'พรีม' ชีวิตที่มาไกลเกินฝัน มุทำงานและเรียนเต็มที่
กำลังมาแรงเลยทีเดียว สำหรับ “หญิงอ้าย” จากละคร “สามี” ทางช่อง 3 วันนี้ “ดาวต่างมุม” จึงไม่พลาดที่จะชวนนางเอกสาวลูกครึ่ง พรีม-รณิดา เตชสิทธิ์ มาพูดคุยอัพเดทชีวิตและความรักให้ฟัง งานนี้ขอบอกว่าชีวิตของเธอน่าสนใจเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะทำงานแล้ว ยังมุ่งมั่นเรื่องของการเรียนด้วย นับว่าเป็นตัวอย่างที่ดีให้วัยรุ่นเลยทีเดียว ว่าแล้วอย่ารีรอไปติดตามชีวิตของเธอกันเลยดีกว่า
ที่มา : เดลินิวส์
ฟีดแบ็กละคร “สามี” เป็นอย่างไรบ้าง
"ดีมาก ๆ ค่ะ มีคนติชมเข้ามาบ้าง ช่วงแรกคนอาจจะงงกับเนื้อเรื่อง แต่คนก็เริ่มชอบและสนุกกับละคร การทำงานเรื่องนี้ตอนแรกหนักใจมาก เพราะเราต้องเล่นเป็นผู้ใหญ่ที่เจออะไรมาเยอะ ทั้งปัญหาของครอบครัวและต้องเป็นหลักในการหาเลี้ยงครอบครัว บทคุณหญิงอ้าย จะต้องมีมาดรู้สึกอะไรแสดงออกท่าทางไม่ได้ ต้องแสดงอารมณ์ทางตามากกว่า หนักเหมือนกัน ต้องทำการบ้านหลายอย่างว่าคนเป็นผู้ใหญ่เขาคิดและทำยังไงกัน บทไกลตัวมาก คือหนูอาจจะเป็นโตกว่าเพื่อน แต่ความคิดของหนูก็ยังเป็นเด็กที่อายุ 17 ที่เป็นผู้ใหญ่ ก็ไม่ใช้วิธีการคิดแบบผู้ใหญ่อยู่ดี และเราค่อนข้างกล้าแสดงความคิดเห็นสไตล์ฝรั่ง ก็ต้องปรับตัวค่อนข้างเยอะเหมือนกัน"
เคยถามไหมว่าทำไมผู้จัดละคร พี่นก-จริยา แอนโฟเน่ ถึงเลือกให้มาแสดงบทนี้
"กว่าจะมาเป็นพรีม พี่นกก็คิดอยู่นานเหมือนกัน แต่หนูก็เคยร่วมงานกับพี่นกมาแล้ว 1 ครั้ง พี่นกก็พอจะทราบว่าการแสดงของหนูเป็นอย่างไร เราจะสามารถพัฒนาและเรียนรู้การแสดงได้มากแค่ไหน พี่นกคงเห็นบทบาทของหนูในละคร “สุภาพบุรุษจุฑาเทพ” มาแล้ว พอเห็นบุคลิกพระเอกอย่าง พี่เกรท-วรินทร พี่นกคงคิดว่าน่าจะเข้ากับเราได้ค่ะ แต่กว่าจะมาเล่นบทนี้ต้องเตรียมตัวเยอะ โดยเฉพาะเรื่องพูดภาษาไทย เพราะเรื่องนี้มีฉากปะทะอารมณ์เยอะ และแต่ละคนที่เราต้องเล่นด้วยเก่งทั้งนั้น พี่ไอซ์-อภิษฎา และ พี่จ๊ะจ๋า-พริมรตา หนูตื่นเต้นมาก ต้องฝึกเรื่องพูดให้เสียงดัง แต่ไม่ใช่โวยวาย วิธีการเน้นคำ ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังทำไม่ค่อยได้ ในละครก็จะมีฉากที่ถ่ายทำช่วงแรก ๆ ที่ไม่เข้าที ตอนนี้ต้องฝึกความคิดว่าคิดอย่างไรให้เป็นผู้ใหญ่"
เรื่องนี้มาเจอกับคู่จิ้นอย่าง เกรท-วรินทร ทำงานง่ายขึ้นไหม
