Top
สัมภาษณ์ดารา เอ็มม่า วัตสัน

 

เอ็มม่า วัตสัน กับบทบาท "เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์" ใน Harry Potter and the Deathly Hallows Part 1

 

 
 


ถาม

คุณช่วยพูดถึงฉากที่เฮอร์ไมโอนี่เผชิญหน้ากับเบลลาทริกซ์ให้ฟังหน่อยได้มั้ย ฉากที่เธอเขียนคำว่า ‘mudblood’ ไว้บนหัวใจของคุณ มันดูมีพลังมากเลย

 

ขอบคุณมาก มันรู้สึกสะเทือนใจแบบแปลกๆ มากที่ต้องแสดงฉากนั้น มันค่อนข้าง น่ากลัว ฉันว่าเฮเลน่าคงอยากบอกกับฉันหลังจากนั้นว่า ‘ฉันสนุกที่ได้ทำแบบนั้น จังเลย’  [หัวเราะ] โดยปกติแล้วเธอเข้าได้ถึงสิ่งชั่วร้ายต่างๆ ได้ดีอยู่แล้ว แต่ฉันว่าเธอ ก็ไม่ค่อยสบายใจหรอกนะ จริงๆ แล้วไอเดียของ ‘mudblood’ ไม่ได้อยู่ในสคริปต์ มันเป็นสิ่งที่ฉันกับเฮเลน่าเล่นกันขึ้นมา เพราะฉันบอกว่า ‘เอาล่ะ ถ้าเธออยากทำอะไร ที่สะกดฉันเอาไว้ ฉันแสดงมันดูเจ็บปวดได้นะ แต่ฉันว่ามันจะดูมีพลังมากหากมีอะไร ที่ผู้ชมสามารถเห็นเป็นภาพได้จริง’ เราเลยมี ‘mudblood’ ขึ้นมา พวกเรานั่งออกแบบ ลายมือของเบลลาทริกซ์อยู่ 40 นาที แล้วเราก็พูดกันว่า ‘เอาล่ะ ฉันว่าเธอน่าจะเขียน ออกมาแบบนี้แหละ’ เราสนุกมากเลย

ถาม คุณบอกว่าตอนที่พวกคุณแสดงแบบนั้น นักแสดงและทีมงานรวมไปถึง ทุกคนรู้สึกอึดอัดมาก เพราะมันรู้สึกเหมือนจริงสุดๆ
 

ทุกคนรู้สึกอึดอัดจริงๆ มันตลกดี คาร์โลต้าที่เป็นเพื่อนสนิทของฉันและเป็นคนทำผม แต่งหน้าให้กับภาพยนตร์ทั้งเรื่อง เธอใส่กลอนประตูเอาไว้ เธออยากเข้ามาช่วยฉันจริงๆ ฉันแสดงหนึ่งฉากที่เดวิดปล่อยให้กล้องถ่ายทำไป 2 นาทีเพื่อปล่อยให้ฉันกรีดร้อง [หัวเราะ] พอตอนที่ฉันดูการลำดับมันเหมือนกับ ‘ว้าว ไม่เลว’ เราจะไม่มีโอกาสเห็นฉัน กรีดร้องถึงสองนาที แต่ฉันแสดงนานกว่าที่เห็นจริงๆ นะ แต่ไม่หรอก ฉันว่ามันเป็น การรบกวนทีมงานแต่ฉันมีความสุขอย่างเห็นได้ชัด เพราะมันแสดงให้เห็นว่า ฉันทำได้ดี แต่ฉันว่ามันไม่ใช่วันที่สนุกสนานสำหรับทุกคนในฉากหรอก 



ถาม

นั่นเป็นสิ่งยากที่สุดที่คุณเคยแสดงหรอ?

  จริงๆ แล้วมันแปลก ฉันคิดถึงมันเป็นเดือนๆ เลย เมื่อท้ายที่สุดฉันต้อง แสดงขึ้นมา ฉันก็สร้างทุกสิ่งที่ฉันอยากขับไล่ขึ้นมา และมันเหมือน ประสบการณ์ที่ออกมาจากตัว มันแปลกมาก ฉันทำมันไปแล้ว และเดวิดก็บอกว่า ‘โอเค เยี่ยมไปเลย เราทำสำเร็จแล้ว’ 
ถาม มีฉากพิเศษไหนในภาพยนตร์ที่คุณอยากกลับไปถ่ายทำใหม่ แม้ว่าจะต้องแสดงเป็นตัวละครที่ต่างออกไปมั้ย?
 

