ถาม

ขอบคุณครับ ก็สำหรับชีวิตตอนนี้อยากจะบอกว่า มีความสุขดีครับ แล้วก็ได้ ทำงานที่เรารัก ได้เจอผู้คนที่น่ารัก ไม่ว่าจะเป็นพี่ๆ ทุกคนที่ผ่านเข้ามา ในชีวิตน้องๆ แฟนคลับ รวมถึงเราได้อยู่กับคนที่เรารัก ภรรยาของผม ลูกน้อยของผม แล้วก็ที่กำลังจะเกิดขึ้นมาอีกหนึ่งชีวิต ผมเชื่อว่าสิ่ง มหัศจรรย์ที่สุดของโลกนี้ก็คือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นมา ซึ่งก็คือลูกน้อยของผม อยากจะบอกว่มันก็คงไม่มีอะไรดีใจไปกว่าการที่เราได้มีอะไรครบในโลกนี้ อยากจะบอกว่าขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ ให้ความรัก เป็นห่วงทุกอย่าง ในโลกนี้ สิ่งที่ดีก็คือ ความรักจริงๆ  อยากจะให้ความรักกับทุกคนกลับไป ให้มากที่สุด ทำให้ดีที่สุด นะครับ ขอให้ทุกคนมีความสุขไปกับผม ผมก็อยากให้ทุกคนมีความสุขเหมือนที่ผมได้สัมผัส คืออย่างที่ผมพูดไป ทั้งหมด คือในชีวิตนี้ผมก็ไม่รู้ว่ายังต้องการอะไรอีกแล้วในเมื่อมันได้ ขนาดนี้แล้ว นี่แหละครับคือสิ่งที่ดีที่สุด ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพื่อวันข้างหน้า รออยู่ อยากเห็นอนาคตของลูกน้อยของผม อยากเห็นความสวยงาม ในชีวิตเขา อยากเห็นว่า เขาโตขึ้นมาแล้วเขาจะเป็นอะไร นั่นแหละครับ เป็นมุมมองที่ผมว่าวิเศษที่สุดแล้ว

ตอนนี้มีภาพยนตร์เรื่องใหม่เป็น เท่งโหน่งจีวรบิน เป็นหนังคอมิดี้ด้วยพูดถึงบทที่ได้รับ

ใน “เท่งโหน่งจีวรบิน” บทแบบนี้ ลุคส์แบบนี้ คาแรคเตอร์ที่เป็น ผู้ร้ายเต็มๆ ตัวของ สมชาย ตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่ค่อยได้เห็น มาก่อน

เป็นหนังคอมิดี้ที่ถูกบังคับว่าทุกคนขำได้หมดยกเว้นเต๋า สมชาย

(หัวเราะ) ครับ ยกเว้นผม โดยส่วนตัวเวลาที่เราทำการแสดงกัน เราก็บอก เฮ้ยพี่ ให้ผมเล่นตลกมั้งซิ พวกพี่จะขำอะไรกันขนาดนี้ เพลาๆ กันบ้างพี่ แล้วพอผมจะขอเล่น อย่าอย่าอย่า เต๋าเดี๋ยวเสียลุคส์ เสียลุคส์ตรงไหนพี่ ผมว่าอย่างนี้มันไม่มีอะไรที่มันเสียลุคส์แล้วพี่ ผมขอเล่นมั้งซิ พี่เท่งบอก ไม่ให้เล่น แต่ต้องดูกันนะครับ เพราะว่าบอกหมดไม่ได้เดี๋ยวหนังจบ

ครับก็ถือได้ว่าเป็นรูปแบบใหม่ของเท่งโหน่งจีวรบินสำหรับเรื่องนี้ ตอนที่พี่เท่งเขาบอกว่า เขาทำบทพัฒนาบทขึ้นมา ตัวนี้ ที่เขาพูดขึ้นมา นะครับ ว่าเขานึกถึงผมตั้งแต่แรก แล้วก็ได้คุยกัน แล้วตัวผมเองก็ไม่ได้เล่น หนังคอมิดี้มานานมาก เพราะในช่วงหลังมาก็จะเล่นหนังอย่างโอปปาติกะ แล้วก็มานาคปรก ซึ่งยังไม่มีหนังคอมิดี้ ก็จะเป็นดราม่า ดราม่าแอ็คชั่น มีแต่เนกาตีฟ ยังไม่มีโพสิตีฟ หรือคอมิดี้เลย ก็รู้สึกว่าวันหนึ่งเราน่าจะมี คอมิดี้บ้าง เพื่อให้รู้สึกว่ามีอะไรที่แตกต่าง มันเป็นกำไรของคนดูที่จะได้เห็น ในรูปแบบต่างๆบ้าง เราก็คิดว่าจะได้เล่นอะไรที่มันตลกเต็มตัว แต่ก็อดอีก

