พรชิตา ณ สงขลา

'เบนซ์' ได้ดีเพราะคำแม่สอน จริงใจ จริงจัง กับทุกงาน

ยืนหยัดอยู่ในวงการบันเทิงมานานถึง 19 ปี ชื่อเสียงของ เบนซ์-พรชิตา ณ สงขลา ก็เป็นที่ยอมรับของแฟน ๆ ในเรื่องของความสามารถในการแสดง และการวางตัวเรียกว่าเธอแทบจะไม่มีข่าวเสียหาย งานการยังเข้ามาไม่ได้ขาด ทั้งงานละครและพิธีกร แถมเรื่องความรักกับ มิค-บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ ก็ยังแฮปปี้คาดว่าไม่เกินปีหน้าคงได้ยินข่าวดีจากทั้งคู่แน่ๆ วันนี้เบนซ์มาเป็นแขกรับเชิญให้ “ดาวต่างมุม” ได้พูดคุยเจาะลึกในเรื่องราวต่าง ๆ ของเธอซึ่งได้มองเห็นความคิดที่น่าสนใจของเธอจริงๆ

ที่มา: เดลินิวส์

คำถาม	ตอนนี้มีละครกี่เรื่อง?
เบนซ์	"มีเรื่อง “มนต์จันทรา” ที่เพิ่งจบไปค่ะ ส่วนที่ถ่ายอยู่มีเรื่อง “สาปพระเพ็ง” และ “เรือนริษยา” กว่าจะได้ถ่ายคงเดือนหน้าค่ะ ก็เป็นบทร้ายหมดเลย ที่หันมารับบทร้ายมากขึ้น ชอบค่ะ รู้สึกว่าชีวิตมันไม่เศร้า ไม่หดหู่ เป็นนางเอกแล้วรู้สึกว่าชีวิตมันเศร้านะ ถ้าให้เลือกนางเอกกับตัวร้าย ขอเลือกตัวร้าย เพราะมันได้เล่นอะไรเยอะดี เบนซ์อาจจะโชคดีที่ไม่ได้เล่น บทร้ายแบบชั้นเดียว จะเจอบทร้ายแบบยาก ๆ อย่างเรื่อง “มนต์จันทรา” คนดูจะรู้สึกว่าร้ายจังเลย แต่ในความร้ายนี้มีความเป็นผู้ใหญ่ของมันอยู่ตรงที่ว่าฉันจะทำอย่างไรให้พระเอกเชื่อว่าฉันไม่ได้ทำ หรือฉันจะทำอย่างไรให้ได้อันนี้ของเธอ คือมันมีความซับซ้อนของตัวละครอยู่ ไม่ใช่ตัวร้ายที่กรี๊ด ๆ แล้วก็ตบ ด่า ๆ แล้วกลับบ้านไป"
คำถาม	เล่นบทนางเอกมาเยอะ เลยอยากเปลี่ยนมาร้ายบ้างใช่ไหม?
เบนซ์	“ไม่หรอกค่ะ เบนซ์ว่าคนอยากเป็นนางเอกเยอะ คนที่อยากเป็นตัวร้ายจะไม่ค่อยมี เบนซ์เลยรู้สึกแฮปปี้ที่ไม่ต้องไปแย่งที่ยืนของใคร ๆ เบนซ์เป็นผู้หญิงตัวดำ ๆ เบนซ์ก็มีที่ยืนของเบนซ์โดยไม่ต้องไปแทรกที่ของคนขาวและหน้าตาดี เบนซ์ยืนเล็ก ๆ ของเบนซ์อยู่โดยไม่ต้องไปเบียดหรือแย่งกับใคร และไม่มีใครมาแย่งที่เรา ใครอยากเป็นนางเอกเชิญเลย ฉันโอเค ฉันเป็นตัวร้ายให้เธอเอง ซึ่งการเป็นตัวร้ายทำให้ได้เจอนักแสดงทุกคน ถ้าเป็นนางเอกจะมาเจอนางเอกกันเองมันจะยาก แทบจะไม่ค่อยได้ทำงานด้วยกัน ผู้จัดเวลาเรียกเบนซ์ทำงานคงไม่ยื่นบทง่าย ๆ ให้ เขาพยายามหาบทที่ต้องเป็นเราเล่น เรื่อง “สาปพระเพ็ง” ถือว่ายาก แต่เบนซ์ไม่ใช่ตัวร้ายในเรื่อง เรื่องนี้มี 2 ส่วน คือส่วนอดีตกับปัจจุบัน อดีตเบนซ์เป็นแม่ทัพที่ไม่มีสมองใช้แต่กำลัง ปัจจุบันเป็นปัญญาอ่อนติงต๊องน่ารัก ๆ ไป มันไม่ใช่ทั้งนางเอกและตัวร้าย “เรือนริษยา” ก็เหมือนกัน ไม่ใช่ทั้งนางเอกและตัวร้าย แต่มันเป็นบทที่ซับซ้อนมาก ๆ ซึ่งเบนซ์ชอบบทแบบนี้มากกว่านางเอกไปเลยหรือตัวร้ายไปเลยไม่แคร์เลย ว่าใครจะมองว่าถูกลดบทบาทลง พร้อมรับบทแม่ด้วยซ้ำ เดี๋ยวอีกสัก 2-3 ปีจะเป็นแม่แล้ว”

