บทสัมภาษณ์ดารา สัมภาษณ์ดารา สัมภาษณ์ดาราไทย หัวข้อสัมภาษณ์ดารา ดาราไทย ดาราเทศ ดาราเอเชีย หน้า 1

สัมภาษณ์ดารา เกรซ กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า

" เกรซ-กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า"

ถึงจะไม่ได้เป็นนางเอกสุดฮอตเหมือนคนอื่น แต่ชื่อของ เกรซ-กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า ก็มักจะ
ไปอยู่ในใจ ของหนุ่ม ๆ เสมอ แถมยังมีงานมะรุมมะตุ้มอยู่เรื่อย ๆ เกรซเป็นนางเอกสาวที่ก้าวขึ้นมาจากบทนางร้าย
ซึ่งน้อยคน นักที่จะเป็นแบบนี้ วันนี้ “ดาวต่างมุม” เลยชักชวนเธอมาพูดคุยถึงเรื่องงานและเรื่องความรัก ล่าสุดตอนนี้สาว
เกรซได้เลิกรากับหนุ่ม เจได-ไพศาล ลิ้มจินดานุวัฒน์ เรียบร้อยแล้ว และเมื่อเร็ว ๆ นี้ เธอเป็น 1 ใน 7 สาว ที่ร่วมโครงการ
“พอนด์ส ตามหารักแท้...ตอนไดอารี่รัก” เธอได้เขียนถึงความรักว่า “เวลาคนเรากอดกันถ้าฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งกอดแน่นเกินไป
จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามรู้สึกอึดอัด” ก็ไม่รู้ว่าประโยคนี้พูดถึงหนุ่มเจไดหรือเปล่า เราไปหาคำตอบกันเลยดีกว่า

บทสัมภาษณ์จาก dailynews ภาพจาก tv-inside

ถาม	เข้าวงการมาได้ยังไง?
	จากการประกวด “มิสทีน ไทยแลนด์ ปี ค.ศ. 2004” ตอนนั้น ตัดสินใจ ประกวดเพราะมีพี่ที่รู้จักแนะนำ เกรซอายุ 15 ปี ไม่มีอะไร ทำช่วงปิดเทอม เดือน ต.ค. พอดีเลยประกวด ตอนนั้นหน้าเกรซ เด๋อมากแต่งหน้าไม่ เป็นมา แบบธรรมดามาก เคยมีคนพูด ประมาณว่า หน้าตา ธรรมดามาก มาได้ยังไง แต่มันก็ได้ มาเป็นความภาคภูมิใจ ของเรา เป็นจุดเปลี่ยน ของชีวิต ที่ชัดเจนมาก
ถาม	เกรซรู้สึกว่าตัวเองธรรมดา แต่มีอะไรที่ไปเตะตากรรมการ ?
	หลายคนพูดว่าเราใช้เส้น แต่จริง ๆ เกรซว่า เกรซน่าจะเตะตาเขาตรงที่ เกรซ ไม่มีอะไรเลยมั้ง
ถาม	แต่ดูนับวันความสวยยิ่งวิวัฒนาการเพิ่มขึ้น ?
	อาจเป็นเพราะเกรซเริ่มดูแลตัวเองและทำผมเข้ากับหน้ามากขึ้นเลย ทำให้เราดูดีขึ้น เพราะจริง ๆ เกรซ ไม่เคยทำอะไรกับหน้าเลย ประกอบกับ โตขึ้นหน้าเปลี่ยนด้วย แก้มยุบ แต่หลังจากนี้ 2-3 ปีอาจจะเปลี่ยนไป ในทางที่แย่ก็ได้ใครจะไปรู้ ฉะนั้นเราต้อง ดูแลตัวเองให้ดี

ถาม

พอเสร็จจากการประกวดก็เข้าวงการบันเทิง เล่นเป็นนางร้าย?