แต่สำหรับใกล้ชิดที่รู้จัก เต๋า สมชายจริงๆ จะรู้ว่า เต๋าเป็นคนมีอารมณ์ขันอยู่ในตัว ขี้เล่น

ก็คือ อย่างหนังที่เราถ่ายกันไปแล้ว ผมก็รู้ว่าเดี๋ยวผมต้องเล่นแบบนี้ คาแรคเตอร์เป็นแบบนี้ แสดงแบบนี้ (โหดเข้ม)  แต่ผมขอแสดงแบบนี้ ไปก่อน ได้ไหม (คอมิดี้) หรือหลังจากเราถ่ายเสร็จคัทนี้กันไปแล้ว ผมขอเล่นในแบบที่ ผมอยากเล่นได้ไหม (หัวเราะ) เล่นเป็นแบบคอมิดี้ เล่นเป็นตลก เล่นในแบบที่ ไว้ดูเองในห้องตัดได้ไหม (หัวเราะ) มันต้องมีบ้าง แต่ทั้งหมดทั้งมวล อยากจะบอกว่ามีความสุขมากที่ได้มา ร่วมงานกับพี่เท่งพี่โหน่ง ได้มาเจอกับพี่ๆ ทีมงานน้องๆ ทุกคนรวมทั้งพี่โอ๋ สมิทธิ์ ซึ่งเป็นพี่ชายที่ผมให้ความนับถืออยู่แล้ว ซึ่งได้มาร่วมงานกันจริงๆ จังๆ เพราะรู้จักกันมา 8 ปีแล้ว ก็คุยกันมาตลอด มีอะไรก็โทรหากัน แล้วมีความรู้สึกว่าวันนี้เราได้มาเจอกันแบบเต็มตัวสักที

บุคลิก คาแรคเตอร์และบทบาทที่ได้รับเป็นอย่างไร

ครับ คือเรื่องของเรื่องมีการชิงสิ่งของกันบางอย่าง โดยที่ผมเป็นคนไปปล้น และเมื่อผมปล้นมาก็ต้องไปให้หัวหน้าซึ่งก็เป็นพี่สมเล็ก ศักดิกุล เป็นการ ปะทะบทบาทกันระหว่างสมชาย เข็มกลัด และพี่สมเล็ก เข็มทอง (หัวเราะ) เรื่องนี้เจอพี่สมเล็กก็คือสมชายทั้งคู่  ก็คือในคาแรคเตอร์ของ ตัวเรย์อย่างที่บอกไปคือ ใจร้อน หุนหัน ตัดสินใจทุกอย่างด้วยอารมณ์ ความผิดพลาดก็เลยเกิดขึ้นบ่อย คือจริงๆ แล้วตัวละครหัวหน้าที่เล่นโดย พี่สมเล็กก็อยากที่จะให้เราขึ้นมาเป็นหัวหน้าแทนอยู่แล้ว แต่ยังตัดสินใจ ไม่ได้เพราะเรื่องอารมณ์ของตัวเอง  ในบทนี้คืออะไรก็จะต้องได้อย่างใจ จะเอาตอนนี้ เดี๋ยวนี้ โมโห ไม่สนใจใคร ไม่ฟังใคร คือแบบหุนหันจริงๆ หุนหันแล้วก็อย่างที่บอกคือไปไหนหัวหน้าตายหมด

คือสำหรับใน เท่งโหน่งจีวรบิน อันนี้คือทางเดียวเลยครับ คืออย่างที่บอก อันนี้ตั้งใจเป็นโจรเลยจริงๆ แต่มันเป็นโจรในลักษณะของคอมิดี้ ถ้าให้บอกตรงๆ คือตัวร้าย อันนี้เล่นเป็นการรับบทตัวร้ายเต็มตัวครั้งแรก แต่จะร้ายยังไงต้องไปดูกันครับ แต่จริงๆ ที่ต้องบอกก่อนนะ ต้องออกตัวก่อนนะว่าเขาสั่งให้ผมร้ายนะ ผมไม่ได้ร้ายเองนะ (หัวเราะ)