คำถาม

แสดงว่าเบนซ์รักการแสดงมากเล่นได้ทุกบท?

เบนซ์

ใช่ค่ะ เบนซ์อยู่วงการมานาน ไม่ได้ยึดติดกับคำว่านางเอกอยู่แล้ว เบนซ์เป็นตัวร้ายตั้งแต่ “เมียหลวง” ตอนนั้นอายุ 18 หลังจากนั้นก็ได้เป็นนางเอกบ้าง ตัวร้ายบ้าง เบนซ์ว่าเบนซ์โชคดีกว่าหลาย ๆ คนนะที่เป็นนางเอกแล้วพอถึงวันหนึ่งต้องมาเป็นแม่ มันคงทำใจยาก แต่สำหรับเบนซ์ เราพร้อมทุกสถานการณ์เลย เพราะเป็นมาแล้วทุกบทบาท แต่ตอนแรกที่เป็นแม่ก็รู้สึกเหมือนกันนะว่าเราเป็นแม่แล้วเหรอ ตอนนี้ไม่รู้สึกอะไรแล้ว เพราะเราอยากเป็นอย่างพี่แหม่ม-จินตหรา หรือมี้-พิสมัย ผู้คนยังรักพี่แหม่มตรงความเป็นพี่แหม่ม-จินตหรา ถึงจะไม่ใช่นางเอกแล้ว คนก็ยังรัก ถึงแม้ตอนนี้จะมีญาญ่าก็ตาม เบนซ์อยากเป็นแบบนั้นที่มีคนรักเราที่ความเป็นนักแสดง เบนซ์อยู่วงการมานานย่อมเข้าใจโลก ปีนี้ 33 แล้ว ตอนเป็นนางเอกครั้งแรกอายุ 15 ก็เลยไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไรกับการเป็นแม่ วงการบันเทิงมันเป็นชีวิตของเบนซ์ไปแล้ว เบนซ์อยู่มาเกินครึ่งชีวิตแล้ว มันผูกพัน วันไหนไม่ได้ทำงานจะรู้สึกเหงา ปีที่แล้วเบนซ์หยุดเล่นละครไป 6 เดือน เพราะรอละครเปิดปลายปี ตอนนั้นรู้สึกไม่มีอะไรทำเลย ถึงแม้จะมีรายการหรือมีอีเวนต์อยู่ แต่มันก็คิดถึงกองถ่าย ไม่เคยมีอารมณ์เบื่อกองถ่ายเลยค่ะ รู้สึกว่าไปกองถ่ายเหมือนไปเจอเพื่อน เจอพี่ ไปเล่นกัน ไม่รู้สึกเหมือนไปทำงานนะ ถ้าเป็นละครเรื่องใหม่ เราก็ทำการบ้านใหม่ เหมือนเราได้เล่นเกมตลอดเวลา ชีวิตมันเลยไม่น่าเบื่อ

