'เบลล่า' ปล่อยเวลาพิสูจน์รัก
จัดเป็นนางเอกแถวหน้าของช่อง 3 อีกคน สำหรับสาว เบลล่า - ราณี แคมเปน ที่ล่าสุดกำลังโชว์เสน่ห์น่ารักๆ ในละคร "ภพรัก" ให้แฟน ๆ ได้ชมกัน วันนี้ "ดาวต่างมุม" เลยขอพาแฟน ๆ ไปสัมผัสตัวตนของเธอทั้งในเรื่องการทำงานที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น และเรื่องความรักที่เธอยังขอใช้เวลาในการพิสูจน์หัวใจของพี่คนสนิท อย่างหนุ่ม เวียร์ - ศุกลวัฒน์ คณารส อยู่ด้วย
ที่มา: ดาวต่างมุม เดลินิวส์
ถามถึงบทบาท "น้ำริน" ใน "ภพรัก" หน่อย คาแรกเตอร์เป็นยังไง?
"บทบาทเรื่องนี้มีอะไรให้เล่นค่อนข้างหลากหลายค่ะ เริ่มตั้งแต่ตอนเป็นคน เราก็จะเป็นลูกคุณหนู เหวี่ยง ๆ เอาแต่ใจ ไม่แคร์คนอื่น เหยียดคนโดยไม่รู้ตัว เพราะเราโดนเลี้ยงดูมาแบบนี้ เลยคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้ผิดอะไร จนกระทั่งมาเป็นวิญญาณที่ความจำเสื่อม มันเลยเหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง เวลาเข้าฉากกับหมาก-ปริญ ที่เล่นเป็นพระเอก เราก็จะมีงอแงแบบน่ารัก และมีกวน ๆ ต่อล้อต่อเถียงกับพระเอกด้วย ความยากเรื่องนี้น่าจะอยู่ตรงที่การเล่นเป็นวิญญาณ หยิบจับของไม่ได้ ไม่มีใครมองเห็นเรา ต้องใช้จินตนาการมาก ทำการบ้านค่อนข้างเยอะเหมือนกันค่ะ"
ตัวละครนี้มีความเหมือนหรือต่างจากตัวเบลล่าแค่ไหน?
"มันมีความเหมือนกันในแง่ความขี้เล่น ขี้แกล้งและทันคน ซึ่งตรงนี้เราก็เอามาใช้ในละครเหมือนกัน อย่างเวลาเข้าฉากกับหมากเขาก็ชอบนอกบท พอเราเห็นก็จะต่อบทให้ไหลไป ซึ่งมันเป็นธรรมชาติกว่า และคนดูจะสนุกไปกับเราด้วย ส่วนเรื่องนี้ได้เล่นคู่หมากครั้งแรก ก็ดีเลยค่ะ เวลาเล่นด้วยกันเขามีความเป็นธรรมชาติสูงมาก อารมณ์ดีขี้แกล้ง เป็นการเติมเสน่ห์ให้ตัวละครค่อนข้างเยอะ เล่นด้วยแล้วสนุก เพราะเรารู้สึกว่าเขาเป็นตัวละครนั้นจริง ๆ แต่ด้วยความที่เราสนิทกัน เวลาที่เราเข้าฉากกุ๊กกิ๊กกันก็ไม่ง่ายเลย มันจะรู้สึกขัด ๆ ยังไงบอกไม่ถูก จะขำกันค่ะ"
แต่ช่วงแรกมีแฟนคลับ "จิราณี" แอบหวงเราอยู่เหมือนกัน ทำให้การทำงานยากขึ้นมั้ย?
"จริง ๆ ตอนนี้คู่เบลล่ากับหมากก็มีคนจิ้นมากขึ้นแล้วนะคะ คือแฟนคลับเรามีสโลแกนว่า สนับสนุนทุกผลงานอย่างสร้างสรรค์ เขาชอบและติดตามผลงานเราทุกอย่างอยู่แล้ว และจากแฟนคลับที่เคยดูแต่ละครเรา พอมาดูหมากเล่นก็ชอบหมากด้วย เพราะหมากก็น่ารัก เลยทำให้การทำงานไม่ได้ยากขึ้นเลยค่ะ"
เราแจ้งเกิดจากบทร้ายใน "รอยมาร" แต่สามารถโด่งดังได้ในตำแหน่งของนางเอกรู้สึกยังไง?