ตัวบทเปิดโอกาสให้สมชาย เข็มกลัด เต็มที่ขนาดไหน ได้เล่นได้ทำอะไรมากน้อยขนาดไหน

คืออย่างนี้ครับ คือเราได้มีการพูดคุยกันก่อน คือผมสามารถเสนอ ความคิดเห็นได้ สามารถแนะนำเรื่องการแสดงได้ว่า อย่างนี้ดีไหมครับพี่ แล้วพอเราเล่นไป เขาก็ชอบ เขาบอกดีเลยๆ เอาตรงนี้อีกนิดนึง ลดตรงนี้ หน่อย คือปกติอยู่แล้วเพิ่มตรงนั้นนิดลดตรงนี้หน่อย ซึ่งเป็นธรรมชาติ ของการแสดงอยู่แล้ว เราก็พยายามดึงตัวคาแรคเตอร์ พยายามหาตัวเรย์ ตัวนี้ออกมาว่าแบคกราวด์เป็นอย่างไร อุปนิสัยเป็นอย่างไร ทำการแสดง ถ่ายทอดด้วยตัวผม เป็นตัวนี้ออกมาในรูปแบบของเรย์ แล้วอย่างพี่เท่ง พี่โอ๋ชอบ คือบอกให้เอาอย่างนี้ มันต้องอย่างนี้ แรกๆ อาจจะต้องหานิดนึง คือผมก็ทำการบ้านมานั่นแหละ หาแล้วมาได้เห็นมุมมองความคิดเห็น ของผู้กำกับได้ถูกต้อง แล้วเป็นแกนของตัวแสดงตัวนี้จริงๆ คือไปถูกทาง มันเป็นแบบหาคาแรคเตอร์ได้จัดจ้าน

เป็นหนังคอมิดี้ อุตสาห์ขนมุกเตรียมแก๊กทำการบ้านมา แต่ถูก ผู้กำกับกำชับว่า “เต๋า ห้ามตลก” เลยกลายเป็นที่มาที่ว่า ถึงตัวเองเล่นตลกไม่ได้ แต่ก็คิดมุกเพื่อคนอื่นตัวอื่นซะงั้น คิดเผื่อมาให้คนอื่นได้เล่นกันด้วย

(หัวเราะ) คือผมก็อยากจะตลกกับเขาบ้าง จะให้ผมแบบ พี่ครับ แค่ผมไม่ยิ้ม
ทำท่าเฉยๆ มันก็น่ากลัวอยู่แล้ว ยิ่งไว้หนวดอีก ผมยาวอีก แล้วในเรื่องไป ช่วงแรกคือผมเป็นคนตัวขาว ซึ่งเราไม่ใช่คนผิวดำอยู่แล้ว ก็เอามาทาให้ ผมดำ ตัวผมดำ หน้าผมดำ แล้วยังทำหน้าเข้มคิ้วขมวด ผมก็เลยแบบว่า เอ๊ะพี่เดี๋ยวช่วงอย่างนี้ผมขอเล่นแบบนี้ หรือเดี๋ยวผมไปนัดกับผู้กำกับภาพ ว่าผมจะเล่นแบบนี้เพื่อที่จะให้กล้องหรือคนในกองมีอารมณ์ร่วมในความขำ คือว่าทำให้ทุกอย่างมันดู SMOOTH เพราะว่ามันไม่มีอะไรซีเรียส มันเป็นหนังตลก ก็อยากเล่นตลกก็ห้าม เวลาที่อยากจะหล่อ อยากจะฉาก สโลว์กับเขาบ้างก็ไม่ให้สโลว์ มีให้ผมสโลว์ก็โน่นนะจะจบ รู้อย่างนี้ผมตกลง ยัดเงินกับตากล้องดีกว่า ผมจะได้มีสโลว์กับเขาหลายๆ ซีน (หัวเราะ)