"ดีมากเลยค่ะ คือละครก็ว่ายากแล้ว มีฉากปะทะอารมณ์ค่อนข้างเยอะ ถ้าเราต้องเจอกับนักแสดงใหม่ที่ไม่เคยร่วมงานกันมาก่อน อาจทำให้เราเครียดนิดหนึ่ง แต่พอมาเจอพี่เกรทเราจะรับส่งกันได้ดี เหมือนจะรู้ว่าเขาจะเล่นแนวไหน และพี่เกรทจะบอกว่าจะเล่นอย่างไร"
เรื่องนี้มีฉากเลิฟซีนกับพี่เกรทเยอะพอสมควร เป็นอย่างไรบ้าง
"ยากตรงที่เป็นความรักแบบผู้ใหญ่ อย่างเวลาเราเขินเราจะเป็นสไตล์เด็ก ๆ แต่เขินแบบผู้ใหญ่ต้องสไตล์จริงจัง ตอนถ่ายทำเราก็รู้สึกว่าจะจริงจังไปไหน เวลาเข้าฉากเลิฟซีนกับพี่เกรทจะกระโดด ๆ ก่อน พรีมเป็นคนที่ถ้าขยับตัวแล้วจะผ่อนคลาย และทำการบ้านเยอะหน่อย โชคดีที่คุ้นกับพี่เกรททำให้เล่นง่ายขึ้น"
หลายคนมองว่าละครเรื่องนี้ฝีมือของพรีมพัฒนาขึ้น
"ก่อนอื่นต้องขอบคุณผู้ใหญ่ที่ให้โอกาสพรีมได้พัฒนาฝีมือด้วยการเล่นละครเรื่องนี้ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเล่นได้ ขอบคุณแฟนละครที่เปิดใจชมผลงานของพรีม ทุกคำติชมช่วยพรีมได้เยอะมาก ทำให้เราเห็นข้อบกพร่องของตัวเอง คำติเราก็จะเก็บไว้พัฒนาตัวเองต่อไป ถ้าเราไม่ปรับปรุงแล้วใครจะอยากดูผลงานของเรา คำชมเป็นอะไรที่ชื่นใจและเป็นแรงผลักดันให้เรา ถามว่าเรามองว่าฝีมือตัวเองพัฒนาไหม พรีมจะจำได้ว่าฉากไหนถ่ายก่อนหรือหลัง พอเราเห็นฉากที่เล่นช่วงหลัง พรีมรู้สึกว่าเราทำได้ดี เล่นได้เป็นธรรมชาติมากกว่าก่อนหน้านี้ แต่ก็ยังแอบปิดตาข้างหนึ่งดู เพราะเขินตัวเอง มันเหมือนเป็นคนละคนกัน เวลาเห็นตัวเองไม่เป็นตัวเองเลยขำ"
นอกจากนี้มีละครเรื่องอื่นหรือมีผลงานอื่น ๆ อีกไหม
"โชคดีที่ผู้ใหญ่ให้โอกาสพรีมเล่นละครเรื่องต่อไปเลย คือ “สามใบไม่เถา” ทางช่อง 3 เปิดกล้องกลางเดือน ม.ค. ปีหน้า ส่วนงานด้านอื่น ๆ ก็อยากเป็นช่างภาพ เพราะเวลาทำงานแล้วเห็นคนถ่ายภาพ มันเท่ดี นอกจากนี้ก็อยากแสดงหนัง วิธีการแสดงแตกต่างจากละคร เพราะต้องเล่าเรื่องสั้น ๆ แต่ต้องทำให้คนดูเข้าใจ แต่งานเบื้องหลังยังไกลตัวมากเกินไป เรายังเด็กอยู่ ค่อย ๆ เก็บประสบการณ์ไปก่อนดีกว่า"
มองย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีที่แล้วก่อนเข้าวงการ คิดไหมว่าเราจะมาได้ไกลขนาดนี้
