ถาม

มีเรื่อง 'ดอกส้มสีทอง' ที่กำลังถ่ายทำอยู่ ก็เป็นอีกเรื่องที่ชมคิดว่า เป็นมาสเตอร์พีซของชม แล้วก็ 'เมียแต่ง' เล่นกับ พี่โฬม-พัชฏะ และ พี่เบนซ์-พรชิตา

เบียดเสียดกันเลย ถ่ายละคร 2 เรื่อง 7 วัน มีงานอีเว้นต์ งานโรดโชว์ ที่เราเป็นพรีเซ็นเตอร์อีก

มีฟิตเน่ , ลอรีอัล , มิสทีน แล้วก็มีตัวใหม่อีก 2-3 ตัว มีซื้อหนังโฆษณา เดิมออนแอร์ต่อก็มี

เรื่องเรียนปริญญาโทยังเรียนต่ออยู่มั้ย ?

ก็เรื่อยๆ จะให้ดังเปรี้ยงปร้างเหมือนตอนแรกๆก็คงจะเป็นไปไม่ได้ ตอนนี้ชมได้เป็นผู้จัดจำหน่าย ก็สบายหน่อย คือใครจะขายตุ๊กตาบลายธ์ ก็จะซื้อลิขสิทธิ์จากเรา เราเป้นตัวแทยจำหน่ายในประเทศไทย ทำให้สามารถควบคุมตลาดได้มากขึ้น

ก็ไปเที่ยวด้วยกันมา แต่ยังไม่ได้ขอแต่งงานหรอก (หัวเราะ) ขอแต่งงานคืออะไร สำหรับชมการขอแต่งงานคือคุกเข่า ยื่นแหวน แล้วขอแต่งงาน

คบกันอย่างไร ?

คือชมไม่พูดอะไรมาก เรามาตัวคนเดียว ทุกวันนี้มีความสุขด้วยกันดี ชมไม่อยากให้ใครเข้าใจว่า ต่อจากนี้ไปฉันจะพึ่งเธอ คือเราสามารถอยู่ ตัวคนเดียวได้ ชมไม่ได้คบกันเพื่อพึ่งเขาเราก็ใช้ความคิดอย่างไม่ประมาท

ห่างกัน 6 ปี ก็กำลังดี

มีหมอดูบอกว่าปีชมกับคุณน็อตตรงกัน ห้ามทำธุรกิจร่วมกัน แต่จริงๆเ ขาอยากให้ชมทำในสิ่งที่ชมรัก เขาจะให้คำปรึกษา แต่ชมไม่อยากทำธุรกิจ ร่วมกัน ถ้าชมทำต้องไม่มีเขา เพราะชมไม่อยากทะเลาะกัน คือปรึกษากัน แบบกลายๆ สมมติเราเจ๊ง ก็ไม่ต้องมาบอกว่า นี่ไงฉันบอกเธอแล้ว อะไรแบบนี้

พ่อกับแม่ชมยังไงกับน็อตบ้าง ?

ชมคิดว่าชมไม่ได้เป็นซูเปอร์สตาร์ ซูเปอร์สตาร์ ก็คือพี่เบิร์ด ชมว่าตอนนี้ ชมมาไกลกว่าที่คิดไว้มาก ชมมาถึงตรงนี้ช้ากว่าคนอื่น ต้องใช้เวลานาน กว่าคนอื่น ตอนนี้ชมก็พอใจแล้ว ก็รักษาคุณภาพ ไม่ประมาท รู้จักประเมิณตัวเอง ไม่สูงไป ต่ำไป มองตัวเองเป็นสินค้าที่อยู่ในตลาด ว่าต้องไปยังไง ไม่ติสท์แตก รู้ว่าช่วงไหนต้องทำยังไง

ไม่ค่ะ เพราะเขาเป็นนักธุรกิจ ถ้าทำแบบนี้ภาพลักษณ์ธุรกิจที่สร้างมา หลายสิบปีจะหายไปหมด ต้องยอมรับว่ามีคนติดต่อเข้ามาเยอะมาก บางรายใช้ความสนิทมาชวนไป มีงานหนึ่ง คุณน็อตพูดว่าถ้าว่างจะแวะไป เขาก็เอาไปเขียนแฟ๊กซ์ส่งข่าวเลย เจอแบบนี้มาคุณน็อตเขาต้องระวังมากขึ้น

ชมว่าเรื่องนี้เป็นมุมมองของแต่ละคน แต่ชมกับคุณน็อตคิดแบบเดียวกัน คือจะไม่รับงานอีเว้นท์ด้วยกันแน่นอน นอกจากไปงานของคนสนิทจริงๆ