ถาม

คือพวกพี่ทั้งหลายรวมถึงพี่ตุ๊กกี้ด้วย คือพวกเขาทุกคนขนความขำมา จากบ้านกันมาเต็มเปี่ยม แล้วมาถึงจะให้ผมนั่งไม่ขำ ผมก็ต้องพยายามฝืน อย่างสุดๆ  คือทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าแก๊งค์สามช่าเขาสุดๆ ถึงเวลาพี่เล่นอย่างนี้ เลยเหรอ ได้ เล่นอย่างนี้ได้ คือความขำของเขาออกมาเรื่อยๆ โดยที่เขาก็ ไม่บอกผมก่อน แล้วบางทีผมก็ต้อง (ทำท่าอั้น) อืม อืม อื....มมมม  คือเราก็ต้องฝืนเก็บ แต่ด้วยความที่เราเป็นนักแสดง ในขณะที่แสดงอยู่ ยังไม่คัท เราก็ต้องอั้นให้ได้ แล้วจะให้ผมปั้นหน้า  ผมก็เลยต้องถมึงทึงอยู่ แต่ข้างในจะตายอยู่แล้ว คืออยากจะบอกว่าจริงๆแล้วเป็นสุดยอดของ ความตลกจริงๆ ครับ สำหรับพวกพี่ๆ เขา คือสุดยอดของเมืองไทยจริงๆ เลยครับ อันนี้ผมยอมรับ

การทำงานของเต๋าใน “เท่งโหน่งจีวรบิน” ไม่ว่ากับรุ่นใหญ่อย่าง หม่ำเท่งโหน่ง, อาสมเล็ก ไปจนถึงรุ่นเล็กอย่างน้องโม อมีนา พินิจ ดูเต๋ามาทำงานแบบสบายๆชิลชิลมาก

คือสนุกครับ อย่างที่บอกว่า คือผมบอกกับครอบครัวผมว่า ฉันอยากไป ถ่ายหนัง ฉันอยากไปถ่ายหนัง คือเป็นงานที่เรารัก อะไรที่เรารัก แล้วเราไป ทำแล้วเรามีความสุข มันเหมือนกับเราได้ ENERGY กลับมา มาใช้ชีวิต ประจำวันของเรา ผมบอกเลยว่าผมรักงานนี้ ผมชอบใน ภาพยนตร์ แล้วอย่างที่บอกเวลาที่ผมมาเล่น คือบางอย่างมันไม่ต้องซีเรียส ตลอดเวลา หลังจากคัทแล้ว เราก็มาเป็นตัวเรา อยู่กับพวกพี่ๆ เขาก็มีอะไร มาเล่า ให้เราฟังทุกวันว่าวันนี้เขาไปเจออะไรบ้าง วันนี้เขาๆ ไปเล่นอะไร มาบ้าง พอแอ็คชันปุ๊บ เราก็ต้องเข้าตามบท ซึ่งผมมีความสุขมากสำหรับ การได้ ร่วมงานกับพี่ๆ ทุกๆ คนรวมถึงทีมงานที่น่ารักมากๆ น่ารักจริงๆ คือผมชม จากความรู้สึกจากข้างในจริงๆ คือมันทำให้ผมรู้สึกว่า เราทำงาน ที่เรารัก จริงๆ นะ

จริงไหมที่ว่าการทำงานของสมชาย เข็มกลัดในหนังเรื่องนี้ เหมือนเป็นการกลับมา re-union ของนักแสดงอย่างหม่ำ, เท่ง, สมเล็ก

ครับรวมทั้งพี่โหน่งด้วย เพราะพี่โหน่งเล่นสายล่อฟ้ากับผม คืออย่าบอกว่า RE-UNION เลย (หัวเราะ) มันจะดูพวกเราแก่มากเลยนะ  อย่างพี่เท่งกับ พี่หม่ำกับผมเคยเจอกันในหนังมือปืนโลกพระจัน คือเราก็บอกกันเสมอ ว่าเราดีใจที่ได้กลับมาเจอกันอีก มันเหมือนกับคนในบ้านที่แยกย้ายกัน ออกไปทำภารกิจส่วนตัว ทำงานส่วนตัว แล้วเหมือนเราได้กลับมาบ้าน แล้วได้ พูดคุยกัน แล้วบางทีแบบอาทิตย์นี้ไม่มีถ่าย ก็โทรมาอยู่นี่ ตามมาเร็ว ไม่ได้พี่ สมใจยังไม่นอนเลย จะออกไปยังไง ไปก่อนพี่ ก็นัดนัดนัด หรือว่าผมไปอัดรายการที่เวิร์คพอยท์ก็ได้เจอกัน สังสรรค์กัน 3 ทุ่มละ ผมก็บอกไม่ได้ละ ผมต้องกลับไปดูลูกแล้ว ก็คือเดี๋ยวเราจะมีเลี้ยงปิดกล้อง กัน นี่เป็นสิ่งที่พวกเราดีใจที่เราจะได้มาเจอกัน ก็คือจะบอกว่า มันเป็น ความสุขเป็นความประทับใจ เหมือนผมได้เจอญาติผู้หญ่ของผม แล้วเหมือน เจอคนในบ้าน แล้วเรารู้สึกว่า เราไม่ได้เจอกันนานขนาดไหน แต่พอ กลับมาเจอกัน เราก็สนิทเหมือนเดิม หรือสนิทมากกว่าเดิม

