ถาม

พิ้งกี้

รู้สึกว่าภูมิใจและปลาบปลื้มยินดี เราไม่เคยเห็นเราในจอเงินพูดภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาไทย ภาพและเสียงคมชัดมาก วันนั้นพิ้งกี้นิ่งแบบดีใจ เรานั่งน้ำตาไหลอยู่เงียบ ๆ ในโรงภาพยนตร์ มันซึ้งมาก คนให้การต้อนรับเหนือความคาดหมาย ประชาชนและสื่อให้เกียรติเรา กี้ได้เห็นแง่มุมการทำงานอีกแบบหนึ่ง พิธีเปิดไม่เหมือนบ้านเราเลย ดูเป็นทางการนิดนึง แต่นี่แค่แถลงข่าวเปิดตัวว่าจะมีหนังเรื่องนี้เข้าฉายนะ ฉายแค่ตัวอย่างหนังเท่านั้น ยังไม่เปิดตัวเป็นทางการรอบินไปเปิดตัวอีกทีวันที่ 15 ก.ค.

ถาม

พิ้งกี้

ไม่รู้ซิ เขาให้การต้อนรับดีมาก อย่างบ้านเราถ้าเป็นดาราใหม่คนก็จะไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าไหร่ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมที่นั่นถึงได้ให้ความสนใจกับหนังมากขนาดนี้ แต่ ซัลมาน ข่าน ดาราชื่อดังของที่นั่น บอกว่าตอนที่กี้พูดความรู้สึกบนเวทีจบ เขาพูดว่าเขาสัมผัสได้ว่าเราพูดออกมาจากใจ กี้เลยรู้สึกว่าเขาดีมากให้กำลังใจนักแสดงรุ่นใหม่ทั้ง ๆ ที่เราเป็นคนไทย คนละเชื้อชาติกับเขา เขาไม่จำเป็นต้องมาพูดให้การต้อนรับเราดีแบบนี้ก็ได้ เขายังพูดอีกว่า “เวลคัม ทู บอลลีวู้ด”

ปกติพิ้งกี้จะไม่ใส่ทูพีซถ่ายหนังหรือถ่ายแบบในเมืองไทย แต่ทำไมเราถึงกล้าใส่เล่นหนังอินเดีย

เป็นประเด็นเลย มันเป็นฉากที่เปิดตัวนางเอก ตอนแรกกี้ยอมรับว่าหนักใจนะ เพราะเราไม่เคยใส่ ชุดทูพีซแบบนี้ เราก็ไปบอกลิมิตในการถ่ายกับเขา เขาก็บอกว่าไม่ต้องห่วง เขาไม่ให้นางเอกของเขา ออกมาน่าเกลียดและเขาก็ไม่ต้องการโชว์เซ็กซี่ เขาแค่อยากให้เห็นว่าเราเป็นคนมั่นใจ เป็นคนอเมริกัน ภาพออกมาแค่ 10-15 วินาที แต่เนื่องด้วยพิ้งกี้ไม่เคยใส่ทูพีซ คนก็เลยฮือฮา แต่จริง ๆ ก็ธรรมดาไม่มีอะไรให้ฮือฮามากนัก (หัวเราะ) นี่ยังไม่ได้ดูหนังเต็ม ๆ เลย ต้องไปรอดูวันฉายเต็มอีกที

ก่อนหน้านี้หนังยังไม่ได้ฉาย พิ้งกี้ก็เจอกระแสต่าง ๆ หาว่าเป็น "นาธาน 2"

ตอนนั้นเราก็กดดันนะ เพราะเราทำงานหนัก แต่ไม่มีใครเชื่อ เราต้องไปเต้นฝุ่นตลบบนเขาทั้ง ๆ ที่เรามีประจำเดือนด้วย ทั้งเหนื่อยและปวดท้อง แต่คนกลับมานั่งมองอย่างเดียวว่าเราโกหกหรือเปล่า เราก็คิดว่าไม่เป็นไร เขาอาจจะไม่รู้ และเขาเองก็มีสิทธิที่จะคิดว่าเราโกหกก็ได้ กี้เลยรอให้เขาเห็นผลงานดีกว่า