โอ้ น่าสนใจจัง จริงๆ แล้วฉันมีช่วงเวลาดีๆ ที่ได้แสดงเป็นเฮอร์ไมโอนี่ ใจร้ายในสายตาของรอนนะ ถ้างั้นฉันอยากกลับไปแสดงเป็นคนเลว สักครั้งละกัน มันต้องสนุกแน่เลย

ถาม แดนแสดงความเห็นไว้ใน BBC อย่างชัดเจน ว่าคุณเป็นนักจูบที่ค่อนข้างเร่าร้อน
  ฉันได้ยินแล้ว พวกนักข่าวก็มักพูดเรื่องนี้ขึ้นมา และฉันไม่รู้จะพูดอะไร ฉันว่าสำหรับฉากนั้น เห็นได้ชัดว่ามันเป็นสิ่งที่จะต้องปั่นป่วนรอน ทำให้เขาหึงและเสียใจมาก ฉันเลยคิดว่าการจูบต้องเป็นสิ่งสะเทือนใจ จากเฮอร์ไมโอนี่ในท้ายที่สุด ถึงแม้ว่าฉัน, ตัวฉันอาจเหมือนกับ ‘สัตว์’ ฉันเดาว่าฉันน่าจะรับมันไว้เป็นคำชมนะ? [หัวเราะ] เขาบอกว่า ‘ไม่ ไม่ ไม่ ฉันให้ 10 คะแนนสำหรับการจูบ’ ฉันก็บอกว่า ‘ก็ได้ ก็ได้ ยังไงก็เป็นแง่บวก ฉันเดาว่ามันเป็นสิ่งดีละกัน’ [หัวเราะ] 




ถาม

เหมือนคุณจะเดินข้ามผ่านพวกสื่อต่างๆ

มันคือประสบการณ์ ตอนนี้ฉันอายุ 20 แล้ว ตอนฉันอยู่ที่งานแถลงสื่อ ครั้งแรกฉันอายุ 9-10 ขวบ ฉันเลยชินกับมันแล้ว มันสะเทือนใจให้รู้สึก เศร้าทุกทีเวลามีอะไรเขียนถึงสิ่งที่เราไม่อยากเห็น เราทำได้แค่ปล่อยมันไป ไม่งั้นฉันต้องบ้าแน่

ถาม  คุณรู้เช่นนี้มาล่วงหน้ามั้ย?

ฉันใช้เวลาพอประมาณเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ ฉันอาจโกหกถ้าบอกว่า ไม่ได้ โกรธ แต่ฉันก็โกรธ ฉันไม่ได้แคร์มากมาย ก็เป็นสิ่งที่ดี ฉันหมายความว่า บางครั้งก็มีคนพูดผิดๆ ของฉันไปกล่าวตลอดเวลา เพราะมันมีข้อมูลมากมาย ข้างนอกเกี่ยวกับตัวฉัน ซึ่งมันงมง่ายมากที่จะค้นความจริง แต่ …

ถาม  ประสบการณ์ที่ได้ไปที่ Brown และอยู่ที่อเมริกาเป็นอย่างไรบ้าง? คุณรู้สึกว่าเป็นชาวอเมริกันแล้วหรือยังเป็นชาวอังกฤษอยู่?
:มันแปลกมากจริงๆ นะ มันกลายเป็นบ้านหลังที่สองสำหรับฉันไปแล้ว และฉันรักมันมาก ฉันมีความสุขสุดๆ ฉันเห็นตัวเองกระจายเวลา ระหว่างที่นิวยอร์คกับลอนดอนได้ง่ายๆ เลย
ถาม  ทำไมคุณถึงเลือกไปที่อเมริกามากกว่ามหาวิทยาลัยที่นี่? มั่นใจว่าคุณจะเข้าที่ไหนก็ได้