คำถาม	งานพิธีกรเป็นอย่างไรบ้าง?
เบนซ์	“พิธีกรเป็นงานที่คนจะเห็นตัวจริงของเรา และเบนซ์ก็เป็นตัวแทนคนดู ถามในสิ่งที่คนดูอยากรู้ คนดูคงอยากถามอย่างที่เราถาม มันได้แสดงความสามารถและไหวพริบของเราด้วย โดยเฉพาะรายการสดที่เราต้องแก้สถานการณ์ บางครั้งไม่รู้จะถามอะไรแล้ว แต่โชคดีได้ทำงานกับพิธีกรที่เก่ง ๆ ซึ่งเราต้องรู้ด้วยว่าคนที่ทำงานกับเราเขามีสไตล์อย่างไร ให้ร่วมงานกันได้โดยไม่อึดอัด ไม่ไปข้ามหน้าหรือพูดเกินเขา อย่างที่ทำพิธีกรในรายการ “ปากโป้ง” ของช่อง 8 พี่หนุ่ม-กรรชัย เป็นพิธีกรหลัก เบนซ์เป็นพิธีกรช่วย เราเป็นฝ่ายเสริมเขา เบนซ์ว่ามันก็ค่อนข้างยากเหมือนกันโดยเฉพาะกับแขกรับเชิญ เราไม่รู้ว่าเขาจะพูดเยอะหรือน้อย บางครั้งถามไปแค่ 2 คำ ตอบ 20 หรือถามไปตั้งนานกลับไม่ตอบ บางคนไม่รู้จะพูดอะไร หรือพูดอะไรที่ไม่ควรพูด เราก็ต้องคอยแก้ไขสถานการณ์ให้ผ่านไปได้ด้วยดี”
คำถาม	คิดอยากเบรกพักเหนื่อยบ้างไหม?
เบนซ์	“เบนซ์ว่าเป็นดารานี่โชคดีนะ เราสามารถทำงานก็ได้ ไม่ทำก็ได้ หยุดก็ได้ อยากลาไปเที่ยวตอนไหนก็ได้ แต่เบนซ์อยากทำงานให้ดีที่สุด ยาวที่สุด เพราะเราอยากทำงานตรงนี้ไปตลอดชีวิต เราไม่ได้เข้ามาตรงนี้เพื่อเอาเงินแล้วกลับบ้าน ไม่ได้เข้ามาอย่างฉาบฉวยแล้วก็ออกไป แต่ก็คงมีพักบ้าง อาจจะมีไปเที่ยวบ้าง แต่ไม่ใช่พักยาวปีนึง มันมากไป คงทำใจไม่ได้”

คำถาม	อยู่ในวงการมาเกือบ 20 ปี แต่ทำไมไม่ค่อยมีข่าวเสียหายเลย?
เบนซ์	“สิ่งที่สำคัญเลย ต้องมีแม่ที่ดุมาก ๆ (หัวเราะ) แม่จะสอนว่าชีวิตนี้ควรทำและไม่ควรทำอะไร ตอนที่เบนซ์ดังมาก ๆ ช่วงโดเรมีนั้นเคยมีช่วงเกเร ใครเรียกก็ไม่หัน ทำเป็นไม่ได้ยิน แบบว่าฉันดังเหลือเกิน แม่ก็ดุเบนซ์แล้วสอนว่าการที่เขาเรียกเรา ชื่นชมเรา หรือพูดถึงเราเนี่ย แสดงว่าเขารักเรา เธอต้องหันไปหาเขา ยิ้มแค่นิดเดียว เขาจะรักเธอไปทั้งชาติเลย แต่ถ้าเธอไม่หันไป เขาก็จะเกลียดเธอไปทั้งชาติเหมือนกัน ประมาณว่ายัยนี่หยิ่งเนอะ ดังแล้วไม่หัน แม่ยังสอนอีกว่าจงภูมิใจที่มีคนเรียกเธอ ถ้าวันหนึ่งเธอเดินไปไหนแล้วไม่มีใครหันมามองเลยแถมยังด่าซ้ำ แล้วเธอจะเสียใจ ซึ่งแม่จะคอยสอนตลอดว่าสิ่งที่ควรและไม่ควรทำมีอะไรบ้าง แล้วแม่ก็ย้ำว่าอย่าไปแข่งกับคนอื่น ให้แข่งกับตัวเอง อย่ามีศัตรู นี่คือสิ่งที่สำคัญมาก เวลาเราทะเลาะกับใคร มันเป็นเรื่องที่ลำบากใจ เพราะวงการมันแคบ มันต้องเจอกัน อีกเรื่องคือต้องมีสัมมาคารวะ ไม่ว่าจะเป็นใคร เราต้องไหว้ไว้ก่อน ที่อยู่วงการมานาน เบนซ์ก็ทำงานของเบนซ์ให้ดีที่สุดโดยไม่ไปทำให้คนอื่นเขาลำบากใจ”
คำถาม	คิดจะลองเปลี่ยนไปทำอาชีพอื่นบ้างไหม?
เบนซ์	“ไม่นะ เบนซ์ว่าเราทำอย่างอื่นไม่เป็นแล้วล่ะ เพราะเราอยู่ตรงนี้มานานมาก ถ้าไปทำอย่างอื่นคงโง่แน่ ๆ เลย เพราะไม่รู้ แต่อยู่ตรงนี้รู้เรื่องทุกอย่าง ถามว่าให้ทำอาชีพอื่นด้วยเอามั้ย อยากทำนะ แต่ถ้าจะให้ลาออกจากวงการ ไม่แน่นอน จะไม่ไปไหน จะอยู่ตรงนี้แหละ (หัวเราะ) ก็อยากทำรายการเหมือนกันนะ ต้องหาสิ่งที่เราถนัดและที่ช่องต้องการ เพราะเราก็อยากเสนอรายการที่คิดว่าดีที่สุด จะได้ไม่ผิดหวังกลับมา ส่วนตัวเบนซ์อยากทำรายการที่เป็นตัวเองและให้ความรู้คนอื่น รายการที่มันมีประโยชน์สำหรับชาวบ้าน ซึ่งมันยากในการจะทำให้ถูกใจคนหมู่มาก ก็เลยขอคิดมาก ๆ หน่อย ส่วนผู้จัดละคร ขอเป็นอาชีพสุดท้ายเลย เพราะมันคงยาก คงต้องสร้างบารมีอีกสักพักใหญ่ การที่จะให้คนหลาย ๆ คนมาทำงานกับเราโดยเฉพาะนักแสดงรุ่นใหญ่ อย่างที่ พี่แอน ทองประสม ทำ มีแต่คนอยากทำงานด้วย เพราะพี่แอนเป็นคนที่ตั้งใจทำงานและทำงานดี เบนซ์คิดว่าเราก็ควรจะอีกนิดนึงนะ เหมือนเรายังเด็กไป”

