ธิดารัตน์ ศรีจุมพล
|
“หญิงลี” หมอลำซิ่งสู้ชีวิตมีวันนี้เพราะความพยายาม
กลายเป็นนักร้องหมอลำซิ่งหน้าใหม่มาแรงไปแล้ว สำหรับ หญิงลี ศรีจุมพล ที่ความสามารถทั้งร้องทั้งเต้นเข้าตา โดดเด่น แถมเพลง “ขอเบอร์แลกใจ” จากอัลบั้ม “ขาขาวสาวลำซิ่ง” จากค่ายแกรมมี่โกลด์ ยังฮิตติดหู บวกกับบุคลิกที่เฮฮสนุกสนาน และเป็นมิตรกับทุกคน จึงไม่แปลกใจเลยที่วันนี้เธอเข้าไปนั่งอยู่ในใจของแฟนเพลงทั่วประเทศได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เธอต้องฝ่าฟันมาสารพัด วันนี้เธอมาพูดคุยกับ “ดาวต่างมุม” เพื่อบอกถึงเรื่องราวชีวิตที่ผ่านมา
ที่มา: เดลินิวส์
|
|
|
|
คำถาม
|
จุดเริ่มต้นที่ได้มาเป็นนักร้องเป็นอย่างไร?
|
หญิงลี
|
จุดเริ่มต้นตั้งแต่เด็กก็คือเป็นนักร้องโรงเรียน เป็นวงอิเล็กโทน ร้องตั้งแต่ ม.2 – ม.6 เลย ก็รับจ้างร้องเพลงวันละ 300-500 บาท หัวหน้าวงก็เป็นครู พอจบ ม.6 ก็มาเรียนหมอลำซิ่งกับ อ.วัชราภรณ์ สมสุข ที่อุบลฯ แล้วก็ได้มีโอกาสรู้จักกับ อ.สวัสดิ์ สารคาม ก็ได้มีโอกาสทำอัลบั้มแรก เป็นแนวลูกทุ่ง หมอลำ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เพลงออกมาก็มีกระแส เป็นที่นิยมของอีสาน แต่ถูกแบนห้ามออกอากาศ บอกว่าเนื้อหาผิดศีลธรรม ตอนนั้นกระทรวงวัฒนธรรมก็ออกมาแบน ก็เหมือนอกหัก ไม่ได้ออกเทปอีก ก็กลับมาลำซิ่งเหมือนเดิม ตั้งแต่อายุ 20-25 ก็ลำซิ่ง รับจ้างทั่วไปที่อีสาน จากนั้นก็มาตั้งหลักใหม่ที่กรุงเทพฯตอนอายุ 25 ก็มาลำซิ่งรับจ้างร้องเพลง ก็มีงานเยอะ เป็นพวกงานชิงช้าสวรรค์ ปาลูกโป่ง แต่เราก็ไม่หยุดนิ่ง ก็ฝากงานอัดเสียงไปกับครูเพลงต่าง ๆ ค่ายนั้น ค่ายนี้ไปเรื่อย เราก็ยังมีความหวังอยู่ตลอดว่า อาจจะมีใครสักคนให้โอกาส แล้วก็ดูแลตัวเอง เผื่อเขาเรียก เราก็ต้องมีความพร้อมเสมอ ต้องดูแลเสียง ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ถ้าเขาเรียกไปแล้วเราเสียงไม่ดีเหมือนที่เราพรีเซ้นต์ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เหมือนที่พูด ระหว่างนั้นเราก็รับจ้างไปเรื่อยทีละ 3,000 – 5,000 บาท ก็มีชื่อเราตามป้ายข้างทาง ป้ายงานวัด ตอนนั้นก็ยังฝากเทปไปกับ อ.สวัสดิ์ เหมือนเดิม ท่านก็ดูความเคลื่อนไหวของเราอยู่ด้วย ว่าเราจริงจังหรือเปล่า หรือว่าเราเคว้งคว้างแล้วก็มาฝากงาน ทีนี้หนูเองก็ขยัน เดินสายตลอด ท่านก็เห็นหน้างานเราด้วย เห็นในยูทูป เห็นงานจ้าง ท่านก็เลยนำเสนอมาทางค่ายต่าง ๆ แล้วแกรมมี่ก็เลือกพิจารณามาคัดตัวดู
|
|
คำถาม
|
พอรู้ว่าได้เป็นศิลปินแกรมมี่แล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง?