ใช่ รับบทร้ายในละคร “ดวงใจและสายน้ำ”ตอนนั้นเกรซไม่คิดอะไรเลยนะ ไม่ยึดติด เพราะเราไม่คิดว่า จะได้โอกาส
ตรงนี้ ตอนนั้นเกรซอยากเป็นนักร้องมากกว่า เพราะชอบร้องเพลงมาก แต่พอมาเล่นร้ายในละครเรื่องแรกเกรซก็เครียดนะ
เราพยายามจะเป็นตัวละครตัวนั้น เราเหนื่อยและกดดัน เนื่องจากช่วงนั้นเราต้องเอนทรานซ์ด้วย แต่เราก็เลือกที่จะทำงานต่อ
เพราะเรารู้สึกว่าโอกาสไม่ได้วิ่งมาหาเราบ่อย ๆ

ถาม	แต่เกรซแปลกกว่าคนอื่นตรงที่จากเป็นนางร้ายดันกระโดดไปเป็นนางเอก?
	เกรซก็สลับไปสลับมา เราทำงานเรื่อย ๆ ไม่เคยเกี่ยงบท เรารู้สึกว่าเราไม่ได้ มีสิทธิที่จะเลือกอะไรได้มาก เกรซจะทำงานตัวเอง ให้เต็มที่มาก กว่า เพราะเกรซสัญญากับตัวเองไว้ว่าในเมื่อเราเสียเวลาเรียนเสียชีวิตวัยรุ่นมาทำงานตรงนี้แล้ว เราต้องทำให้ดีที่สุด เท่าที่เราจะทำได้
ถาม	ตอนนี้มีงานอะไรบ้าง ?
	อุบัติรักเกาะสวรรค์ และ ตำรวจเหล็ก เป็นละครที่ถ่ายต่างจังหวัดทั้งนั้น ถามว่าเหนื่อยมั้ย ก็เหนื่อยนะ แต่มันเป็นสิ่งที่เรา ทำแล้ว มีความสุข พ่อแม่บอกว่าอุปสรรคมีมากีดขวางชีวิตเราทุกวัน เราต้องดิ้นรนขวนขวาย เกรซจะถามตัวเอง เสมอว่าทุกวันนี้เราทำงาน เพื่ออะไร จนกระทั่งวันหนึ่งเราก็ได้พบคำตอบ มีน้อง ๆ แฟนคลับมาหาเกรซที่บ้าน ซึ่งเขาเป็นคนต่างจังหวัด เขาตั้ง ใจมาหาเรา โดยเฉพาะ เขาอยากเห็นหน้าเรา เขาบอกว่าทุกวันนี้เขารอดูผลงานเกรซทุกวัน ทำให้เรารู้แล้วว่าอย่างน้อยเราก็ต้องทำเพื่อคนที่ เขาชื่นชอบผลงานเรานะ

ถาม	แต่ระยะหลังเกรซเป็นนางเอกละครเย็นอย่างเดียว มีน้อยใจผู้ใหญ ่บ้างมั้ย ?
	ไม่เคยน้อยใจเลย เกรซรู้สึกว่าเราทำอะไรที่เราไม่ต้องแข่งขันกับใคร ไม่ต้องไปซีเรียสกับมันดีกว่า ทุกวันนี้เกรซจะมีละครคอมเมดี้บ่อย ๆ เล่นแล้วมีความสุขมาก เกรซขอแค่มีงานให้เราทำไปเรื่อย ๆ ก็พอ
ถาม	เกรซบอกว่าฝันอยากเป็นนักร้อง ณ วันนี้ยังคิดจะทำงานด้านนั้น อยู่มั้ย ?
	ก็มีนะ แต่ก็ไม่ซีเรียสว่าจะต้องทำให้ได้ เพราะเราก็ชอบงานละครที่เราทำอยู่ ไม่คิดยึดเป็นอาชีพ เพราะบางทีเราได้ไปโชว์ตัว ไปร้องเพลงแค่นี้เราก็ พอใจแล้ว
ถาม	แล้วเรื่องเรียนล่ะ?
	ก็เรียนหนักพอสมควร ตอนนี้เรียนปี 4 คณะนิเทศศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัย รังสิต แต่เกรซไม่ได้ยึดว่าเราจะต้องจบทันเพื่อน เพราะเราก็ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย เรื่องการแบ่งเวลาเรียนกับทำงาน เกรซแบ่ง แบบอัตโนมัติเลย ไม่เรียนก็ทำงาน ไม่ทำงานก็เรียนเกรซไม่อยากโหม แม่บอกว่า ไม่ต้อง รีบจบ ท่านกลัวเราเครียด ถามว่าถ้าเรียนจบจะทำงาน ที่เราเรียนมามั้ย

