ถาม

เอ๊ะ

ดีใจมากที่ทางผู้ใหญ่หยิบยื่นโอกาสให้เล่นละครอิงประวัติศาสตร์ ในเรื่องนี้รับบทเป็น พระสุพรรณกัลยา เรื่องนี้เป็นละครร้องสลับรำ เป็นสิ่งที่ใหม่ที่สุดสำหรับเรา และยากที่สุดในชีวิตการแสดง เพราะคำพูดทุกอย่างเป็นคำกลอนหมด ถ้าเราพูดไม่ลงตามที่กำหนดไว้ คนอื่นก็จะต่อไม่ได้ ต้องเป๊ะมาก รวมไปถึงต้องรำด้วย หลายคนอาจจะมองว่าเป็นนักร้องมาคงต้องช่วยได้บ้างแหละ ไม่จริงเลย อาจจะช่วยได้นิดหน่อยในเรื่องของเข้าใจโน้ตเพลง แต่กว่าจะร้องได้นานมากนะ เหมือนนับหนึ่งใหม่ เพราะคนละศาสตร์กับการร้องเพลงป๊อป กิริยาท่าทางในการเคลื่อนไหวต้องตรงตามที่ครูสอน เราไม่สามารถคิดเองได้ เรื่องรำที่ผ่านมาเอ๊ะก็เคยรำตอนเรียนนะ แต่เป็นตัวพระตลอด พอมาเรื่องนี้ต้องเล่นเป็นตัวนาง ต้องอ่อนช้อยและมีความเข้มแข็งอยู่ข้างใน ก็ยากแต่สนุกและมีความสุขที่ได้ทำ ถามว่าคาดหวังมากแค่ไหน ก็อยากให้มีคนไปดูนะ หลังจากที่มีข่าวออกมาว่ามีละครเวทีเรื่องนี้ บัตรเต็มไป 2-3 รอบแล้ว ก็เหลืออีกไม่กี่รอบ เอ๊ะไม่อยากให้ความสวยงามแบบไทย ๆ นี้หายไป อยากคนรุ่นใหม่หันมาให้ความสำคัญกัน

นอกจากนี้เป็นพิธีกรรายการ "นารีโซไซตี้"

เป็นรายการผู้หญิงที่เม้าท์มาก เป็นพิธีกรคู่กับ นุ้ย-สุจิรา ถึงจะมีเสียงหัวเราะ แต่เราก็สอดแทรกสาระนะ มีครบทุกรส ตั้งแต่เรื่องทุกมุมโลก,แฟชั่น และ การเตือนภัยผู้หญิง เป็นรายการที่ให้ความรู้กับผู้หญิง งานพิธีกรเป็นงานแรกในวงการของเอ๊ะ ตอนนั้นเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปี 4 แต่ภาพเราจะไปหนักทางนักร้องมากกว่า

แล้วก็มีร้าน "ทูดาริ" สาขา สยามพารากอนด้วย

ใช่ค่ะ สาขาทองหล่อ เริ่มอยู่ตัวแล้ว กระแสตอบรับดีมาก ตอนนี้ก็ขยับขยายเปิดที่ชั้น 4 โซนฟู้ด พาสซาจ สยามพารากอน ที่นี่เปิดมาได้ 2 วัน ก็ขายดีเลยนะ ตอนแรกเราคิดว่าเปิดที่ชั้น 4 จะต้องใช้เวลากว่าคนจะรู้ว่าชั้น 4 มีอาหาร แต่ปรากฏว่าแน่น ช่วงเย็นต่อคิวตลอด และภายในปีนี้จะเปิดที่เซ็นทรัลลาดพร้าว และ เซ็นทรัล เวิร์ด ด้วย

งานหลักตอนนี้คือธุรกิจร้านอาหาร

ใช่ แต่งานในวงการก็ยังทำอยู่ แต่คงเป็นงานอดิเรก ตอนนี้หลัก ๆ จะทุ่มให้กับ การซ้อมละครเวที และ “ทูดาริ” เอ๊ะเบนมาทำธุรกิจเต็มตัวแล้ว คงถึงเวลาแล้วมั้ง ย้อนกลับไปเมื่อ 12 ปีที่แล้ว เอ๊ะไม่คิดว่าจะอยู่งานในวงการบันเทิงนานขนาดนี้ กะว่าจะทำแค่ 1-2 ปี แล้วกลับมาทำงานที่บ้าน แต่ด้วยความที่มันมีอะไรให้เราทำต่อเนื่องมาตลอด เอ๊ะเลยทำยาวมาจนถึงขนาดนี้ แต่ในท้ายที่สุดก็ต้องกลับมาทำธุรกิจของครอบครัว

