'โฟร์' เปิดตัวเองสู่โลกกว้าง แฮปปี้ชีวิตนักแสดงไร้สังกัด
เป็นอีกหนึ่งก้าวที่ถูกจับตามอง เมื่อสาว โฟร์ - ศกลรัตน์วรอุไร นักร้องดูโอวัยใสวง "โฟร์-มด" ลุกขึ้นมาสลัดคราบจับไมค์สุดแบ๊ว พร้อมพิสูจน์ผลงานชิ้นแรก หลังประกาศตัวเป็นนักแสดงอิสระ กับ คลับฟรายเดย์ เดอะซีรีส์ ตอน "คนขี้เบื่อที่รักเธอ" ซึ่งกำลังจะออนแอร์ทางช่องจีเอ็มเอ็ม 25 อีกไม่กี่วันข้างหน้า "ดาวต่างมุม" เลยถือโอกาสนี้นัดสาวโฟร์มานั่งพูดคุยถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญ และอีกหลากหลายคำถามที่คาใจที่ใครหลาย ๆ คนคงอยากรู้
ที่มา: ดาวต่างมุม เดลินิวส์ / ภาพ: @khunfour (IG)
พูดถึงซีรีส์คลับฟรายเดย์ ตอนคนขี้เบื่อที่รักเธอ?
สำหรับซีรีส์คลับฟรายเดย์ ตอนคนขี้เบื่อที่รักเธอ จะออกอากาศวันที่ 5 มี.ค. นี้แล้วค่ะ ในเรื่องโฟร์รับบทเป็นตัวละครชื่อ "พริก" เป็นผู้หญิงง่าย ๆ เปิดร้านขายเบเกอรี่อยู่ แล้ววันหนึ่งตุลย์ ซึ่งรับบทโดย ฌอห์ณ จินดาโชติ ก็เข้ามาเรียนเวิร์กช็อป แล้วก็มาจีบเราซึ่งเป็นครูสอนทำขนม เรื่องราวกุ๊กกิ๊กเลยเกิดขึ้น จนได้เป็นแฟนกัน แต่ตลอด 5 ปีที่คบกัน กิจกรรมต่าง ๆ ที่เราได้ทำด้วยกันเหมือนเดิมตลอด ทุกปีในวันเกิดของพระเอกเราก็ทำเค้กให้แบบเดิม กินอาหารร้านเดิม นั่งในโรงหนังที่เดิม จนวันนึงผู้ชายมาบอกว่าไม่ไหวแล้ว อยากจะเลิก เบื่อชีวิตประจำแบบนี้ เราก็เลยลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง ทำอะไรใหม่ ๆ แต่กลายเป็นว่าเราก็ฝืน เลยมาคิดว่าเราเป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรก เพราะฉะนั้นเราไม่ผิด เขาเองที่เบื่อ
บทของพริก ใกล้หรือไกลตัวโฟร์มากแค่ไหน?
พริกมีบางมุมที่เหมือนโฟร์นะคะ ถ้าเราเป็นพริกก็คงทำแบบนี้ เพราะเวลาโฟร์มีแฟน หรือมีความรัก เราจะทุ่มเทมาก จะจำทุกรายละเอียดว่าเขาชอบอะไร แล้วก็อาจจะเหมือนกันที่ว่าทุกเช้าต้องโทรฯหรือส่งข้อความมาทักทายกัน ก่อนนอนต้องกู๊ดไนท์ พอหายไปวันหนึ่งเราก็จะรู้สึกว่า อ้าว...ทำไมไม่บอก พอมารับบทพริก เราก็จะรู้สึกว่ามีคนเป็นเหมือนเราด้วย
ร่วมงานกับฌอห์ณ เป็นยังไงบ้าง?
โฟร์รู้จักกับฌอห์ณมาประมาณปีนึง พอรู้ว่าจะได้ร่วมงานด้วยกันก็ดีใจ เพราะฌอห์ณเก่ง แล้วก็กำลังมาแรง เราคิดว่าเขาต้องช่วยเราได้แน่ ๆ ทั้งในเรื่องของการแสดงและกระแสต่าง ๆ แล้วโฟร์กับฌอห์ณมีผู้จัดการคนเดียวกัน ทุกอย่างเลยเป็นเรื่องง่าย ฌอห์ณ จะคอยช่วยต่อบทให้ เพราะโฟร์ห่างหายไปจากการแสดงประมาณ 2 ปีแล้ว ทุกอย่างเลยเหมือนเริ่มใหม่ วันแรก ๆ อาจจะตะกุกตะกัก แต่พอเล่นไปเรื่อย ๆ ก็เริ่มเข้าขากัน เริ่มมีนอกบทบ้าง แกล้งเขาบ้าง ฌอห์ณก็จะบอกเราว่าโฟร์ต้องไม่โหดร้ายกับเราแบบนี้ เน็ตไอดอลที่เรารู้จักไม่ใช่แบบนี้ (หัวเราะ)
ตั้งใจจะเอาดีทางงานละครเลยไหม?