	คือ ตอนนี้เกรซคิดว่าตัวเองอยากเปิดโรงเรียน สอนเปียโน เพราะเราเรียนมา ตั้งแต่เด็ก เรียนมา 10-11 ปี ก็กะจะทำกับแกรนด์ แกรนด์ก็ดูแลเรื่อง สอนเต้นไป
ถาม	อยู่วงการบันเทิงมากี่ปีแล้ว ?
	6 ปี วงการนี้ให้อะไรกับเราทุกอย่าง ทำให้ เกรซรู้สึกว่าถ้าเราไม่ได้ทำอะไร เราก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่งที่ไม่มีประสบการณ์อะไรเลย นอกจากประสบการณ์ในห้องเรียน วงการนี้สอนให้เรามีความรับผิดชอบและให้ความเป็นผู้ใหญ่กับเรา ทำให้เราคิดอะไรลึก มากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขอบคุณคุณพ่อคุณแม่นะ เพราะท่านสอนให้เราคิด
ถาม	ความรักตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?
	โสดค่ะ แต่ไม่ได้ภูมิใจในความโสดของตัวเองเลย เพราะรู้สึกว่าอยากมีความสุขแบบคนอื่น แต่เกรซไม่ได้เอาเรื่องความรัก เป็นปัจจัยใหญ่ในชีวิต เราก็ต้องคิดถึงงานที่ต้องทำ แต่วัยรุ่น 80% ลืมตาขึ้นมาก็คิดถึงแฟน ซึ่งเกรซก็อยากเป็นอย่างนั้นนะ ถ้าเรามีความรักแล้วมีความสุขก็ดี แต่ถ้ามีแล้วทุกข์มันก็ไม่เวิร์กก็อย่าเพิ่งมีดีกว่า

ถาม	ที่ผ่านมาเกรซไม่ค่อยพูดถึงเรื่องความรักเท่าไหร่ ?
	เกรซก็มีความรัก แต่เราเลือกที่จะไม่พูดเท่านั้นเอง เพราะมันเป็นเรื่อง ของ คน 2 คน สุขก็สุขกัน 2 คน ทุกข์ก็ทุกข์กัน 2 คน ไม่อยากให้ เรื่องของเรา ไปเป็นเรื่องของคนอื่นสักเท่าไหร่ เพราะถ้าเกิดมีปัญหา อะไรอย่างน้อย เราก็ยังคุยกันได้ เคลียร์กันง่ายกว่า ถ้าเกิดมีคนอื่น มาเกี่ยวข้องด้วย มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่
ถาม	แล้วกับเจได-ไพศาล ล่ะ ?
ี้	ก็ไม่ค่อยพูดอะไรอยู่แล้ว ทั้งตอนคบและตอนเลิก เพราะเกรซไม่อยาก เปิดเผย เนื่องจากตอนที่ เกรซคบกับแฟนคนแรก เกรซมั่นใจมาก คนถามว่าเป็นแฟนมั้ย เราก็พูดเลยว่าเป็นแฟน แต่พอเลิกกันเราเศร้ามาก หลังจากครั้งนั้นแม่ก็เลยค่อนข้างซีเรียสว่าเวลาคบใครอย่าเพิ่งจริงจังหรือ ประกาศตัวชัดเจนมาก เพราะแม่ไม่อยากให้คนมองว่าเรามีแฟนเยอะ มันเปลืองใจ เปลืองตัว เปลืองเวลา

ถาม	อะไรทำให้ห่างกับพี่เจได ?
	กับพี่เจไดก็ยังติดต่อกันอยู่ เพียงแต่ไม่ได้สนิทเหมือนแต่ก่อน แต่เวลา นึกถึงพี่เจ เขาก็ยังทำให้เรายิ้มได้ บอกได้เลยว่าพี่เจเป็นคนดี เสียสละ มันยากที่เรา จะเจอคนที่คำนึงถึงความสุขของเราก่อน เราไม่ต้องพูด กันมากหรือต้องบอก ทุกคนว่าเป็นแฟนกัน เราพอใจกับตรงจุดนั้น ที่หยุดความสัมพันธ์ กับพี่เจ ไม่ใช่เป็นเพราะเราไม่มีความสุข ที่ได้อยู่ กับเขานะ แต่เราแค่มีความทุกข์ มากกว่าแค่นั้นเอง
ถาม	เป็นเพราะว่าพี่เขาดูแลเราดีตามเรามากเกินไปหรือเปล่า ?
	ไม่รู้จะพูดยังไงดี เอาเป็นว่าบางทีเขากอดเราแน่นเกินไป มันทำให้เรา อึดอัด ถึงวันนึงที่เขากอดเราไม่ให้เราไปไหน ไม่ต้องพูดถึงคนหรอก ขนาดสัตว์มันยังแย่เลย อย่างแม่กอดลูกแน่นไปเรายังไม่ไหวเลยทุกอย่าง มันต้องมีสมดุลไง เหมือนกับต้นไม้ เราจะให้น้ำอย่างเดียว ไม่ให้อากาศ มันก็เหี่ยว รักอย่างเดียวมันไม่พอ ความเข้าใจคือสิ่งสำคัญมาก ความรัก ของคนแต่ละคนแตกต่างกันมาก บางทีถึงเราจะรู้สึกว่าใช่ แต่บางทีถ้ามัน ไม่ใช่เราก็ต้องปล่อยเขาไป