พูดถึงการกลับมาเจอกันของ2สม สมโหด (สมชาย เข็มกลัด) กับสมฮา (สมเล็ก สมชาย ศักดิกุล)

แกโคตรขำเลย แกเป็นคนที่ขำมาก อยู่ด้วยกัน นอนโรงแรมเดียวกัน พี่วันนี้พี่จะกลับเหรอ ดึกแล้วนอนกับผมก็ได้ มันใช้ชีวิตเหมือนคนในบ้าน แล้วเขาก็อยากเจอกันอีก แล้วพี่สมเล็กเขาก็เล่นดนตรีอยู่ (อดีตวงเฉลียงยุคบุกเบิก) เขาก็ชวนไปดูดนตรี นี่ตั้งแต่ถ่ายกันมาจนถึง วันนี้ ผมก็ยังไม่ได้ไปหรอก ผมไปไม่ได้คือเขาเล่นดนตรี แล้วเรายังหาเวลา ไปไม่ได้คือหนึ่งเราทำงาน คือสองเรามีลูกเราต้องเลี้ยงลูก ก็นี่แหละเดี๋ยวเรา คงได้เจอกัน ดูผลงานชิ้นโบว์แดงของพวกเรา เร็วๆ นี้จะได้ชมผลงานของ พวกเรา ถามว่าดีใจไหมก็ดีใจมาก

ถาม

(หัวเราะ) ครับคือถ้าจะให้ผมพูดจริงๆ คือเวลาที่นักแสดงทุกๆ คนมารวมตัว กันไม่ว่าจะเป็นตัวผม พี่เท่ง พี่หม่ำ พี่โหน่ง พี่สมเล็ก มารวมตัวกันเนี่ยะ แล้วเวลาที่เราแสดง  แต่ละคนเขาก็จะงัดกันออกมา คือเวลาคนมีของมา เจอกัน เขาก็จะปล่อยของ แล้วปล่อยของต่อๆ กันจนกระทั่ง เฮ้ยพี่ มันขำไป รึเปล่า เพลาๆ หน่อยพี่ นี่มันเหนื่อยมาก แล้วผมเป็นคนดูคนเดียวที่มันไม่ขำ ตอนที่ถ่ายนะ แต่โคตรขำเลย มันขำมาก แล้วผมเป็นคนเดียวที่ต้องดูทุกคน เล่น เอา เอาเข้าไป เอาอะไรอีก แล้วพี่ไม่สงสารผมเลยรึไง แล้วผมเป็น คนเดียวที่ตลกไม่ได้ เรามีความสุขมากที่ได้พบกัน

พูดถึงบรรยากาศ รสชาติกลิ่นอายของความเป็นหนังตลกคอมิดี้ ที่มีแอ็คชั่นจริงจังผสมผสาน เราไม่ค่อยได้เห็น

คือฟีลลิ่งมันเหมือนเราเคยดูภาพยนตร์แอ็คชั่นที่มันเป็นเหมือน MAD MAX หรือว่าอะไรต่างๆ ที่ออกเป็นแฟนตาซี แต่มันขำ อะไรประมาณ อย่างนั้น ผมว่าอธิบายมันไม่สุด มันต้องไปชม

ทราบมาว่าเป็นหนังตลกที่กำกับโดยนักแสดงตลก แต่ให้ ความสำคัญกับงานโปรดักชั่นที่เน้นความอลังการ มีเครื่องบิน มีพระ มีโจร มันเข้ามาเกี่ยวกันได้อย่างไร