ละครเป็นอีกหนึ่งอย่างที่โฟร์รักมาก ๆ เราเข้าวงการมาเราก็อยากเล่นละครตั้งแต่แรกเลย แต่มีโอกาสได้ร้องเพลงก่อน จริง ๆแล้วก็ยังมีอีกหลายอย่างที่อยากทำ วันก่อนนั่งฟังวิทยุก็รู้สึกว่าเราอยากเป็นดีเจ อยากเป็นพิธีกรบ้าง เวลาเราอยู่กับใครแล้วเราสนุกเราก็อยากทำแบบนั้น จริง ๆ ต้องบอกว่าเราเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่มีมุมตลก เป็นคนหัวไว ปากไวเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยมีใครเห็นโฟร์มุมนั้น เวลาคนคิดถึงโฟร์ก็จะคิดถึงสีชมพู สีพาสเทล แล้วยิ่งเปิดร้านดอกไม้คนก็จะคิดว่าเป็นผู้หญิงมาก แต่จริง ๆ แล้วกำดอกไม้ทีนึงก้านแทบจะหักนะ
หลังจากหมดสัญญากับอาร์เอส คิดจะเซ็นสัญญากับค่ายไหนบ้างหรือยัง?
ตอนนี้ยังไม่คิดจะเซ็นสัญญากับใครเลยค่ะ โฟร์เพิ่งเป็นอิสระได้เดือนนึง ก็รู้สึกดีเหมือนกันนะ งานตรงนี้เราสบายใจที่จะรับก็รับ ตรงนี้ไม่สบายใจ ไม่สะดวกใจที่จะทำ หรือความสามารถเราไม่ถึงก็ไม่รับ เรามีสิทธิตัดสินใจมากขึ้น เราก็รู้ว่าจริง ๆ อยู่ข้างนอกมันโลกกว้างนะ ทุกวันนี้เราดีใจที่ร่วมงานกับทุกคนได้ ได้เจอเพื่อน ๆ ในวงการที่หลากหลาย แต่ก็ต้องมีปรับตัวบ้าง เรารู้ว่าเป็นก้าวใหม่ที่คนเพิ่งเล็ง ยอมรับว่าเกร็ง แต่ก็พยายามทำทุกอย่างให้ออกมาดี และแข็งแรงขึ้นในทุก ๆ เรื่อง เพราะเราเป็นนักแสดงอิสระแล้ว ไม่ได้มีค่ายหรือมีบ้านที่คอยดูแลเรา อย่างเมื่อก่อนโฟร์อาจจะมีมุมดื้อบ้าง งอแงบ้าง แต่เดี๋ยวนี้เราก็บอกกับตัวเองว่าไม่ได้แล้วนะ 1-2 ปีที่ผ่านมา โฟร์โตขึ้น เราเรียนรู้ว่าจะเอาแต่ใจตัวเองและอยากได้ทุกอย่างที่ต้องการไม่ได้ บางอย่างเราไม่ได้อยากทำเลย แต่เราต้องทำเพื่ออนาคตหรืออะไรก็ตาม
แล้วผลงานอื่น ๆ ของโฟร์ตอนนี้มีอะไรบ้าง?
ก็จะมีละคร "รุ่นพี่ ซีเคร็ต เลิฟ" ทางช่องวัน น่าจะได้ดูประมาณ เม.ย. นี้ค่ะ แล้วก็มีละคร กับทางเวิร์คพอยท์อีกเรื่องหนึ่งชื่อ ยุทธการสลัดนอ สักประมาณ เม.ย. - พ.ค. ปีนี้น่าจะได้เปิดกล้อง ส่วนนอกเหนือจากงานในวงการก็มีร้านดอกไม้ มอร์นิ่ง กลอรี่ ที่โฟร์ให้พี่สาวคนโตดูแล ส่วน สเปรย์กันแดด "โฟร์ เฟซ" ฟีดแบ็กก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ คนเริ่มบอกกันปากต่อปาก รวมถึงคนที่ใช้แล้วก็กลับมาใช้อีก ค่อย ๆ เป็นไปในทางทีดี่ เพราะเรื่องธุรกิจเราก็ไม่ได้รีบโต
หลังจากหมดสัญญาก็มีข่าวว่าผิดใจกับอดีตดูโอ มด - ณปภัช ด้วย ถึงขั้นอันฟอลโล่อินสตาแกรม?