ด้วยเหตุผลที่มากมายเลย เพื่อนคนหนึ่งของฉันเข้ามหาวิทยาลัยในอเมริกา ได้ และพอเขาบอกให้ฉันฟังเกี่ยวกับความจริงว่า เขาสามารถเรียนได้ มากกว่า 1 วิชาในเวลาเดียว และมันเหมือนการเปิดกว้างมากขึ้น ทำให้ฉัน เกิดความสนใจมาก และเพราะฉันไม่เป็นที่รู้จักมากในอเมริกาด้วยแหละ ฉันต้องการการเปลี่ยนแปลง ฉันอยากได้การเริ่มต้นที่สดใส ที่ไหนก็ได้ที่ฉัน ไปแล้วรู้สึกว่าสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่ได้จริง และนั่นแหละคือสิ่งที่ Brown มีให้ฉัน

ถาม

ถ้างั้นคุณยังนึกถึงเรื่องอาชีพการแสดง หรือมันยังไม่มีอะไรแน่นอนสำหรับคุณใช่มั้ย?

  แน่นอนเลยว่าไม่ และภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างความมั่นใจให้ฉันเยอะมาก ฉันเพิ่งแสดงภาพยนตร์เรื่อง My Week with Marilyn ที่เป็นการ อำนวยการสร้างของไวน์สตีนร่วมกับเอ็ดดี้ เรดเมย์นและมิเชล วิลเลียมส์ ซึ่งก็ผ่านไปได้ดีมาก ฉันคิดว่าจะเดินหน้าแสดงต่อไป ฉันว่าจะแสดง ภาพยนตร์ปีละเรื่องหรืออะไรสักอย่าง จนกว่าจะเรียนจบที่ Brown แน่นอน เพราะมันยากมาก มันเหนื่อยจริงๆ ที่ต้องพยายามจัดสรรเวลาให้กับทั้ง 2 อย่าง มันต้องใช้ความพยายาม
ถาม คุณจัดเวลาให้ที่โรงเรียนกับการแสดงภาพยนตร์ได้อย่างไร?
 

เราต้องบริหารเวลาของเราจริงๆ และฉันบอกอาจารย์ไว้ล่วงหน้าว่าฉัน ต้องหยุดช่วงนี้ ฉันหวังว่าพวกเขาจะเข้าใจ ฉันต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้
สมกับความไว้ใจและการพิจารณาที่พวกเขาอนุญาตให้ฉันทำได้ ฉันต้อง ทำให้เห็นว่าฉันเป็นคนทำงานหนักและเรียนอย่างตั้งใจ เพราะมิเช่นนั้น พวกเขาคงไม่ยอมให้ฉันทำ ฉะนั้นช่วงต้นเทอม มันจะเกี่ยวกับการ ได้เกรดดีๆ แล้วพวกเขาก็จะ [หัวเราะ] ‘โอเค ไปได้ละ จะทำอะไรก็ทำ’

ถาม คุณทราบวิชาเอกหรือยัง?
  ค่ะ ทราบมาว่าประวัติศาสตร์เป็นวิชาเอกของฉัน 




ถาม ประวัติศาสตร์ชาวอเมริกันหรอ?

ไม่แน่ใจเหมือนกัน ฉันชอบประวัติศาสตร์ร่วมสมัย แต่ก็ไม่รู้สิ ฉันต้องเลือก เฉพาะด้าน แต่ยังไม่ต้องรีบตอนนี้

ถาม  คุณช่วยพูดถึงฉากเต้นรำกับแดนให้ฟังหน่อยได้มั้ย? เขาเป็น
นักเต้นที่มีพรสวรรค์มาแต่เกิดหรือคุณต้องสอนการเต้นให้เขา?