"ไม่คิดค่ะ แต่ถามว่าพรีม อยากให้ทุกอย่างไปด้วยดีแบบนี้ไหม ต้องอยากอยู่แล้ว เราทำงานก็อยากให้กระแสของงานออกมาดี พรีมเป็นคนชอบความท้าทายด้วย ถ้างานยากเราก็ยิ่งอยากทำให้ได้ อยู่วงการนี้ต้องมีความพยายามค่ะ แต่ไม่คาดหวังว่าจะมาขนาดนี้มีงานต่อเนื่อง บางทีมองย้อนกลับไปยังรู้สึกเหมือนฝัน เพราะก่อนที่เข้ามาทำงานตรงนี้ พรีมมองว่าวงการนี้เป็นอีกโลกหนึ่งเข้าถึงยาก"
ตอนนี้ช่อง 3 เด็กใหม่เยอะ คิดว่าเรามีจุดเด่นที่แตกต่างจากคนอื่นอย่างไร
"ถึงจะมีคนหน้าใหม่ ๆ เข้ามาเยอะ แต่เชื่อไหมว่ามีคนเด็กกว่าพรีมแค่คนเดียวคือ แพทริเซีย กู๊ด แต่ถึงจะมีนางเอกเยอะ แต่พรีมก็ไม่คิดมาก เพราะช่อง 3 ผลิตละครเยอะ ส่วนจุดเด่นของเรา พรีมไม่เคยคิดนะ แต่น่าจะเป็นความใส ๆ ไม่คิดซับซ้อน เราแค่รอคอยโอกาสและทำงานให้เต็มที่ พยายามพัฒนาตัวเองตลอด"
พรีมอายุ 17 ต้องทำงานและเรียนไปด้วยเป็นอย่างไรบ้าง
"ตอนนี้สอบเทียบจบมัธยมปลายแล้ว กำลังรอสอบแอดมิชชั่นเข้ามหาวิทยาลัย สอบเสร็จไปแล้ว กำลังรอผลอยู่ เลือกนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลักสูตรนานาชาติ แต่ใจจริงตอนแรกอยากเรียนบริหารธุรกิจ แต่พี่เจมส์ มาร์ บอกว่ายาก คิดไปคิดมาเราทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย เราไม่สามารถเรียนได้เต็มที่ พรีมเลยเลือกคณะที่เราสามารถเรียนได้และตรงกับสายงานของเราดีกว่า"
เป็นบางคนอาจจะเน้นทำงานมากกว่าเรียน ทำไมพรีมเลือกที่จะเรียนและทำงานไปด้วย
"ตอนนี้งานก็ค่อนข้างเยอะ แต่ไม่ได้ขนาดที่จะแบ่งเวลาให้การเรียนไม่ได้ เอาให้ถึงขีดสุดไม่ไหวจริง ๆ ค่อยเบรก ขนาดพี่ญาญ่า-อุรัสยา หรือ พี่ณเดชน์ คูกิมิยะ ยังไม่เบรกเลย แล้วเราจะหยุดทำไม พ่อแม่และญาติ ๆ ไม่อยากให้ทิ้งการเรียน พรีมจริงจังกับการเรียนค่ะ จะไม่มานั่งเคร่งอ่านหนังสือตอนจะสอบ แต่จะเน้นทำความเข้าใจในห้องเรียนเลย ตอนเรียนภาคปกติเกรดเฉลี่ยประมาณ 4.00 ค่ะ"
พรีมเองมีพี่ชายที่เป็น “ดาวน์ซินโดรม” เห็นไปไหนพาไปด้วยตลอด
"ใช่ค่ะ เพราะไม่ไว้ใจให้เขาอยู่บ้านคนเดียว แต่ช่วงหลังนี้พี่ชายเริ่มขี้เกียจแล้ว วันไหนที่ต้องตื่นเช้ามากไปเขาก็จะขอนอนอยู่บ้าน บางวันก็ให้เขานอนบ้านญาติที่อยู่ใกล้ ๆ ช่วงเย็นจะไปรับเขากลับบ้าน ค่อนข้างผูกพันกับพี่ชาย แต่ช่วงนี้เหมือนเป็นช่วงวัยรุ่น มีทะเลาะกันบ้าง บางวันเราอยากให้เขาพูดดี ๆ เขาไม่กล้าบอกเราว่าทำจานแตก จะพูดอ้อมไปอ้อมมา เราก็จะให้เขาพูดตรง ๆ เขาก็ไม่ยอมพูดแล้วก็โมโหเรา ก็จะทะเลาะกัน ถามว่าพรีมเหนื่อยไหม ไม่เหนื่อย เพราะพี่ชายไม่ได้เป็นมากขนาดนั้น เขาช่วยตัวเองได้ในระดับหนึ่ง เช่น อาบนํ้า ทำแซนด์วิชทาน"
