งศรัทธาและการไม่เลื่อมใสของผม เพราะนั่นแหละชีวิตผม ผมหมายถึงผมไม่รู้ว่าผมเลื่อมใสสิ่งไหน ไม่รู้ว่าศรัทธาอะไร
ตอนที่ผมเป็นเด็กผมคิดว่าตัวเองรู้อะไรหลายอย่าง ตอนนี้ผมไม่รู้อะไรเลย ผมรู้อะไรๆ น้อยมาก นักปราชญ์ชาวกรีกสอนไว้ว่า เขาเป็นคนที่ฉลาด ที่สุดในโลก แต่พอเขาเดินไปรอบกรุงเอเธนส์ก็พบว่าไม่ใช่ มีคนที่ฉลาด กว่าอีกมากมาย แต่เขาเชื่อว่าหากเปิดรับมากขึ้นเขาจะรู้มากขึ้น ฉะนั้น สำหรับผมแล้วการเข้าไปสวมรอยในร่างปีศาจคือสิ่งที่ผมทำ ผมเปลี่ยน บทพูดประโยคเหล่านี้ แต่ผมพูดว่า ‘ผมไม่รู้ว่าผมเลื่อมใสอะไร’ เพราะผม อยากรักษาให้ทุกอย่างดูกระจ่าง ผมไม่รู้ว่าผมเชื่อในซานตาคลอส หรือพระเจ้า ผมไม่รู้ว่าจะเชื่อเรื่องไร้สาระอะไรดี ผมคิดว่าผมพูดว่า ไม่รู้ว่าผมเชื่อในพระเจ้า, ซานตาคลอสหรือทิงเกอร์เบล และผมไม่รู้ว่า ตัวเองศรัทธาอะไร บางทีรู้สึกเหมือนมีรอยขีดข่วนจากภายใน เหมือนรอยเล็บของพระเจ้า และบางครั้งออกจากด้านมืดเพื่อกลับสู่ แสงสว่างและ ex umbra ad lucem.
|