ถึงแม้ฉันจะรักแดน แต่เขาไม่ใช่นักเต้นที่มีพรสวรรค์อะไรหรอก [หัวเราะ] ฉันว่าเขารู้ดี แต่มันเป็นฉากที่เพอร์เฟคนะ ไม่ได้หมายความว่ามันดู เพอร์เฟค แต่หมายถึงมันดูใสๆ แบบธรรมชาติ

ถาม  คุณเต้นเก่ง
ขอบคุณ [หัวเราะ] ฉันรักการเต้นรำ 
ถาม  ภาพยนตร์เรื่องนี้ให้โอกาสคุณได้แสดงออกจริงๆ เดวิด เยทส์ ทำให้เป็นอย่างนั้นได้อย่างไร?
สิ่งที่เกี่ยวข้องกับการทำงานร่วมกับเดวิด เยทส์ นั่นคือเราจะได้ยินคำว่า “ความจริง” เสมอ การค้นหาความจริงและอยู่กับความซื่อตรงและเป็นจริง เขาเกลียดพวกของปลอมที่สุด; เขาอยากให้มันออกมาจากใจ ฉันว่านั่น ทำให้ฉันเป็นนักแสดงที่ดีขึ้นมา โดยเฉพาะในช่วงแรกเริ่ม ฉันรู้สึกฉันแสดง เหมือนเป็นตัวละครหนึ่ง และพอฉันแสดงเป็นเฮอร์ไมโอนี่ ฉันสวมบทบาท การแสดงได้จริงๆ กลายเป็นตัวละครเด่น และใช้มันตระหนักถึงความ ซื่อสัตย์ เขาบอกว่า ‘เริ่มทำจากตรงนี้ ลืมทุกสิ่งทุกอย่างตรงนั้นไป ต้องจริงใจ กับมัน’ นั่นคือสิ่งที่ฉันพยายามทำ ฉันว่ามันสร้างความแตกต่างขึ้นมานะ
ถาม

ตัวละครของคุณแต่งตัวทันสมัยส่วนใหญ่ในภาคนี้ นั่นเป็นประสบการณ์ที่แปลกไปจากภาพยนตร์ก่อนหน้านี้มั้ย?

  รู้อะไรมั้ย? มันรู้สึกดีมากที่ไม่มีพื้นฐานโครงสร้างทั้งหมดของพวก คฤหาสน์และปีการศึกษา ฉันหมายถึงมันน่าประหลาดมากที่ได้ทำงาน ร่วมกับนักแสดงอาวุโส มันอาจทำให้ฉันหวั่นไหวหากยังมีกำแพงเหล่านั้น อยู่ที่นี่ มันก็ดีที่มีเพียงเราสามคนกับสิ่งที่พวกเราจะแสดงได้ ฉันรักแบบนั้น
ถาม ฉากไหนของรอนกับเฮอร์ไมโอนี่ที่คุณชอบเป็นพิเศษในหนัง?
 

ในภาค 2 เราต้องออกไปผจญภัยร่วมกันนิดหน่อยเพื่อทำลายฮอร์ครักซ์ และมันเหมือนการแสดงตลก เพราะมันเป็นครั้งแรกที่เราจะได้เห็น รอนกับเฮอร์ไมโอนี่ไปในทางเดียวกัน โดยปกติแล้วมันไม่ใช่แนวเราเลย เราจะมีการคิดถึงกันและขัดแย้งกัน จากนั้นในฉากนี้เราเป็นทีมกันจริงๆ มันสนุกมากและเราทั้งคู่อินกับมันมาก เป็นคู่เดียวที่อยู่ในช่วงตลก สนุกสนาน และฉันก็เพลินไปกับพวกเขา รูเพิร์ทเป็นนักแสดงตลกที่เก่ง และเรามีเวลาดีๆ ร่วมกัน แค่ดึงอารมณ์ขันออกมาจากทุกสิ่งเท่าที่เราทำได้

ถาม มันเป็นความท้าทายสำหรับคุณมั้ย ที่ต้องแสดงในฉากที่ เฮอร์ไมโอนี่ต้องกล่าวคำลากับพ่อแม่ของเธอ?
  มันเป็นความท้าทายนะ ฉันไม่อยากให้มันหนักเกินไปนะ แต่การมีชีวิต จากครอบครัวที่แตกแยก ฉันรู้ว่าการเดินจากมาและเข้าไปอยู่ระหว่าง 2 ครอบครัวที่แตกต่างกันมันเป็นอย่างไร มันยากนะ ฉันเดาว่าฉันต้อง ใช้วิธีนั้น




ถาม แสดงได้ดีนะ

ขอบคุณ

ถาม  ตอนที่เราเห็นรูปของเฮอร์ไมโอนี่ตอนเด็ก นั่นเป็นรูปที่ตัดต่อขึ้นมา หรือเป็นรูปตอนเด็กของคุณจริงๆ?