มันแน่นอนอยู่แล้ว แค่เอ๊ะอยู่ในวงการมาได้ 12 ปี แล้วก็ยังมีงานอยู่เรื่อย ๆ เราก็แฮปปี้แล้วนะ เราก็ยังทำงานในวงการบันเทิงอยู่ เราก็ต้องแบ่งเวลาในการทำงานบันเทิงและธุรกิจทางบ้านให้ดี เนื่องจากตอนนี้เราก็รับเงินเดือนจากทางบ้าน เราก็ต้องทำให้เต็มที่ งานบันเทิงก็เป็นเหมือนงานที่ทำให้เราได้คลายเครียด เพราะเป็นสิ่งที่เราชอบและถนัดมานานแล้ว

ล่าสุดเป็นโสดไม่ทันไร ก็มีข่าวกับนักธุรกิจร้านไวน์ออกมา

อย่าไปยุ่งกับเขาเลย จะพูดถึงข่าวเอ๊ะและเจมส์ จะลงยังไงก็ไม่ว่า แต่การนำบุคคลที่ 3 ซึ่งเขาไม่ได้เกี่ยวข้องและไม่ได้เป็นคนในวงการบันเทิงมาใส่ไว้ในข่าวของเรา ด้วย มันไม่ได้เป็นผลดีกับใคร เอ๊ะเองก็เกรงใจเขามาก เพราะเขาก็เป็นคน ๆ หนึ่งที่ทำธุรกิจของเขา โดยที่เขาไม่ได้คิดว่าอยู่ดี ๆ จะมีชื่อหรือมีหน้าของเขามาปรากฏบนหน้าหนังสือ

ใช่ เอ๊ะสั่งซื้อไวน์จากเขา ฉะนั้นคงไม่แปลกที่จะคุยหรือติดต่อสื่อสารกัน ในแวดวงเพื่อน ๆ ก็ใกล้ ๆ กัน บางครั้งก็อาจจะมีคนเห็นว่าเราไปอยู่สถานที่เดียวกัน เอ๊ะว่ามันก็น่าเป็นไปได้ ก็อาจจะทำให้คนคิดได้ เอ๊ะว่าสื่อก็ชอบ คนอ่านก็ชอบ ตามสไตล์นางแบบกับไฮโซ เป็นกระแสของช่วงนี้ คงกลัวเราหลุดกระแสมั้ง เลยจับเราเข้าไปอยู่ในกระแสด้วย

ซีเรียสมั้ย เพราะเอ๊ะกับเจมส์ก็เพิ่งแถลงข่าวเลิกกัน

ซีเรียสค่ะ ไม่มีใครสบายใจและอยากเป็นข่าว ทุกคนเพิ่งจะรับรู้ว่าเราเพิ่งจะเลิกกัน แล้วอยู่ดี ๆ เอ๊ะก็มีใหม่ทันที มันก็โหดไปนิดนึง ลองคิดดูแล้วกันว่า 12 ปีที่ผ่านมาที่อยู่ในวงการบันเทิง ไม่เคยมีเรื่องเสียหาย มันก็กระทบภาพดี ๆ ที่เราสร้างมา แต่สิ่งที่เราสร้างมาตลอด 12 ปี คงไม่ได้โดนทำลายด้วยข่าว ๆ เดียว ก็ดูกันไปยาว ๆ แล้วกัน

เป็นแค่คู่ค้าและเพื่อน เราเพิ่งรู้จักกัน ถามว่ามีโอกาสพัฒนามั้ย ตอบไม่ได้ เพราะเอ๊ะเพิ่งจะรู้จักเขาจริง ๆ มันตอบอะไรไม่ได้ เอ๊ะยังไม่รู้อะไรเลย ยังไม่รู้จักกันมากพอว่าวันข้างหน้าจะเป็นอะไร

เจมส์มีถามเรื่องนี้บ้างมั้ย

เขาบีบีมาถาม เราก็อธิบายให้เขาฟังว่าคืออะไร เขาก็เข้าใจ มันก็ไม่มีอะไรจริง ๆ ยังโสดร้อยเปอร์เซ็นต์ ยังคุยกันอยู่เลยว่าเป็นยังไงบ้าง ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกัน

หลังจากมีแฟนมา 12 ปี พอวันนี้ต้องมาโสดเป็นอย่างไรบ้าง

มันก็มีเหงาบ้าง แต่บางวูบก็รู้สึกดี มีอิสระ อยากทำอะไรกับเพื่อนก็ทำ มันก็มีหลาย ๆ ความรู้สึก ตอนนี้เราก็อยู่กับเพื่อนมากขึ้น จากแต่ก่อนที่โลกนี้มีเพียงเรา 2 คน