นั่นนะสิ ถามผมว่ามันมาเกี่ยวกันได้อย่างไรนะครับ แล้วเรื่องของฉาก ภาพ แสง สีเสียง ผมยอมรับว่าภาพสวยมาก เป็นหนังคอมิดี้ที่เวลาเรามาดูฟุต หรือดูบางซีนที่เขาตัดมา เฮ้ยพี่อย่างนี้เลยเหรอ เฮ้ยพี่ผมหล่อไปเปล่าพี่ คือทุกคนรวมพี่เท่งเขาบอกว่าฮื้อ ผมหล่อไปเปล่าพี่ เดี๋ยวพี่เท่งเขาจะแย่นะ ผมหล่อขนาดนี้ ผมตัวร้ายนะไม่ใช่พระเอก เดี๋ยวมันจะหล่อเกินพระเอก เขาไปรึเปล่า คือสวยจริงครับ แล้วก็เนื้อในของที่เราถ่าย มันสามารถเอาไป ทำอะไรได้เยอะเลย และด้วยคอมโพสต์ของภาพด้วยอะไรต่างๆ ต้องไปชม ว่ามีความแตกต่างจากที่เคยชมมารึเปล่า แล้วคุณชอบรึเปล่า จริงๆ ทุกอย่าง ในโลกนี้ ที่คุณได้ชมมาไม่มีคำว่าถูกหรือผิด มันอยู่ที่ความพึงพอใจ ของคนสร้าง คนแสดงและคนชม ผู้ชมคือคนดู คือมันไม่มีอะไรถูหรือผิด มันขึ้นอยู่ที่มุมมอง ไม่ว่าจะเป็นผกก. คนสร้าง นักแสดงและคนดู คือผมว่า เป็นการเปิดโลกทัศน์โลกใหม่ด้วยมุมมองใหม่ๆ แล้วผมอยากจะบอกว่า ผมชอบ มันเป็นอีกหนึ่งงานที่มันเป็นพอร์ท (โฟลิโอ้) ของผม เก็บเอาไว้ ลูกหลานดู แล้วเดี๋ยวน้องสมใจเขาโตมา แล้วเขาบอกว่า ทำไมคุณพ่อหล่อ อย่างงี้

“เต๋า-สมชาย กับปืนระเบิดเอฟเฟ็คต์” ดูเป็นเรื่องที่คุ้นเคยกันดี แล้วใน “เท่งโหน่งจีวรบิน” ดูเหมือนทุกอย่างเหล่านี้จะมาตก อยู่ที่สมชาย เข็มกลัดคนเดียวเลย

เต๋าสมชายกับปืน ระเบิด เอฟเฟ็คต์ คุ้นเคยกันมาก รวมทั้งสลิงด้วย คือทุกอย่างที่เขามีในโลกนี้มารวมกันอยู่ที่ตัวผมอยู่แล้ว แล้วผมเชื่อว่า
ผมตั้งใจ แล้วก็พยายามถ่ายทอดทุกสิ่งทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นอยู่ใน ภาพยนตร์ให้ออกมาดีที่สุด มันคือความสวยงามของภาพยนตร์ มันเป็นงานที่เรารัก เราก็ควรที่จะทำงานที่เรารักออกมาให้ดีที่สุด ต้องชม

ถาม

คือสองคนนี้มาเจอกันมันมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นในโลกภาพยนตร์อย่างแน่นอน อย่างพี่โอ๋มีความถนัดในการทำภาพยนตร์อย่างสูง พี่เท่งก็มุกมาเต็มนะครับ แต่ถ้าทั้งสองคนนี้มาเจอกัน ไม่อยากบอกอะไรมาก นอกจากอยากให้ ทุกคนลองถามตัวเองแล้วก็ลองตัดสินใจดูว่า ถ้ามีพี่เท่ง พี่โหน่งแล้วก็ขาด เต๋า-สมชายไม่ได้ แล้วพอเรามาเจอหน้ากันแล้วมันจะเป็นยังไง อะไรจะเกิดขึ้น 3 ก.พ. ครับฮารับตรุษจีน

ท้ายนี้อยากให้ฝากว่าหนังเป็นส่วนหนึ่งและมีความสำคัญกับชีวิต ของเต๋าสมชาย เข็มกลัดอย่างไร

ครับภาพยนตร์หรือที่เรียกกันว่าหนัง กับชีวิตผมคือผมขาดเขาไม่ได้ มันคือสิ่งที่ผมรักที่สุด ถ้าผมไม่ได้อยู่กับเขา ผมคงตาย ผมพูดได้แค่นี้