ไม่ นั่นเป็นรูปฉันตอนเด็กจริงๆ  [หัวเราะ] มีของโปรดอย่างหนึ่งที่อยู่คู่ กับฉัน ฉันมีผ้าขนหนูที่มีหูกระต่ายอยู่บนนั้น แล้วก็มีภาพนั้นอยู่ด้วย ซึ่งฉันไม่รู้หรอกว่าพวกเขาจะใช้ภาพไหน พวกเขาขอรูปตอนฉันเป็นเด็ก จากพ่อ แล้วพ่อก็ให้บางรูปมา มันเลยแปลกมากที่ได้เห็นภาพของจริง เหล่านั้นถูกผสมกับพ่อแม่ตัวปลอม แปลกดี 

ถาม  คุณเต้นเก่ง
ขอบคุณ [หัวเราะ] ฉันรักการเต้นรำ 
ถาม  ตอนนี้คุณรู้สึกอย่างไรที่ภาพยนตร์ใกล้ปิดตัวลงแล้ว? คุณคิดถึงบ้านมั้ย?
นั่นเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบที่ง่ายหรือชัดเจนให้ตอบเลย  สำหรับฉัน มันยากที่จะตอบเพราะฉันยังไม่รู้จริงๆ ว่าฉันรู้สึกอย่างไร ฉันกำลังคิดอยู่ ฉะนั้นการตอบคำถามคุณมันเลยค่อนข้างยาก ฉันมีวันที่รู้สึกผ่อนคลาย และมีวันที่ฉันรู้สึกเศร้า และก็มีวันที่ฉันรู้สึกเหมือน ‘ฉันตื่นเต้นสุดๆ’ เพราะสิ่งนี้ใช้เวลาในชีวิตของฉัน เวลาทั้งหมดของฉันด้วยซ้ำ ชีวิตของฉัน โคจรอยู่รอบแฮร์รี่ พอตเตอร์ นั่นเป็นศูนย์รวมของการมีชีวิตอยู่ของฉัน และตอนนี้มันตื่นเต้นที่ฉันมีช่วงเวลานั้น ฉันยอมรับสิ่งอื่นๆ ได้ หมายถึงฉัน รู้ว่าโอกาสใหม่ก็จะมีตลอดเวลา แต่ก็มีช่วงเวลาตอนที่ฉันแสดงแล้วรู้สึก เหมือน ‘พระเจ้า ฉันหวังว่าฉันจะได้ไปทำแบบนั้น’ หรือบางสิ่งก็เกิดขึ้นได้ และตอนนี้มันถึงเวลาที่ฉันต้องทำสิ่งอื่นที่แตกต่างออกไปแล้ว มันก็ตื่นเต้น เหมือนกันนะ เหมือนฉันแกว่งลูกตุ้มไปมาระหว่างความรู้สึกพวกนี้ที่ แตกต่างกัน 
ถาม

คุณยังเก็บแผ่นกระดาษเล็กๆ ที่มีการเปลี่ยนบทสนทนา ของภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่หรือเปล่า?

  จริงๆ แล้วท้ายที่สุดแดน, รูพกับฉันต้องเขียนบทสนทนากันใหม่ เพราะฉัน อ่านแล้วฉันพูดขึ้นทันทีว่า ‘เธอไม่ได้พูดแบบนั้น เธอไม่ได้พูดแบบนั้น’ และโชคดีที่ฉันแสดงเป็นเธอมา 10 ปีแล้ว สตีฟ โคลฟ์สกับเดวิดวางใจฉัน มากพอ ฉันคิดจะพูดว่าให้ฉันมีอิสระที่จะได้ทำมันจริงๆ เถอะ ซึ่งมันเป็น เรื่องที่ดี  ฉันไม่คิดว่าฉันจะมีโอกาสนั้นอีกแล้ว มันดีจริงๆ
ถาม รู้สึกอึดอัดมั้ยที่ต้องแสดงฉากจูบกับพวกผู้ชายที่พวกเขาเหมือนจะ
เป็นพี่ชายของคุณไปแล้ว
 