"ก็รู้สึกเกินคาดนะคะ ไม่คิดเหมือนกันว่าจะได้รับความไว้วางใจและโอกาสจากช่อง 3 ขนาดนี้ เพราะปัจจุบันนักแสดงก็เยอะมาก ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ที่ให้บทดี ๆ กับเราด้วย ทำให้คนดูได้เห็นเราในบทบาทที่หลากหลาย ถือว่าเป็นโชคดีของเรา จริง ๆ เราเองก็กดดันเหมือนกันในแง่ที่ว่าต้องพัฒนาตัวเองเรื่อย ๆ ไม่ทำให้คนดูรู้สึกว่าเบลล่าเรื่องไหน ๆ ก็เหมือนกัน หรือเบลล่าต้องรับบทแบบนี้เท่านั้น เราต้องเล่นหลากหลายรูปแบบ ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางให้เราได้พัฒนาตัวเองไปด้วยเหมือนกันค่ะ"
ณ วันนี้เบลล่าอยู่วงการมาเกือบ 4 ปีแล้ว คิดว่าได้อะไรจากวงการมากที่สุด?
"ทำให้เป็นผู้ใหญ่เยอะเลยค่ะ บางคนอาจมองว่าวงการมายาคือไม่ดีรึเปล่า แต่สำหรับเราอยู่แล้วรู้สึกสนุกและอบอุ่น มันไม่ได้เป็นสังคมแก่งแย่งชิงดี แต่คนในสังคมนี้แข่งกับตัวเองทั้งนั้น เราแข่งกันพัฒนาตัวเอง ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี และอีกอย่างการได้เล่นละครก็เหมือนการได้เรียนรู้ชีวิตของหลาย ๆ คน ไม่ใช่แค่เพียงคาแรกเตอร์ที่เรารับเท่านั้น แต่รวมถึงบทอื่นที่ร่วมเล่นเรื่องเดียวกับเรา มันทำให้เรารู้สึกเห็นอกเห็นใจคนมากขึ้น เข้าใจคน อย่างตัวละครที่ร้ายเขาก็มีเหตุผล ดังนั้นเราเลยสามารถรับมือกับคนได้หลายรูปแบบ เพราะว่าเราใจกว้างขึ้น ไม่อคติหรือตั้งแง่กับใคร เข้าใจเหตุผลของเขาค่ะ"
รู้สึกว่าชีวิตในวงการไม่มีความเป็นส่วนตัวบ้างมั้ย?
"ก็ไม่ได้ขนาดนั้นนะคะ สำหรับเรายังเดินตลาดทั่วไปได้ แต่คนอาจจะสนใจเรื่องส่วนตัว มีมาถามเรื่องหัวใจ ซึ่งมันก็ต้องคิดซะว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ เพราะก่อนที่เราจะอยู่ในวงการนี้ เราก็เห็นรุ่นพี่อยู่แล้วว่าข่าวมันเป็นสิ่งที่มากับการเป็นดารา เราต้องทำใจ คือเราอยู่ในแสงไฟ ถ้าไม่มีคนสนใจเรา เบลล่าคิดว่าน่ากลัวกว่าค่ะ"
คติในการทำงานคืออะไร?
"ต้องมีวินัย ดูแลตัวเอง ทำการบ้านกับบทที่ได้รับ และซื่อสัตย์กับตัวเองค่ะ อย่างเวลาที่เราเล่นละคร เราต้องรู้สึกถึงตัวละครนั้นก่อนจริง ๆ คนดูถึงจะรู้สึกตามเรา ถามว่า ณ วันนี้เราพอใจฝีมือการแสดงตัวเองรึยัง คือมันยังต้องปรับเรื่อย ๆ เลย เพราะแต่ละตัวละครมันก็มีหลายรูปแบบไม่เหมือนกัน มันต้องค้นหา เหมือนเราต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ในทุก ๆ เรื่อง สำหรับความคาดหวังชีวิตในวงการ อันนี้ก็พูดยากนะคะ แค่คนดูละครแล้วชอบเท่านี้เราก็ดีใจแล้ว เรามองผลงานเป็นชิ้น ๆ ไม่ได้มองว่าตัวเราเองจะไปถึงขั้นไหน เพราะมองแบบนั้นอาจจะกดดันตัวเองเกินไป สำหรับบทนางเอก จริง ๆ เราก็ไม่ได้ยึดติด เรารับได้ทุกบท แล้วแต่ทางผู้ใหญ่เลือกบทให้เลย เราไม่เกี่ยงงาน ถ้าคิวว่างก็รับเล่นหมดค่ะ"
เราก็เป็นอีกคนที่บางครั้งอาจจะมีข่าวที่ไม่ค่อยน่ารัก รับมือยังไง?