|
หญิงลี
|
ตอนแรกที่ผู้ใหญ่บอกว่าได้ถูกคัดเลือกหนูก็ดีใจมากแล้ว แต่ก็ยังเผื่อใจอยู่ เพราะเคยอกหักมาแล้วกับอัลบั้มแรก ก็อาจจะอกหักซ้ำแล้วซ้ำอีกเหมือนที่เคยลงทุนมาสารพัด ตราบใดที่ยังไม่ออกทีวีก็คิดว่ามันยังเป็นไปไม่ได้ แม้แต่วันเซ็นสัญญา วันเข้าห้องอัด จนกระทั่งวันถ่ายมิวสิกวิดีโอ เห็นภาพตัวเองในมอนิเตอร์แล้วก็น้ำตาไหล เพราะภาพออกมาสวย สวยกว่าตัวเรา ตื้นตัน ภาคภูมิใจกับวันที่เรารอมานานแสนนาน ตอนนั้นก็คิดถึงพ่อกับแม่ จนถึงวันที่ออกทีวีจริง ๆ พ่อกับแม่ก็ดูแล้วก็น้ำตาไหล สงสารลูกที่ลูกเดินฟันฝ่าด้วยตัวเองจนได้ออกเทป ซึ่งเราก็ยังไม่คิดว่าเราจะดังอะไรมากมาย เราก็แค่คิดว่าเราได้ออกทีวีแล้ว เราคงมีงาน ชีวิตเราคงดีขึ้นกว่าเดิม
|
|
|
|
คำถาม
|
ฝ่าฟันอะไรมาเยอะท้อไหม?
|
หญิงลี
|
มันต้องย้อนหลังไปเป็น 10 ปีเลยนะ หลังจากอกหักจากอัลบั้มแรก ก็มาทำเพลงเอง หมดเงินไปแสนกว่าบาท แล้วก็ไม่มีเงินโปรโมท ก็อกหักอีก เราก็เลยไปทำหมอลำซิ่งเต็มตัว เงินที่ใช้ก็มีแต่เงินหมอลำซิ่งหมุนเวียนไป ก็มาทำวงเอง ทำเครื่องเสียง เวที เอง ก็เลยเป็นหนี้เป็นสิน เอาเงินเก่ามาหมุน ทำไปเรื่อย เป็นการลงทุนไม่จบไม่สิ้น พอทำไป 2 ปีก็รู้สึกเหนื่อยล้ากับวงที่รับภาระเยอะ แล้วสงสารพ่อด้วย พ่อต้องไปกับวงไปยกของทำสารพัด พ่อก็แก่ ขาก็ไม่ค่อยดี เลยตัดสินใจเลิกวง เอาของเก็บในโกดัง ตอนนั้นก็มีปัญหาเรื่องความรักอกหักด้วย ไม่เข้าใจกัน มีการหึงหวงกัน ซึ่งมันไม่ใช่ เรายังอยากรำ อยากร้องเพลง อยากเป็นอิสระ เราแค่อยากเป็นกำลังใจให้กัน แต่ถ้ามันเกินกว่านี้ เราเลิกที่จะหยุดดีกว่า ดีกว่าไปรั้งกันไว้ให้ทรมาน เราเลยตัดใจออกจากอีสานมาอยู่กรุงเทพฯ เรียกว่าผ่านปัญหามาสารพัดอย่าง ตอนเข้ามากรุงเทพฯก็มาทำร้านเสริมสวยอีกนะ เพราะงานร้องเพลงมันไม่แน่นอน ก็เปิดร้านเอง หมดเงินไปอีก ก็มีน้องมาเป็นช่างให้ แต่เขาไม่ชิน เขาก็อยากกลับอีสาน พอน้องกลับ หญิงก็ต้องมาทำเอง จากทำเสริมสวยไม่เป็นก็ต้องทำ เพราะร้านเปิดมาแล้ว แต่พอทำแล้วก็มีงานรำเข้ามาเรื่อย ๆ ต้องปิดร้านบ่อย ๆ ค่าเช่าก็แพง เลยปิดร้านดีกว่า เซ้งไปในราคาถูก ๆ จากนั้นก็ตั้งใจลำซิ่งอย่างเดียว ตอนนั้นเช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่ชั้น 3 ก็ขนชุดหางเครื่องขึ้นลงทุกวัน เราก็สู้ ทำจนกระทั่งมีเงินเก็บได้ไปดาวน์บ้าน ซื้อบ้านชั้นเดียวเล็ก ๆ มือสอง แล้วช่วยส่งเงินให้พ่อแม่ บางครั้งก็เครียด กดดัน น้ำตาไหล ท้อแท้ แต่ก็ไม่ได้จมปลักอยู่กับความทุกข์ตลอด
|
|
คำถาม |
ณ วันนี้ถือว่าประสบความสำเร็จหรือยัง?