ใช่ มันน่าสยองมาก ฉันหมายถึง [หัวเราะ] ก็สยองจริงๆ ฉันรู้สึกอึดอัด อย่างบอกไม่ถูก มันดูดีนะ หมายความว่าถึงอย่างไรพวกเราก็ทำให้ มันออกมาสมจริง ฉันเลยภูมิใจตัวเองที่ฉันควบคุมความสามารถ และเป็นมืออาชีพได้ มันก็ดีนะ

ถาม ในภาคนี้มีการใช้เวลาไปกับตัวละครต่างๆ คุณว่ามันแปลกมั้ย?
  ใช่ ฉันเข้าใจนะคุณหมายถึงอะไร มีช่วงเวลาที่ฉันรู้สึกว่าฉันเร่งความเร็ว ให้บทพูดของฉันนิดหน่อย มันเหมือนกับ ‘เรามีหลายอย่างที่จะใส่เข้าไป ช่วยพูดให้เร็วขึ้นหน่อยได้มั้ยขอร้อง?’ [หัวเราะ] และฉันเหมือนกับ ‘โอ้’  มันเลยดีที่จะอยู่อย่างเพลิดเพลินและรู้สึกเหมือนฉันมีพื้นที่ว่าง คุณพูดถูก เกี่ยวกับเรื่องเวลานั้น มันเป็น [งานยาก] นะ แต่ความน่ารักในการถ่ายทำ ภาพนยตร์สองเรื่องติดต่อกันคือ เราคัดสรรแรงกระตุ้นและเรื่องของจังหวะ รวมไปถึงเราเข้าถึงงานและตัวละครของเราได้จริงๆ เราแสดงได้อย่าง ไหลลื่นจริงๆ ฉันว่ามันทำให้เป็นหนังที่ดีมาก เพราะปัญหาใหญ่ที่สุดที่เรามี ในพอตเตอร์คือ เรามีเอ็ฟเฟ็กต์พิเศษเยอะและเรามีพวกสัตว์ต่างๆ รวมไปถึง นักแสดงกว่าร้อยชีวิต และการคัดเลือกนักแสดงที่ยิ่งใหญ่

—ฉันรู้สึกได้ว่ามันแบกรับเอาไว้อยู่บนไหล่ของฉันมันเคลื่อนที่ไปอย่างช้าๆ และสำหรับเราในฐานะนักแสดงแล้ว ความท้าทายอันยิ่งใหญ่คือการรักษา ความสดใส ความสมจริง และความใหม่ในแต่ละเทคเอาไว้ เพราะเวลาที่ มันเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ และเราใช้เวลาพักอยู่ในรถเทรลเลอร์เป็นเวลา 3 ชั่วโมง และเราต้องทำแบบนั้น 7 ครั้ง มันยากที่จะนำความสดชื่นออกมา มันเลยดีมากๆ ที่จะมีแรงกระตุ้นนั้นและความโกลาหลของการพยายาม ถ่ายทำ 2 ภาคในเวลาเดียวกัน



* ดูประวัติ เอ็มม่า วัตสัน

* ดูอัลบั้มรูป เอ็มม่า วัตสัน

 


 
 

Box Office

เรื่อง
ล่าสุด
รวม
1.
2.
3.
4.
5.
เรื่อง
ล่าสุด
รวม
1.
2.
3.
4.
5.

บทสัมภาษณ์ทั้งหมด

 
 
 

ติดตามหนังดี : Youtube Instagram Facebook Twitter  

MMM Digital Asset Co.,Ltd.
109 อาคารซีซีที ชั้น 2 ถนนสุรวงศ์
แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
Tel. 0-2234-7535    FAX. 0-2634-4269
E-mail: webmaster@nangdee.com   © 2006 nangdee.com
แผนที่ | sitemap | ติดต่อโฆษณา