โฟร์พูดได้แค่ว่าจริง ๆ แล้วมันไม่มีอะไรเลยค่ะ โฟร์ยังเป็นเหมือนเดิม กับเรื่องนี้โฟร์ก็คิดว่าไม่มีอะไรที่ต้องเคลียร์กัน
การเป็นดารายุคโซเชียลฯ ที่ทุกคนจับตามองตลอดเวลา ลำบากไหม?
โฟร์เป็นคนที่เซฟตัวเองอยู่แล้ว เวลาออกจากบ้าน เราจะคิดแล้วว่าตรงนี้คนเยอะไม่ไปดีกว่า ไม่ทำดีกว่า หลีกได้ก็คือหลีก ส่วนโซเชียลฯ โฟร์โตมากับยุคที่เราถูกเอารูปไปอยู่อินเทอร์เน็ตแล้วคนก็วิพากษ์วิจารณ์กันตั้งแต่เด็ก เพราะฉะนั้นโฟร์เลยจะพยายามไม่ทำอะไรที่มันส่อไปในทางที่เสียหาย เป็นคนค่อนข้างดูแลตัวเอง พวกคอมเมนต์แรง ๆ ก็ไม่ค่อยมี แต่เมื่อก่อนจะมีน้อง ๆ เด็กติ่ง มาเรียกเราว่า "คุณป้าคะ" โฟร์ก็พิมพ์กลับไปถามเลยว่า "ใครป้าเธอ" คือเมื่อก่อนใครพิมพ์อะไรมาปุ๊บก็จะสวนกลับไป เป็นคนอารมณ์ขึ้นง่ายเหมือนกัน แต่มาวันนี้ใจเย็นขึ้น เพราะรู้ว่ามันไม่มีประโยชน์เลย
แสดงว่าเมื่อก่อนใจร้อนกว่านี้?
ใช่ค่ะ โดยเฉพาะเวลาที่เจออะไรที่ไม่ถูกต้อง อะไรที่เป็นการโกหกปุ๊บเราจะทนไม่ได้เลย เพราะเราเป็นคนไม่โกหก ถ้าเขาพูดอะไรมาที่มันไม่เป็นความจริง เราก็จะคิดแล้วว่า เฮ้ย...ทำไมพูดแบบนี้ อย่าให้ฉันพูดความจริงบ้าง แต่สุดท้ายแล้วเราก็คิดว่าช่างมัน อยู่กับตัวเองให้มีความสุข หน้าที่ของตัวเองดีกว่า สมมุติถ้ามีคนไม่เข้าใจเราก็จะคิดว่าไม่เป็นไร แค่ 1-2 คนเองที่ไม่เข้าใจ มีอีกตั้ง 100-200 คน ที่พร้อมจะซับพอร์ทเรา
ถามถึงเรื่องหัวใจของโฟร์บ้าง?
ทิ้งเบอร์ไว้ได้เลยไหมค่ะ (หัวเราะ) ตอนนี้ยังเหมือนเดิมค่ะ ไม่มีอะไรตื่นเต้นหรือหวือหวาเลย โฟร์ว่าส่วนหนึ่งที่ไม่มีใครเข้ามา เป็นเพราะนักข่าวตีประเด็นเรื่อง ธามไท เยอะมาก ใครจะเข้ามาเขาคงเกรงใจ คิดว่าโฟร์มีแฟนแล้ว อีกอย่างโฟร์เป็นคนไม่ชอบเข้าสังคม เป็นคนชอบอยู่บ้าน อยู่กับเพื่อนกลุ่มเดิม ๆ เพราะฉะนั้นการจะเจอใคร ใหม่ ๆ สำหรับโฟร์เป็นเรื่องยากมากจริง ๆ นอกจากจะมาทำงาน ถ้าเจอกันแป๊บ ๆ ก็ปิ๊งกันยากอีก เพราะโฟร์เป็นคนที่ต้องถูกใจเขาก่อนถึงจะอยากคุยด้วย
อย่างพาดหัวข่าวที่ผ่านมาก็จะมีเขียนว่า "โฟร์รับธามไทคือสเปก"?