|
หญิงลี |
ถือว่าประสบความสำเร็จนะ แต่มองย้อนกลับไปก็คือเราทำมาเยอะ ถึงได้ตรงนี้ ไม่ใช่ว่าเราฟลุคหรือดวงดี แต่เพราะเป็นความพยายามด้วย แม้แต่แต่งงานมีลูกมีเต้าเราก็ยังไม่กล้า ยังคิดเสมอว่าเรายังอยากมีอัลบั้มอยู่นะ เราต้องทน ถ้าอายุผ่านไป 31-32 ปี เราค่อยว่ากันใหม่ อดทนไม่กล้ามีความรัก กว่าจะมาถึงวันนี้เรารอมานาน อดทนมาก จากที่ไม่มีใครรู้จักมาก ตอนนี้ก็มีคนรู้จักเยอะมาก ยอดวิวในยูทูปก็สูง พี่น้องแฟนเพลงหน้าเวทีเยอะมากที่มาดูเรา 3,000 – 5,000 คน ในงานเดียว เมื่อก่อนไปกับพี่ไผ่ พงศธร ก็เป็นแฟนเพลงพี่ไผ่ เราก็พยายามอัพเดทตัวเองให้อยู่ในหัวใจของแฟนเพลงพี่ไผ่ด้วย ก็ทำให้แฟนเพลงพี่ไผ่เมตตาเราบ้าง ณ วันหนึ่งที่มีป้ายชื่อเราคนเดียว คอนเสิร์ตหญิงลี คนมาดูร้องเพลงกระหึ่ม ดีใจแล้วก็ภูมิใจมาก ปลาบปลื้ม นี่แหละที่เราต้องการ วันที่เราฟันฝ่ามา เราได้มายืนอยู่ ณ จุดๆ หนึ่งที่มีกระแสเท่ากับพี่เขาที่เราศรัทธา
|
คำถาม |
เสน่ห์ในตัวหญิงลีคืออะไร?
|
หญิงลี |
หญิงคิดว่าเป็นที่ความเป็นตัวของเอง อิสระในการแสดงออก แล้วก็ความจริงใจ เราเป็นคนตรง ๆ โผงผาง แสดงออกอย่างชัดเจน การพบปะแฟนเพลงเราก็จะสนุกสนาน ร่าเริง ไม่ถือตัว คุยสนุกกับทุกคน เหมือนคนเปิ่น ๆ คนบ้านนอก เราไม่หยิ่ง ทำให้สังคมยอมรับเรา เมตตาสงสารเรา เราคุยได้หมดทุกเรื่อง โลกเก่า โลกใหม่ โลกออนไลน์ แล้วสาวประเภทสองก็ชอบเรา เพราะเราเม้าท์มอย เฮฮา รั่ว ๆ ทะลึ่งตึงตัง คือเราได้ทุกมุมค่ะ เป็นเสน่ห์ของเราตรงนี้ กว่าจะมาเป็นอัลบั้มชุดนี้ผู้ใหญ่ก็เมตตา การร้องเพลง การแสดงออก ท่านก็อยากให้เราทำออกมาได้ดี ก็ต้องฝึกฝน ทั้งการพูด เราก็ต้องไปดูไปฝึกว่าที่เขาพูดเป็นทางการกันน่ะ เขาพูดยังไงให้ดูดี เป็นนักร้องไม่ใช่แต่ร้องอย่างเดียวนะ การพูดการจาก็ต้องดูมีเสน่ห์ คำขำ ๆ อะไรก็เรียนรู้ เต้นท่าไหนถึงจะดูสวยงามเซ็กซี่ แต่ไม่โป๊เกินไป แต่งตัวยังไงให้ดูดี ผิวพรรณต้องดูแล ต้องไม่อ้วน โอ๊ย เยอะแยะไปหมด ที่จะสมบูรณ์ได้ขนาดนี้ ทั้งเนื้อเพลงก็คัดหากันมาให้ลงตัวที่สุดให้เหมาะกับหมอลำซิ่ง เพลงก็จะเป็นแนวร็อคอีสาน เป็นลูกทุ่งหมอลำ ผสมกันกับภาษากลางด้วย
|
|
|
|
คำถาม |
ทุกวันนี้ชีวิตพลิกผัน?