"ก็ขอความเห็นใจ (หัวเราะ) เอาจริง ๆ เราก็พยายามทำตัวให้ไม่มีข่าวที่สุดนะ พยายามทำตัวให้ดีเข้าไว้ ไม่ไปอยู่ในสถานที่ที่คนเข้าใจผิด หรือคิดอะไรไปได้ แต่มันต้องเข้าใจเราเหมือนกัน เราก็คือมนุษย์คนนึง เป็นคนธรรมดา บางทีก็มีเรื่องที่เราไม่สามารถจะทำให้ทุกคนพอใจในทุกอย่างที่เราทำได้ เพียงแต่เราก็ไม่ไปทำร้ายใคร และทำให้ดีที่สุดสำหรับตัวเรา แคร์คนที่รักเรา เวลาที่มีข่าวไม่ดีมันก็บั่นทอนกำลังใจเราบ้าง อย่างบางทีมันหลายข่าวติดกัน หรือเป็นข่าวกอสซิปที่ยาวนาน เรารู้สึกว่าทำไมไม่เลิกพูดสักที แต่ก็พยายามไม่เครียด คือเครียดแล้วมันจะมากระทบจิตใจเรา แล้วก็ไปกระทบงานอีกที ดังนั้นเราเลยพยายามปล่อยวาง ไม่เสพข่าวมาก รับรู้ว่ามีข่าวแบบนี้เพื่อรับมือหรือแก้ไข แต่ก็ไม่ได้อ่านเยอะเดี๋ยวนอยด์ ซึ่งสำหรับข่าวช่วงแรกเราก็อ่านทุกอย่างเลยนะ อยากรู้ว่าคนพูดถึงเรายังไง แต่พอมันเกินไป ก็เลยไม่เอาดีกว่า (ยิ้ม) ต้องปรับตัวค่ะ"
มีข่าวไหนที่ทำให้รู้สึกเสียใจที่สุดมั้ย?
"ข่าวมือที่ 3 ค่ะ คือเรื่องมันแรงเกินไปสำหรับเรานะ เพราะเราเองก็ตั้งใจทำงานไปตามบทบาทของเรา เราไม่รู้ว่าด้วยอะไร ยังไง ทำไมต้องโยงเราเข้าไปในปัญหาของคนอื่น เราก็ปฏิเสธแล้วปฏิเสธอีก แต่ก็ยังถาม จนสุดท้ายต้องบอกว่าขอไม่ตอบแล้วละกันในเรื่องนี้ค่ะ เพราะตอบไปหมดแล้วค่ะ"
กำลังใจที่สำคัญของเบลล่าคืออะไร?
"สำคัญอันดับแรกเลยคือครอบครัวค่ะ และเราเองก็ได้รับความไว้วางใจจากคนรอบข้างที่เขาเชื่อใจว่าเราเป็นคนยังไง ก็สบายใจแล้ว กับแฟนคลับและผู้ใหญ่ที่ช่อง 3 ด้วย คือเวลามีข่าวไม่ดีเขาไม่แม้แต่จะถามเลยว่าเป็นยังไง แต่เขาจะให้กำลังใจ มากกว่า บอกว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป เขาเชื่อใจเราว่าไม่มีอะไร เพียงแต่ผู้ใหญ่คงต้องหาสาเหตุว่าอยู่ดี ๆ ทำไมถึงมีข่าวแบบนี้ สำหรับแฟนคลับเองก็คอยให้กำลังใจเราตลอดค่ะ"
ถามถึงเรื่องหัวใจกับเวียร์บ้าง ตอนนี้สถานะคืออะไร?