พรีมต้องเป็นเสาหลักของครอบครัวหรือเปล่า
"ใช่ค่ะ เพราะพรีมยังขับรถไม่เป็น ต้องให้คุณแม่มาช่วยขับรถให้ตลอด และแม่เองก็ต้องดูแลพี่ชายด้วย ตอนนี้เหมือนพรีมเลยต้องเป็นเสาหลักให้ครอบครัว แต่โชคดีที่ทุกอย่างเหมือนสะสมมาเรื่อย ๆ คือ ตอนเด็ก ๆ พรีมจะรับหน้าที่ดูแลพี่ชายเป็นหลัก ไป รร.ด้วยกัน เราซึมซับเรื่องความรับผิดชอบมาตั้งแต่เด็ก แต่เวลามีอะไรเราก็ต้องปรึกษาคุณแม่อยู่ดี"
เป้าหมายในชีวิตคืออะไร
"ถ้าไม่เข้าวงการก็คงจะเปิดธุรกิจระหว่างประเทศ เพราะพรีมชอบเรียนรู้ภาษาใหม่ ๆ แต่พอเข้ามาวงการแล้วเราก็อยากทำงานตรงนี้ให้ดีและมั่งคง เรียนให้จบ อนาคตไม่จำเป็นว่าต้องเป็นนางเอกไปตลอด แล้วแต่ผู้ใหญ่จะมอบบทให้เลย เพราะหนูเชื่อว่าผู้ใหญ่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเรา"
เรื่องความรักเป็นอย่างไรบ้าง พรีมไม่ค่อยมีข่าวกับหนุ่ม ๆ เลย นอกจากกับคู่จิ้น เกรท-วรินทร
"ช่วงที่ผ่านมาเตรียมสอบเทียบและเข้ามหาวิทยาลัย เลยเน้นไปที่การเรียน ขนาดอยู่บนรถยังอ่านหนังสือ พรีมเลยไม่มีเวลาคิดเรื่องนี้ อย่างพี่เกรทนี่พี่ชายจริง ๆ เลย เขาคอยช่วยเหลือและให้คำแนะนำพรีม ถึงจะมีคนเชียร์ตามกระแสละคร แต่พรีมว่ามันยากนะ เรายังมองว่าพี่เขาเป็นพี่ชายค่ะ"
แว่วมาว่าพี่หมาก-ปริญ คอยช่วยสกรีนหนุ่มที่เข้าหาเราด้วย เป็นเพราะตรงนี้ด้วยหรือเปล่าหนุ่ม ๆ เลยหนี
"ช่วยสกรีนทั้งแก๊งเลยดีกว่า พี่หมาก, พี่มิ้นท์-ณัฐวรา หรือ พี่พลอย ผู้จัดการส่วนตัว คงเป็นเพราะเราเด็กที่สุดด้วย พี่ ๆ เลยคอยดูแล ถามว่ามีอารมณ์อยากทำลายกำแพงของพี่ ๆ ไหม (หัวเราะ) ไม่ค่ะ พี่เขาไม่โหดขนาดนั้น เขาให้เราตัดสินใจเองด้วย ตัวพรีมยังไม่พร้อมเองมากกว่า"
สเปกหนุ่มของพรีม
"ขอแค่คุยกันรู้เรื่องก็พอ แต่พรีมเป็นคนบุคลิกภาพดีและออกกำลังกาย เรามองว่าถ้าบุคลิกดีนิสัยก็จะดีไปด้วย แต่ทุกอย่างพรีมเชื่อว่าอยู่ที่พรหมลิขิตมากกว่า"
มีฝากอะไรแฟนละครไหม
"ฝากละคร “สามี” ดีกว่า มีเรื่องราวอีกเยอะมาก ที่ผ่านมายังไม่ได้เศษเดียวของความเข้มข้น และฝากติดตามพัฒนาการของพรีม ขอบคุณแฟนละครที่ให้กำลังใจกันมาตลอด ก็อยากให้อยู่เคียงข้างกันไปเรื่อย ๆ ค่ะ."
* ดูประวัติ พรีม - รณิดา เตชสิทธิ์
* ดูอัลบั้ม พรีม - รณิดา เตชสิทธิ์
|