โฟร์ชอบผู้ชายลุคแบดบอย ชอบผู้ชายหน้าตาดี ซึ่งธามไทเขาเป็นคนหน้าตาดี แล้วโฟร์ก็แมน ๆ กับเขาได้ เขาเป็นเพื่อนที่ดี เป็นน้องที่ดี ไปไหนมาไหนไม่ต้องปิดบัง อยู่ในจุดที่เราสบายใจกันทั้งคู่ แต่เรื่องพัฒนา โฟร์ว่าเปอร์เซ็นต์ยาก เพราะน้องเขาไม่ได้พุ่งร่างเข้ามาจีบเรา คือเรารู้จักกันมา 4 ปีแล้ว เมื่อก่อนไปไหนมาไหนก็จะกอดคอ จะถ่ายรูปด้วยกัน แต่พอมาเป็นประเด็นแบบนี้ เราก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปกอดหรือควงแขนกันแบบเมื่อก่อน เลยทำให้เราเว้นระยะมากขึ้น แต่ก็ยังมีเจอกันบ้าง
มีคนไหนถูกใจคุณแม่บ้างหรือยัง?
คุณแม่ชอบแต่พี่ณัฐ - ณัฐพล จุฬางกูร คนเดียว คุณแม่ชอบบอกว่าพี่ณัฐเป็นผู้ใหญ่ ดูแลโฟร์ได้ โฟร์ก็จะบอกแม่ว่าหนูเชื่อ แต่เรามารู้จักกันในแง่ของคนทำธุรกิจร่วมกัน ไม่ได้จีบกัน หรือคบกัน อีกอย่างพี่ณัฐเขาเป็นผู้ใหญ่และเป็นนักธุรกิจด้วย เราก็ไม่อยากให้มีข่าวแบบนี้มันจะไม่ดี เลยตัดปัญหาที่จะให้ทุกคนเข้าใจว่าเราเป็นพี่น้องกันจริง ๆ
แบบนี้เลยไม่มีใครเข้ามาจีบเลยสิ?
ไม่มีมาสักพักแล้วค่ะ ปีนึงได้แล้ว นาน ๆ ทีจะมีหลุดเข้ามาบ้าง แต่ก็ไม่ได้มีสานสัมพันธ์มากกว่านั้น เพราะถ้าคนไหนโฟร์วางไว้ว่าเป็นเพื่อนก็คือเพื่อน แต่ตอนนี้เราเริ่มออกมาได้เจอคนโน้นคนนี้บ้าง เพิ่งได้เจอสังคมใหม่ ๆ โฟร์ว่าหลังจากนี้ก็น่าจะมีคนคุยบ้าง (ยิ้ม)
มุมมองความรักของโฟร์เปลี่ยนไปเยอะไหม?
เมื่อก่อนเป็นคนที่อยากแต่งงานมากตอนอายุ 25 ปี แต่พอผ่านจุดนั้นมา โฟร์รู้สึกว่าถ้าเราทำงานเก่ง หาเงินได้ด้วยตัวเอง เราไม่จำเป็นต้องมีแฟน หรือมีครอบครัวเลย เราอยู่กับเพื่อน กับที่บ้านของเราก็มีความสุข เราสบายใจแล้ว ทุกวันนี้โฟร์พยายามทำงานให้ได้เยอะที่สุด เก็บเงินให้ได้เยอะที่สุด อยากจะไปเที่ยวไหน อยากได้อะไรก็ซื้อเองหมดเลย ไม่ต้องพึ่งคนอื่น
ทุกวันนี้เรียกว่าโฟร์เป็นเสาหลักของครอบครัวได้ไหม?
หลังจากโฟร์เข้ามาทำงานในวงการได้ 1-2 ปี ตอนนั้นอายุประมาณ 17 ปี โฟร์ก็บอกให้คุณพ่อเลิกทำงาน ส่วนคุณแม่เป็นแม่บ้านอยู่แล้ว จำได้ว่าก็บอกเขาไปว่าหลังจากนี้ถ้าติดขัดเรื่องอะไรโฟร์จะรับผิดชอบเอง ส่วนทุกวันนี้เรื่องอื่น ๆ ในบ้าน ใครจะไปเที่ยวไหน จะทำอะไร โฟร์ดูหนัง อะไรก็แล้วแต่โฟร์ก็ให้ใช้เงินโฟร์หมด เพราะโฟร์เชื่อว่าคนในบ้านทำงานได้เงินมาไม่เยอะเท่าโฟร์แน่ ๆ ฟังดูเหมือนจะหนัก แต่จริง ๆ ชิลมากเลยนะคะ เพราะโฟร์เป็นลูกคนเล็ก พี่ ๆ เขามีงานมีการทำหมดแล้ว ที่จะหนักตอนนี้คือโฟร์เพิ่งซื้อบ้านใหม่ ย่านสุขาภิบาล 5 แต่เราก็ประเมินทุกอย่างและกำลังของเราแล้วว่ายังมีแรงทำไหว
* ดูประวัติ โฟร์ - ศกลรัตน์ วรอุไร
* ดูอัลบั้ม โฟร์ - ศกลรัตน์ วรอุไร
|