ถาม	เสียดายมั้ยที่ปล่อยให้คนที่รักเรามากเดินจากไป ?
	ไม่เสียดาย พี่เจให้ความสุขกับเกรซเต็มที่มาก ถามว่ากับพี่เจมีโอกาสรีเทิร์นมั้ย คงไม่ค่ะ พี่เจเขาก็มีทางของเขา เราก็มีทางของเรา เราก็เป็นห่วงกันอยู่ห่าง ๆ ไม่ได้โทรศัพท์คุยกันแต่มีบีบีคุยกัน
ถาม	ล่าสุดมีข่าวกับพี่รุจ-ศุภรุจ อีก ?
	อ๋อ! ไม่ใช่เลย เป็นพี่ที่รู้จักกันนานแล้ว แค่คุย บีบีเฉย ๆ แบบพี่น้อง ก็งงว่ามีข่าวออกมาได้ยังไง แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะข่าว แต่ละข่าวมีไว้ให้แก้อยู่แล้ว กับพี่รุจคงไม่มีโอกาสพัฒนามากกว่านี้
ถาม	ถึงจะโสดแต่เกรซก็เป็นคนที่หนุ่ม ๆ อยากเข้ามารู้สึกยังไงบ้าง ?
	มีคนเข้ามาทำความรู้จัก ฝากคนนั้นคนนี้มาบอก เกรซว่ามันก็เป็นแค่ความรู้สึกที่เขาเห็นแล้วถูกชะตา ตัวเกรซเองก็ เป็นคนธรรมดาไม่ได้มีอะไรวิเศษเลิศเลอ บางทีบางคนก็ตั้งฉายาว่าเป็นสาวเจ้าเสน่ห์ เกรซก็รู้สึกขอบคุณ แต่เรารู้สึกว่า เราไม่ได้มีเสน่ห์มากมายขนาดนั้น
ถาม	ถ้าจะมีความรักครั้งต่อไปมองมั้ยว่าต้องเป็นหนุ่มแบบไหน ?
	อยากเจอความรักแบบสบาย ๆ ไม่ผูกมัดกัน ตอนเด็ก ๆ เคยมีอยากได้คนที่หน้าตาแบบนั้นแบบนี้ แต่เกลียดอะไรมักได้ อย่างนั้นเสมอ (หัวเราะ) อยากได้คนเข้าใจเรา แต่มันก็ยาก
ถาม	ตอนนี้มีใครเข้ามาคุยกับเราบ้างมั้ย ?
	เข้ามาคุยทำความรู้จักก็มีบ้าง เราไม่เลือกคุยนะ แต่ก็คุยกันในฐานะเพื่อนไปก่อน ถ้าคน ๆ นั้นทำให้เราสบายใจได้แสดงว่า เราอาจจะพัฒนาไปได้มากกว่านี้ ตอนนี้ยังไม่เจอคนที่ใช่ และเรายังไม่พร้อม เราทำงานเยอะทำให้เราไม่มีเวลามาเจอกัน การที่คนเราคบกันแต่ไม่ได้เจอกัน ได้รู้จักกันแค่ทางโทรศัพท์ รู้จักแต่เสียง หรืออักษรในบีบี ไม่มีภาษากาย เราก็จะไม่รู้ว่า เขาแฮปปี้มากแค่ไหนที่คบกับเรา เกรซว่าเป็นแบบนี้มันไม่เวิร์กหรอก ตอนนี้ก็เลยต้องเป็นโสดไปก่อนค่ะ ยังงไงก็ขอให้เจอคนที่ “ใช่” เร็ว ๆ นะจ๊ะสาวเกรซ.....