คำถาม	เรื่องความรักบ้างหลายคนชื่นชมคู่มิคกับเบนซ์มากเลยนะ?
เบนซ์	“สิ่งที่ทำให้คบได้นานคือความเป็นเพื่อน เบนซ์จะไม่คาดหวังเขามากแบบต้องพูดเพราะกับฉันนะ ต้องมารับฉันนะ ต้องซื้อของให้ฉันนะ ด้วยความที่เป็นเพื่อนกัน มีอะไรก็พูดเลย มันก็สบายใจ ไม่อึดอัดทั้งคู่ ใส่ความเป็นตัวเองชัดเลยค่ะ เพราะพูดตั้งแต่แรกว่า ถ้าปีครึ่งคบไม่ได้แกไปเลยนะ เพราะฉันเสียเวลา ตอนเจอพี่มิคก็อายุ 25 แล้ว ถ้าคุยไม่รู้เรื่องแกไปเลยนะ ฉันจะได้หาคนอื่นทัน ความรู้สึกของผู้หญิงอายุ 25 ถ้าเกิน 30 หาสามีไม่ได้แน่ ๆ แต่นี่ 25 ยังพอมีเวลาหาคนใหม่ ตอนนั้นบอกเลยว่ามีอะไรแกซัดมาเลย ฉันก็จะซัดแกเหมือนกันในเวลาปีครึ่งนี้ ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงเวลานรกเหมือนกันนะ ทั้งหาเรื่องทะเลาะ โวยวาย แหกปาก ยังบอกเขาเลยว่าถ้าทนเราปีครึ่งได้นะ ชีวิตพี่จะไม่เจออะไรเลวร้ายไปกว่านี้แล้ว เพราะเราจะไม่เป็นมากกว่านี้ พอเขาเห็นความชั่วร้ายของเบนซ์ไปหมดแล้ว ทำให้เขารู้สึกว่าเบนซ์ดีขึ้น เราก็รู้สึกเช่นกันว่า เขาก็ดีนะ เขาเป็นคนน่ารัก สุภาพ ไม่เคยหาเรื่องให้เบนซ์ปวดหัวเลย”
คำถาม	แล้วปรับตัวเข้ากันได้ดีหรือยัง?
เบนซ์	“มันก็ต้องปรับไปเรื่อย ๆ นะ บางอย่างที่คิดว่าเข้าใจ บางทีก็ไม่เข้าใจ เพียงแต่ว่าใครจะยอมแค่นั้นเอง พี่มิคไม่ชอบความตรงของเบนซ์ เช่น เวลาเขามีปัญหาอะไร เขาโทรฯ หาเรา เราก็ใส่เขาใหญ่เลยว่าอ้าวก็แกผิด เขาจะรู้สึกว่า อ้าว ทำไมเราไม่เข้าข้างเขาเลย อุตส่าห์โทรฯ มานะ แต่เจอเราด่าซ้ำ ทุกวันนี้ก็ปรับตัวโดยเราจะฟังเขาจนจบ ยังไม่ด่า ให้เขาได้ระบายก่อน ผ่านไปอีกวันค่อยบอกว่าเรื่องที่พี่พูดเมื่อวานมันไม่เวิร์กนะ มันควรจะแบบนี้แบบนั้น”

