ถาม |
เห็นว่าตัดชุดเองด้วย ?
|
|
ใช่ค่ะ คือเราไม่ใช่แค่ขึ้นไปพูดๆแล้วจบ แต่เราเป็นเหมือนตัวแทนองค์กร ของเค้าที่จะต้องสื่อสารกับสื่อมวลชนและลูกค้าค่ะ เราก็ต้องเอาชุดไปให้ลูกค้า ดูก่อนว่าโอเคมั้ยด้วยค่ะ
|
ถาม |
ชุดที่ตัดไปงานอีเว้นท์แพงสุดและถูกสุดเท่าไหร่ ?
|
|
ถ้าชุดเป็นหมื่นปุ๊บหนูจะขอสปอนเซอร์ทันที (หัวเราะ) ส่วนมากก็ 3,000 – 5,000 บาท บางงานไม่ได้ตังค์ก็ตัดให้เค้า หนูคิดว่ามันไม่ได้เป็นแค่ธุรกิจ อย่างเดียว หนูอาจจะบ้างานด้วยแหละเลยอยากให้มันออกมาเพอร์เฟ็คค่ะ
|
ถาม |
งานเยอะแบบนี้ มีเวลาส่วนตัวมั้ย ?
|
|
มีค่ะ อาจจะไม่เยอะเท่าคนอื่นเค้า หากมีเวลา ก็จะพักผ่อนอยู่กับบ้าน ได๋ไม่เที่ยวกลางคืน ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นว่างานใคร วันเกิดใคร ก็จะไม่ไปค่ะ เคยถามเพื่อนเหมือนกันว่าพักผ่อนทำไมต้องไปเที่ยวกลางคืน แต่งานอย่าง เราถ้าพักผ่อนจริงๆก็อยากอยู่เงียบๆเฉยๆ เหมือนดีท็อกซ์ เอาเรื่องในสมอง ออกไปไม่ต้องคิดอะไรมากค่ะ
|
ถาม |
วางแผนชีวิตในอนาคตอย่างไร ?
|
|
คนชอบถามหนูว่าเก็บเงินไปทำอะไร ตอนเด็กๆหนูก็จะตอบกับตัวเองว่า เอาไว้เลี้ยงตัวเอง ที่หนูเก็บทุกวันนี้หนูก็ว่าเกินพอแล้วแหละ ทุกวันนี้เราหัน มามองพ่อแม่ แล้ว ล่าสุดแม่ป่วยค่ะ เรามีความรู้สึกว่าโอ้โหถ้าแม่เป็นอะไรไป แล้วเราไม่มีเงินรักษารู้สึกว่าเป็น ลูกที่แย่มาก หรือคุณพ่อคุณแม่มีความ ต้องการเล็กๆน้อยๆ อยากไปเที่ยวทริปนู้นทริปนี้ เราเป็นลูกเราให้ความ ต้องการเค้าไม่ได้ หนูว่าเราไม่มีความรับผิดชอบ หนูเคยถามพ่อว่าทำไมต้อง ส่งเสียเงินให้ลูกเรียนสูงๆ ทำไมไม่เก็บเงินเอง ส่งลูกเรียนนานาชาติ แล้วต่อนอกมันก็ไม่ใช่น้อยๆใช่มั้ยค่ะ หนูคิดว่าถ้าหนูเป็นพ่อแม่คงไม่เสียเงิน ขนาดนี้ ถ้าสมมติเค้าไม่ได้ส่งหนูไปเรียนตอนนั้น ตอนนี้เค้าก็คงจะสบาย กว่านี้ หนูก็เลยมีความรู้สึกว่าเก็บเงินไว้ก่อน ตอนนี้ไม่ใช่เพื่อตัวเราเองแล้ว แต่เพื่อพ่อแม่ แล้วอนาคตจะเป็นยังไงค่อยว่ากันอีกที ตัวเราเองจะหาเมื่อไหร่ ก็ได้ เรายังมีแรงก็หาได้
|