วันที่แถลงข่าว เอ๊ะหน้าตายิ้มแย้มเหมือนคนไม่เป็นไร คบกันมาก็นาน พอต้องเลิกกันเหมือนฝันทลายลงมั้ย

จริง ๆ ไม่ได้ตั้งใจออกมาแถลงข่าวเร็วขนาดนี้ เพราะไม่ได้แข็งแรงร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่วันรุ่งขึ้นเรามีบวงสรวงละครเวที “สมเด็จพระนเรศวรมหาราช” เอ๊ะไม่อยากให้ข้อความที่ออกมาเป็นเรื่องเอ๊ะ-เจมส์ ไม่ใช่เรื่องบวงสรวงละคร เอ๊ะเลยตัดสินในมาพูดให้จบก่อน (เงียบสักพัก) มันไม่ได้ง่ายอย่างที่ทุกคนเห็นหรอก

ชีวิตตอนนี้เปลี่ยนไปเยอะมั้ย

ไม่เยอะนะ เพราะก่อนหน้านี้ต่างคนต่างยุ่ง ไม่ค่อยได้เจอกันอยู่แล้ว เราห่างกันมาประมาณหนึ่ง แต่เราไม่อยากจะมาพูด อยากรอดูความรู้สึกของเรา 2 คนว่าเป็นอย่างไร แต่เวลาไปเจอพี่ ๆ สื่อก็ต้องบอกว่ายังดีกันอยู่ มันก็เหมือนฝืนความรู้สึกตัวเองว่าจริง ๆ มันไม่ดีแล้วนี่ เลยคิดว่าเราควรจะออกมาพูดตามความรู้สึกจริง ๆ ที่เกิดขึ้นน่าจะดีกว่า

โสดโค้งสุดท้ายมีหวั่น ๆ บ้างหรือเปล่า

(หัวเราะ)ก่อนหน้าที่จะเลิกไม่เลิกก็กลัวเรื่องโสดนะ แต่ ณ วันที่ตัดสินใจ เราก็บอกตัวเองว่าพร้อมที่จะเป็นโสด ถึงจะไม่มีใครเราก็ต้องยืนด้วยตัวเองได้  ถามว่าเอ๊ะเข้มแข็งมั้ย อาจจะเป็นเพราะช่วงนี้เรายุ่งมาก ทุกวันมีอะไรให้ทำไม่หยุด ถ้าไม่มีงานคงจะง่อยเหมือนกัน เอ๊ะไม่กลัวว่าโสดหรือไม่โสด ยังไงเราก็ยังมีครอบครัวที่อยู่กับเราตลอด ไม่เคยรู้สึกว่าเราอยู่ตัวคนเดียว หลังจากนี้ถ้าไม่มีคนเข้ามาก็ไม่เป็นไร

ทั้งเอ๊ะและเจมส์คุยกันว่าต่างคนต่างต้องเปิดเพื่อที่จะก้าวออกไป จะให้รออะไรล่ะ ถ้ามีใครที่ดีเข้ามาก็รีบพิจารณา ไม่ใช่เจอกัน 3-5 เดือนก็รีบแต่ง การที่เรารีบด่วนสรุปอาจจะทำให้พลาดก็ได้ เอ๊ะไม่เข็ดกับการที่ดูคน ๆ หนึ่งนาน ๆ ความที่เราอยู่ในความสัมพันธ์มานาน ทำให้เรารู้ว่าเราต้องการอะไร และเราพลาดอะไร ผู้ชายที่เราต้องการเป็นยังไง ภาพทุกอย่างมันชัดขึ้นกว่าวันก่อน ๆ ที่เรายังเด็ก

ตอนนี้เอ๊ะต้องการคนยังไง

ไม่รู้ซิ มันไม่ได้มีสเปกที่แน่นอน เวลาเข้ามาแล้วพูดคุยกันมันจะรู้เองโดยธรรมชาติ คงคอนเซ็ปต์เดิมไม่รีบ แต่คงไม่รอถึง 12 ปีแล้ว(หัวเราะ)  คือ ไม่รีบ แต่ก็ไม่ดึงเวลาให้นาน ณ วันนี้เอ๊ะแฮปปี้ มันอยู่ที่ว่าเรามองชีวิตยังไง ถ้ามัวแต่ทุกข์เราก็ทุกข์ แต่ถ้าเรามองว่าเหมือนเป็นการเริ่มต้นใหม่ มันก็มีสิ่งที่ดีอยู่ในนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นก็ทำให้เราเห็นข้อผิดพลาดของตัวเอง