|
หญิงลี |
พลิกผันนะจากที่โนเนม ตอนนี้สื่อทุกทิศทุกทางก็ให้การตอบรับ รายการต่าง ๆ ก็อยากให้เราไปออก งานวัด งานบุญอะไร ก็เรียกร้องมาก จนงานเยอะมาก ถึงปีหน้า ความดังนี้ไม่ตั้งตัวเลยค่ะ จากเมื่อก่อนมีต้นทุนแค่ 50% จากชื่อเสียงเบา ๆ แคบ ๆ บ้านนอก แต่ตอนนี้มีเต็มร้อย ความรู้สึกบางทียังคิดว่าจะมีวันพักไหมเนี่ย บางครั้งเราเหนื่อย ตัวลอย เพราะไม่ได้นอน งานอยู่ตอนกลางคืน พอตื่นเช้ามาต้องมางานโปรโมท งานพีอาร์ ออกสื่อต่าง ๆ ซึ่งเราต้องไป เพราะเขาไม่ได้เรียกร้องเราตลอดเวลา เขาเรียกร้องเราเวลานี้ ก็เป็นช่วงสปีด ก็เข้าใจ ก็ต้องทน ให้กำลังใจกัน
|
คำถาม |
ใช้ชีวิตลำบากขึ้นไหม?
|
หญิงลี |
ไม่ค่ะ สนุก เพราะหนูไม่ต้องเปลี่ยนอะไร เราเปลี่ยนแค่คอนเซปต์งานที่เราไป แต่ตัวตนเราก็ยังเหมือนเดิม เคยอยู่เคยกินยังไงก็เหมือนเดิม วันว่างหนูก็ซักผ้า ทำงานบ้านเหมือนเดิม ใครจะมองว่าไฮโซ เปล่าเลย เราก็ลุย ๆ เป็นผู้หญิงแกร่ง ผู้หญิงทำงาน พื้นฐานเราจน เราก็ไม่อยากจนมาก เราแค่อยากมีเงินขึ้น ให้พ่อแม่อยู่สบาย เราไม่ได้อยากรวยมาก ไม่ได้ไปอัพเดทตัวเองให้สูงส่งเท่าใคร ปัจจุบันหญิงก็มีความสุขกับการทำงาน เราเต็มที่ ยังคิดเสมอว่าตัวเราเป็นคนบ้านนอก ไม่ได้ทัดเทียมกับคนไฮโซ บางคนจะเรียกหญิงว่าเป็นหมอลำซิ่งไฮโซ เห็นภาพในทีวีแล้วสวย นั่นคือค่ายเขายกระดับหญิงขึ้นมา แต่เวลาเราอยู่บ้านเราก็ธรรมดา ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ที่เขาสร้างเราให้เราดูดี
|
|
คำถาม |
เห็นบอกว่าไม่กล้ามีความรัก แล้วจริง ๆ มีคนมาจีบบ้างไหม?
|
หญิงลี |
มีคนมาจีบเยอะ ก็คุยสนุก ใครส่งข้อความมาเปิดอ่านเราก็ดีใจแล้ว มีคนมาให้กำลังใจ แต่เราไม่สามารถที่จะชัดเจนกับใคร ที่จะต้องเป็นแฟนจริงจัง ต้องดูแลกัน ต้องแต่งงาน ตอนนี้คือไม่สะดวก เราทำงานตรงนี้ถ้าเราจะไปยึดติด เป็นเจ้าของใคร ก็คือเป็นทุกข์ เราต้องหวงเขา ต้องคิดถึงเขา ให้เขาต้องมาหวงเรา แต่ถ้าเขาต้องการกำลังใจจากเรา เราก็ให้ และเราก็ต้องการกำลังใจจากเขา ถ้าไม่ได้เป็นหญิงลี คงอาจจะมีครอบครัวไปแล้ว เพราะมีคนมาขอแต่งงาน พ่อกับแม่ก็อยากให้เราเป็นฝั่งเป็นฝา เพราะเราก็อายุเยอะแล้ว เพื่อนก็มีลูกกันหมดแล้ว หนูก็อยากมีลูก มีครอบครัว แต่วันนี้งานเดิน ซึ่งโอกาสแบบนี้ไม่ค่อยมี ทั้งชีวิตหามาตลอด มีโอกาสดีที่สุด เราก็รักษาโอกาสก่อน อีก 3 ปี 5 ปี ถ้าแฟน ๆ ไม่ตอบรับแล้ว กระแสจางไปแล้ว ถ้ามีคนมาจีบก็แล้วแต่บุญวาสนา
|
คำถาม |
ชอบผู้ชายแบบไหน?