"ก็ยังคุยกัน เรียกว่าเป็นพี่ชายอยู่ ส่วนที่ยังไม่ขยับสถานะ เพราะว่าเรายังไม่มีเวลาที่ดูกันจริง ๆ ด้วยเรื่องของงานและอะไรอีกหลายอย่าง เลยทำให้เรายังไม่พร้อม อยากปล่อยให้มันเป็นไปแบบนี้เรื่อย ๆ ก่อน อย่างตัวพี่เวียร์เองก็อยู่ในฐานะที่เรียกว่าสร้างเนื้อสร้างตัว เราเองก็งานแน่นอยู่ บางทีถ้าเราจะมาคบกันมันก็อาจจะยังไม่เหมาะค่ะ"
แต่เรากับเวียร์ก็มีข่าวทำนองคุย ๆ เลิก ๆ ออกมาตลอด?
"จริง ๆ เราก็ยังไม่ได้ตอบอะไรทำนองนั้น คือคำว่าห่างของเรามันแปลว่าเราห่างเพราะเราทำงาน ก็ยังบอกอยู่ว่าไม่ใช่แฟน ฉะนั้นรักหรือเลิก มันตอบไม่ได้ คือบางทีเราโดนถามแบบนี้บ่อย ๆ จนแบบรู้สึกว่าโอ๊ย ไม่มีอะไรจะตอบแล้ว (ยิ้ม) เดี๋ยวมีอะไรคืบหน้าจะมาบอกละกัน แต่เราก็เข้าใจว่าเขาก็อยากรู้กันนะ ก็ตอบไปเท่าที่ตอบได้ เรายังยืนยันว่าไม่ได้กั๊กหรือปากแข็ง แต่ด้วยหลายอย่างมันเลยต้องเป็นแบบนี้ไปก่อนจริง ๆ เรายังเด็กอยู่ด้วย คือพี่เวียร์เขาอยู่วงการมานาน แต่สำหรับเราในวงการนี้มันเพิ่งเริ่มต้นในวัยทำงานเองค่ะ เราเริ่มดูแลที่บ้าน มันมีภาระค่อนข้างเยอะ เรื่องความรักเลยขอเป็นเรื่องรอง ปล่อยไปเรื่อย ๆ ดีกว่า"
ด้วยความที่ทั้งคู่เป็นพระเอก-นางเอก แล้วกลัวเรตติ้งตกด้วยรึเปล่า จึงไม่อยากเรียกว่าแฟน?
"ไม่ได้คิดตรงนี้เลยค่ะ หลัก ๆ จะเป็นที่ตัวเรายังไม่พร้อมมากกว่า ถามว่าเราไม่อยากใช้คำว่าแฟนผูกมัดกันรึเปล่า จริง ๆ จะเรียกอย่างนั้นก็ได้ เพราะมันก็อาจจะกดดันทั้งสองฝ่ายโดยไม่รู้ตัว ก็เป็นพี่น้องกันแบบนี้ไปก่อน เราก็ไม่ได้คุยอะไรกับใครหรอกค่ะ (ยิ้ม) ส่วนเปิดใจรับคนอื่นอีกมั้ย มันก็ครึ่ง ๆ นะ เราก็ไม่ได้แบบว่าอยากมีแฟนค่ะ"
จริง ๆ เราชอบผู้ชายแบบไหน?
"ก็ต้องรักครอบครัว รักเพื่อนเรา ดูแลเราได้ คุยภาษาเดียวกัน คุยกันรู้เรื่องเข้าใจกัน อย่างงานที่เราทำมันยากมากที่คนจะเข้าใจว่าทำไมต้องเลิกดึก ทำไมติดต่อไม่ได้ เข้าฉากเลิฟซีนกับพระเอกอีก มันมีหลายอย่างทั้งเรื่องข่าวด้วย คน ๆ นึงจะมามั่นคงกับชีวิตเราได้มันก็ค่อนข้างยาก ค่อนข้างใช้เวลาเหมือนกัน"
เวียร์ใกล้เคียงกับผู้ชายแบบที่เราชอบมั้ย?