ตอนนี้มีหนังหรือผลงานอื่น ๆ ติดต่อเข้ามาบ้างหรือยัง

รอภาพยนตร์ฉายก่อน แต่เห็นคุณแม่บอกว่าก็มีผู้สร้างหนังหลายคนโทรฯ สอบถามจากเลขาฯ ผู้กำกับหนังที่พิ้งกี้เล่นอยู่เรื่อย ๆ หลังจากที่ได้เห็นตัวอย่างหนัง เขาอยากรู้ว่าเราเป็นใครมาจากไหน ตรงนี้เป็นจุดเริ่มต้นใหม่สำหรับพิ้งกี้ในการทำงานที่นั่น แต่ตอนนี้ผู้กำกับที่พิ้งกี้ร่วมงานด้วย ไม่อยากเปิดตัวกี้มาก เขาขอร้องแม่ว่าอย่าเพิ่งรับงานอะไรให้กี้ทั้งนั้น รอให้หนังของเขาเปิดตัวไปก่อน ก็คิดว่าเส้นทางในการทำงานที่นั่นน่าจะมีอะไรให้เราทำได้เยอะ

ทางเมืองไทยแม่ของกี้อยากให้รับหลังเดือน ก.ค. มากกว่า เพราะเรามีคิวต้องทำงานที่อินเดีย ผู้ใหญ่ยังให้โอกาสเราทำงาน กี้ก็พร้อมทำเต็มที่ เพราะเป็นอาชีพของเรา เรายังเป็นนักแสดงของไทยอยู่ จริง ๆ ผู้ใหญ่หลาย ๆ ท่านอย่าง พี่ตุ๊กตา-จิตรลดา กันตนา หรือ พี่ปิ่น-ณัฏฐนันท์ ทีวีซีน ก็อยากให้เรา กลับไปเล่นละคร แต่จังหวะของกี้พอมีอะไรดี ๆ เข้ามาก็จะมีปัญหา ผู้ใหญ่ก็อยากให้ทุกอย่างนิ่ง และจบไปก่อน กี้เองก็มีงานอื่น ๆ ที่ไม่ใช่งานแสดงอย่างเดียว กำลังทำเพลงกับค่าย ๆ หนึ่ง ขอไม่บอกรายละเอียดมากอุบไว้ก่อน

จากคนที่ทำงานตั้งแต่เด็กมาตลอด พอต้องนิ่ง ๆ มีงานน้อยลงเป็นอย่างไรบ้าง

ก็ต้องขอบคุณเบื้องบนที่ให้เราได้พัก (ยิ้ม) กี้ทำงานตั้งแต่ 7 ขวบ เป็นเหมือนเครื่องจักร บางทีก็มี อ่อนแอบ้าง การได้พักผ่อนบ้างก็ทำให้เราได้ชาร์จแบตเตอรี่ได้เต็มที่ การได้พัก 2-3 เดือนก็อาจจะนาน แต่ก็ดีที่เราได้พัก เพราะเราได้ทำอะไรที่เราอยากทำ ก็มองในแง่ดีดีกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องจังหวะชีวิต

ของกี้คงฟาดเคราะห์ไปล่วงหน้าแล้วมั้ง กี้พยายามกตัญญูกับพ่อแม่ให้มากที่สุด กี้ว่ากรรมหรืออะไร เราคงหลีกหนีไม่พ้น แต่สิ่งดี ๆ คงจะรอเราอยู่ไม่ช้าก็เร็ว อุปสรรคมีไว้ให้ฝ่าฟัน ต้องเอาแรงกายแรงใจ ไปทุ่มกับงานที่เราต้องเจอในอนาคตดีกว่า เพราะการทำงานที่อินเดียค่อนข้างหนักมาก อย่างพี่ ๆ สื่อที่ไปร่วมงานที่นั่นยังบอกว่าเลยกี้ทนได้ยังไงลำบากมาก เราต้องไปปรับตัวใหม่เยอะทั้งเรื่องภาษา และวัฒนธรรม ถือว่าเป็นกำไรชีวิตแล้วกัน

สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเคยคิดมั้ยว่าจะส่งผลกระทบต่อชีวิตขนาดนี้

เราไม่เคยคิด แต่มันส่งผลกระทบมาก เป็น เดอะ ซีรีส์ ไม่ใช่เรื่องแค่คนไม่กี่คน แต่กลายเป็นเรื่องราว มีใครก็ไม่รู้มาเกี่ยว มันควรจะผ่านไปได้แล้ว และอยู่ในส่วนของแต่ละคนดีกว่า เราก็จะมีความสุข