|
หญิงลี |
ชอบคนอารมณ์ดี มีเหตุผล โรแมนติก อบอุ่น ถ้าบุคลิกก็รูปหล่อ สูงโปร่ง จมูกโด่ง เอาคนที่เขามีอารมณ์ศิลปินด้วยกัน อยู่ด้วยกันได้เหมือนเพื่อน หน้าตาไม่ต้องขี้เหร่มาก ไม่ต้องหล่อ ไม่ต้องรวยก็ได้ เพราะเราก็หาเงินได้อยู่ อยากให้อยู่กันเหมือนเพื่อน มีความสุขในการใช้ชีวิต
|
|
|
|
คำถาม
|
มีมุมมองเรื่องความรักยังไง?
|
หญิงลี
|
ความรักก็เป็นคนที่ห่วงใยกัน แคร์กัน ถ้าเราเป็นผู้หญิงเราก็ต้องการความอบอุ่น ให้เขาเป็นช้างเท้าหน้าเป็นพี่ เป็นเพื่อน ที่เราคุยได้ทุกอย่าง อยากได้แบบ ไม่สบาย พาไปหาหมอหน่อย อยากได้คนแกะก้างปลาให้บ้าง คืออยากได้คนดูแลแบบนี้ หรือไม่ก็ปลอบหน่อยสิ เหนื่อยนะ อยากได้กำลังใจ พูดหวาน ๆ โรแมนติก ใส่ใจ
|
คำถาม
|
เคยอกหักมาทำให้เราเข็ดความรักหรือเปล่า?
|
หญิงลี
|
เข็ดในความรักที่จริงจัง คือเขาก็รักเรามาก เราก็รักเขามาก หึงหวงกันมาก ทะเลาะกัน มีเรื่องมีราวบ่อย ไม่อยากมีแบบนั้น ณ เวลานี้ เพราะมันทำงานยาก คนทำงานด้วยก็จะลำบากใจ ก็เลยยังไม่อยากมีแบบนั้น อยากมีแค่แบบขำ ๆ แฮปปี้ ใครคุยด้วยก็คุย ไม่ต้องคิดถึงใครมาก จะแต่งงานต่อเมื่อสถานการณ์เป็นใจ ถ้าแฟนเพลงอยากให้หญิงลีโสด หญิงลีก็ควรโสด เพราะว่าเรตติ้งของนักร้องถ้าเกิดมีครอบครัว ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่หรอก ก็ถ้ามีก็อยู่กันไป คบกันไป ไม่แต่งงาน ไม่มีลูก ดาราเขายังมีแฟนเปิดใจ คบกับคนนั้น หญิงลีก็อาจจะมีแบบนั้นบ้าง แต่อาจจะนะ ให้แฟนเพลงตัดสินดีกว่า |
|
คำถาม |
อยากฝากอะไรถึงแฟนเพลง?
|
หญิงลี |
สำหรับหญิงลีก็ขอขอบคุณแฟนเพลงสำหรับความเมตตา ทั้งหน้าเวทีคอนเสิร์ต ยูทูป ยอดดาวน์โหลด ยอดขายซีดี ก็ทุกคนให้ความเมตตาหญิง หญิงก็อยากให้แฟนเพลงมีความสุขกับการฟังเพลงหญิง หญิงก็จะทำหน้าเวทีให้ดีที่สุดในการถ่ายทอด ก็ร้องสุดคำ รำสุดแขน หน้าเวทีก็มีแต่ความจริงใจให้กัน เพราะแฟนเพลงก็มีแต่ให้ เราก็ตอบแทนมิตรภาพของทุกคน หญิงลีก็จะทำงานเพลง คัดสรรหาสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อแฟนเพลง ยังไงก็ขอกำลังใจจากแฟนเพลงด้วยค่ะ
เรียกได้ว่ากว่าจะเดินมาถึงวันนี้ หนทางของเธอไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบจริง ๆ แต่วันนี้เธอพิสูจน์แล้วว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่นจริง ๆ
|
|
|
|
* ดูประวัติ หญิงลี - ธิดารัตน์ ศรีจุมพล
* ดูอัลบั้ม หญิงลี - ธิดารัตน์ ศรีจุมพล