"ก็คุยกันได้รู้เรื่องนะคะ (ยิ้ม) ส่วนเรื่องสร้างรากฐานครอบครัวของเขา คือด้วยความที่พี่เขาเริ่มโตและคงที่แล้ว แต่มันก็ยังต้องดูกันไป สำหรับความรักเรื่องเวลาก็ค่อนข้างสำคัญสำหรับเรานะ ถ้าเราคิดจะจริงจังกับใคร หรือคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เราก็อยากให้เป็นสัมพันธ์ที่ยาว ๆ มากกว่า ไม่อยากเปลี่ยนบ่อย ๆ มันดูไม่ดีค่ะ"
สำหรับคนสองคนที่จะทำให้คบกันได้นาน เราคิดว่าอะไรเป็นปัจจัยสำคัญ?
"ก็ต้องเป็นความไว้วางใจค่ะ อันนี้เป็นสิ่งสำคัญเลย คือนอกจากเราทำตัวให้น่าไว้วางใจแล้ว อีกฝ่ายก็ต้องทำให้เราเชื่อใจและมั่นใจด้วย ไม่ใช่เราไว้วางใจอยู่คนเดียว แล้วอีกฝ่ายจะไปทำอะไรก็ได้ มันต้องให้ความเชื่อมั่นกันทั้งสองฝ่ายค่ะ"
มุมมองความรักเบลล่าจากตอนที่เป็นเด็ก จนถึงตอนนี้เปลี่ยนแปลงไปเยอะมั้ย?
"เปลี่ยนมาก ตอนเด็ก ๆ จะเรียกใครว่าแฟนก็เรียกได้ คุยกันแค่เดือนเดียว ก็บอกว่าคนนี้เป็นแฟนฉันแล้ว แต่พอโตมาปุ๊บ คำว่าแฟนมันยากเย็นแสนเข็ญ อย่างเราเป็นดาราไปบอกว่าเราเป็นแฟนคนนี้ มันก็เป็นเรื่องใหญ่ และเราก็มองว่าคนนึงกว่าจะเป็นแฟนกันได้ มันไม่ใช่แค่การคุยโทรศัพท์หากัน บอกกู๊ดไนต์กัน มันไม่ใช่ป๊อปปี้เลิฟแบบเด็ก ๆ แล้ว เราโตแล้วก็มีเรื่องที่เราต้องรับผิดชอบและดูแลค่อนข้างเยอะ ฉะนั้นเรื่องแฟนมันเลยต้องใช้เวลาศึกษาให้มั่นใจก่อน ถึงตัดสินใจค่ะ"
มีความคิดอยากเป็นเจ้าสาวบ้างรึเปล่า?
"ก็มีอยู่แล้วแหละ เราก็เป็นผู้หญิง เราเองก็ไม่ใช่สไตล์สาวทำงานแบบฉันจะไม่แต่งงาน ไม่ได้ถึงขั้นนั้น ก็ยังอยากมีครอบครัว อยากมีลูก อยากมีชีวิตที่ง่าย ๆ และสงบที่ได้อยู่กับครอบครัว ส่วนอีกกี่ปีถึงอยากแต่งงาน อันนี้ตอบยากเหมือนกัน เราต้องค่อย ๆ ดูไป แต่คงยังไม่ใช่เร็ว ๆ นี้ค่ะ ให้แฟน ๆ ฟินในละครไปก่อนละกัน (ยิ้ม)"
ท้ายสุดอยากฝากบอกอะไรแฟนคลับที่คอยให้กำลังใจเราบ้างมั้ย?
"ก็ขอบคุณมาก ๆ ที่อยู่เคียงข้างมาตลอด ทั้งแฟนคลับเดิม และแฟนคลับใหม่ ขอบคุณที่เปิดใจรับเราเข้าไป คือมันก็เหมือนยาชูกำลังอย่างนึง เวลาที่ไปไหนเขาจะคอยเชียร์ หรือแม้กระทั่งเกิดอะไรก็ตามในโซเชียล เขาจะมาคอยให้กำลังใจเราเสมอเลย ก็ขอบคุณที่อยู่ข้างกันมาค่ะ"
* ดูประวัติ เบลล่า - ราณี แคมเปน
* ดูอัลบั้ม เบลล่า - ราณี แคมเปน
|