คำถาม	พี่มิคต้องเป็นฝ่ายยอมเบนซ์หรือเปล่า?
เบนซ์	“เขายอมนะ แต่เขาก็ดื้อ ด้วยความที่แต่ละบ้านเลี้ยงมาไม่เหมือนกัน บ้านเบนซ์ตรง ๆ ผิดปุ๊บ ด่าเลย แต่บ้านพี่มิคไม่ใช่ “ผิดหรือลูก โถ ไม่เป็นไรนะ คราวหน้าเอาใหม่นะลูกนะ” พอมาเจอกัน พี่มิคบอกทำไมแกไม่โอ๋ฉันเลย บางครั้งเขาเล่าเพื่อขอกำลังใจจากเรา ทำให้เบนซ์ต้องปรับตัวเยอะมาก ก็พยายามอยู่ มีปัญหาเรื่องความตรงจัดและการขอกำลังใจนี่แหละ เรื่องอื่น ๆ แทบไม่มีปัญหาเลยค่ะ”
คำถาม	แล้วแม่เบนซ์โอเคกับพี่มิคหรือยัง?
เบนซ์	“แม่โอเคแล้วค่ะ ผู้ใหญ่เขาคงมองอยู่แต่เขาไม่พูด คงเห็นว่าผู้ชายคนหนึ่งไม่เคยทำให้ลูกของเขาเสียใจเลย คือเบนซ์ไม่เคยร้องไห้เลยตั้งแต่ คบกับพี่มิค แม่คงสัมผัสจากลูกตัวเองได้ คงเห็นว่าพี่มิคดูแลเราได้”

คำถาม	วางแผนเรื่องการแต่งงานไว้เมื่อไร?
เบนซ์	“เบนซ์ว่าปีหน้านะ เพราะปีนี้งานเยอะมาก แต่ยังไม่ได้ดูช่วงเวลาพี่มิคคือคนที่ใช่ที่สุดแล้วค่ะ เพราะเขาเข้าใจ ยอม และให้โอกาสตลอดเวลา ไม่เคยทำให้เบนซ์ปวดหัวเลย เบนซ์มองความรักว่า ความรักคือความห่วงใยและเข้าใจกัน ดูแลซึ่งกันและกัน แม้เราจะดูแลตัวเองได้ แต่ถ้ามีคนมาดูแลเราด้วย เราจะรู้สึกดีขึ้นอีกเยอะเลย เบนซ์อาจจะดุ แต่เบนซ์ก็ดูแลพี่มิค มันก็ต้องแลกกันนะ มันอาจจะเป็นข้อเสียของเรา เราก็ต้องเพิ่มข้อดีให้ลบ ข้อเสียนั้นไปให้ได้"
คำถาม	สุดท้ายนี้ฝากอะไรถึงแฟน ๆ หน่อย?
เบนซ์	“ต้องขอขอบคุณจริง ๆ ค่ะ เบนซ์อาจไม่เหมือนนักแสดงคนอื่น คือ ดุหน่อย แฟนคลับที่ใกล้ชิดเบนซ์เขาจะรู้เลยว่าเบนซ์ดุ แต่เบนซ์ก็เป็นคนจริงใจ ขอบคุณที่เข้าใจเรา และขอบคุณที่ติดตามผลงานและข่าวสารเรา ถ้าช่วยแก้ข่าวให้ด้วยก็ดีนะ ขอให้ติดตามผลงานไปเรื่อย ๆ นะคะ” ตลอดเวลาที่นั่งคุยกับเธอต้องบอกว่า แววตาของเธอเปี่ยมไปด้วยความจริงใจจริง ๆ ไม่ได้เป็นการตอบคำถามเพื่อสร้างภาพ แต่ทุกอย่างกลั่นกรองออกมาจากกระบวนความคิดที่ดี ที่สำคัญมันออกมาจาก “ใจ” จริงๆ.