แฟนคลับค่ะ เหนียวแน่นมาก อย่างตอนนี้มีแฟนคลับชาวจีนด้วย เขาบินมาหากี้ 3 ครั้งแล้ว แต่ 2 ครั้งแรกไม่ได้เจอกัน เพราะกี้ติดงาน แต่ครั้งที่ 3 ได้เจอกัน เขาเห็นผลงานละคร “เจ้าหญิงลำซิ่ง” และ “วงเวียนหัวใจ” เขาน่ารักมาก เขาบอกว่าไม่ว่าจะมีข่าวอะไร เขาก็จะยังรอคอยและสนับสนุนกี้เสมอ ถ้ามีโอกาสก็อยากไปเจอกับพวกเขา ส่วนแฟนคลับชาวไทยก็น่ารัก ตอนวันเกิดก็ถือเค้กมาเบิร์ธเดย์ ส่วนแฟนละครทั่วไป อย่างเวลาไปตลาด ป้า ๆ พี่ ๆ แม่ค้าหลายคนก็เข้ามากอดและบอกว่า ยังรอดูงานละครเราอยู่นะ

ล่าสุดที่พิ้งกี้ออกมาเจาะเลือดพิสูจน์ว่าไม่ท้อง หลายคนมองว่าทำไมต้องทำแบบนั้น ถ้าไม่ได้ทำก็เงียบ ๆ ไปไม่ดีกว่าเหรอ

มันมีหลายความคิดนะ ถ้ากี้ไปแถลงข่าวที่อินเดียก่อน แล้วค่อยกลับมาแถลงข่าวนี้ทีหลัง คนก็จะหาว่าเราไปทำแท้งที่นั่น หรือถ้ากี้ไม่แถลงก็จะหาว่ากี้ท้องแน่ ๆ ในเมื่อเราไม่ได้ท้องก็ต้องแถลง ขนาดเราไปเจาะเลือดตรวจปัสสาวะ คนยังหาว่าเราเอาเลือดหรือปัสสาวะไปเปลี่ยนแน่เลย กี้ก็ถือว่าเราทำดีที่สุดแล้ว จริง ๆ ตอนแรกที่เห็นข่าวกี้ขำนะ ก็คิดว่าเราไม่ได้ทำจะไปแถลงข่าวทำไม แต่พี่นักข่าวก็โทรฯ หาเยอะเลยคิดว่าไม่แถลงไม่ได้แล้ว เดี๋ยวเราจะเสียชื่อ เพราะเราต้องเดินทาง ไปทำงาน ไม่อยากให้มีข่าวนี้ติดไปที่โน่น ไม่อยากให้ข่าวมีผลกระทบกับงาน

ฝ่าย ธัญญ่า-ธัญญเรศ และ เป็ก-สัณชัย ครอบครัวของเขาถึงจุดแตกหักแล้ว ทำให้คนมองว่าเราเป็นมือที่ 3 รู้สึกยังไงบ้าง

เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน กี้ไม่อยากฟื้นฝอยหาตะเข็บอีก เป็นเรื่องของเขา ไม่มีอะไรจะชี้แจง เดี๋ยวจะเป็นประเด็นอีก

กับทาง เป็ก-สัณชัย ก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย

ไม่เลยค่ะ ตอนนี้กี้ขอทำงานอย่างเดียวดีกว่า

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้อยากกลับไปแก้ไขอะไรมั้ย

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ก็อยากให้มีแต่เรื่องดี ๆ เกิดขึ้น อยากให้มีแต่เรื่องถ่ายหนังทำงาน แต่ชีวิตเราถูกกำหนดโดยเบื้องบน ทุกวันนี้ก็ขอแค่ให้เรามีความสุขก็พอแล้ว

รักไม่ยุ่ง มุ่งแต่งาน แม่ไม่อยากให้ใครเข้ามาแทรกแซง เราเสียเวลากับเรื่องอื่น ๆ มาเยอะแล้ว กี้ว่าถ้ามาก็คงมาเอง ตอนนี้ขอให้ปัญหาผ่านไปก่อนดีกว่า ถ้าเข้ามาตอนนี้ต้องวุ่นวายแน่ ๆ และช่วงนี้กี้ก็ไม่ค่อยได้ออกไปไหน ไม่มีโอกาสเจอใคร อีกอย่างจิตใจตอนนี้ไม่อยากพูดถึงความรัก แต่บางทีก็อยากมีเพราะหัวใจจะได้กระชุ่มกระชวย

คนที่จะเข้ามาตอนนี้ต้องการคนแบบไหน

กี้ต้องการคนที่อยู่ใกล้แล้วมีความสุข ไม่รำคาญ ต้องมีความรับผิดชอบ และถ้ารักแม่และครอบครัว ของเราด้วยก็น่าจะดี แค่นี้ก็มีความสุขแล้วค่ะ