คำถาม |
วางอนาคตในวงการบันเทิงไว้อย่างไร?
|
ออม |
เป็นสิ่งที่ออมคิดมาตลอดทุกปี เป็นสเต็ปว่าปีนี้อยากให้ชีวิตเป็นแบบไหน พอผ่านไป 1 ปี ก็จะมานั่งทบทวนถึงสิ่งที่มันเกิดขึ้นและดูว่าสเต็ปข้างหน้าจะเป็นยังไง สำหรับปีนี้ออมมองว่ามีงานเข้ามาเรื่อย ๆ แต่กำลังมองว่าจะทำยังไงจึงจะได้งานที่มีคุณภาพในทุก ๆ งานที่เราได้ทำ และมองว่าวันหนึ่งถ้าเราเก่งขึ้นและมีศักยภาพพอ เราอาจจะไปต่อยอดที่ต่างประเทศได้แบบแข็งแรง ไม่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ ไม่ใช่แบบว่าไปที่โน่นแล้วคนไทยจะลืมเราหรือเปล่านะ (หัวเราะ)
|
คำถาม |
แบบนี้เรียกว่าโกอินเตอร์ได้ไหม?
|
ออม |
ก็ก้ำกึ่งค่ะ เพราะว่างานที่ไปที่โน่นเป็นงานของคนไทยที่ไปมีชื่อเสียง เรายังไม่ได้ไปร่วมงานของเขาอย่างจริง ๆ จัง ๆ ไม่แน่ปีหน้าอาจจะมีงานที่ร่วมทำกับต่างประเทศ ตอนนั้นอาจจะเรียกว่าโกอินเตอร์แล้วก็ได้ (หัวเราะ)
|
คำถาม |
มีหลักในการเลือกงานอย่างไร?
|
ออม |
ออมในฐานะของนักแสดงอิสระ ไม่ได้มีสังกัด อายุก็ประมาณหนึ่งจัดได้ว่าเป็นนักแสดงรุ่นเด็ก ๆ อยู่ ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะต้องเป็นนางเอกเบอร์ 1 ทุกเรื่อง แต่จะมองที่บทมากกว่าว่าเราอยากเล่นไหม ถ้าเราอ่านบทแล้วเราอยากเล่น เราก็จะเล่นเลย ไม่ว่าจะเป็นนางเอกตัวรอง หรือจะเป็นตัวร้ายก็ตาม มันท้าทายในเรื่องของการที่เราได้เปลี่ยนตัวเอง ได้พัฒนาตัวเอง ไม่ได้ยึดติดว่าจะต้องเป็นนางเอกตลอด ช่วงแรก ๆ ก็อยากมีสังกัด นะคะ เพราะเรารู้สึกว่าเป็นเหมือนบ้าน แต่หลัง ๆ เรารู้จักตัวเองดี เรารู้ว่าเรามีความดื้อประมาณไหน ถ้ามีสังกัดแล้วต้องทำในสิ่งที่เราไม่อยากทำ มันก็ไม่เวิร์กแล้ว มันจะไม่มีความสุขในการทำงาน แต่ถ้าอิสระเรามีสิทธิที่จะเลือกทำหรือไม่ทำก็ได้โดยที่ไม่มีใครเดือดร้อน เลยคิดว่ามันน่าจะอยู่ที่ตัวเราเองมากกว่า ถ้าเราพัฒนาฝีมือดี ๆ เขาก็อยากจะใช้งานเราค่ะ อย่างเรื่อง “รักนี้ชั่วนิจนิรันดร์” มันเป็นความโชคดีของออมมากกว่าที่ได้รับบทนางเอก สำหรับเรื่องนี้บทดีด้วย และประสบความสำเร็จมาจากเกาหลี ที่สำคัญได้เล่นกับ พี่ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ด้วย
|