ชนากานต์ หรือ อาย (ณัฐชยา มั่งนิมิตร) ลูกสาวคนเดียวจากครอบครัวฐานะปานกลางแต่อบอุ่น แม่ของเธอบอกเสมอว่าผู้เป็นพ่อต้องไปทำงานหนักอยู่ต่างประเทศ เพื่อส่งเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว ทำให้อายไม่ได้เจอหน้าพ่อตั้งแต่ประถม และยังทำให้เธอเป็นคนที่รู้จักเจียมเนื้อเจียมตัว ประหยัดมัธยัสถ์ ตั้งใจเรียน ถึงแม้อายจะเป็นเด็กสาวที่รูปร่างหน้าตาดี แต่เธอก็ไม่ค่อยแต่งตัวหรือทำตัวโดดเด่น เพราะคิดเสมอว่าเธอจะต้องพยายามตอบแทนความเสียสละของพ่อ ด้วยการสอบชิงทุนไปเรียนต่อเมืองนอกให้ได้ และกลับมาทำงานในสายเภสัชกรรมที่ตนร่ำเรียนมา เพื่อให้ทุกคนในครอบครัวมีชีวิตที่สบายขึ้น

 

          แต่แล้ววันหนึ่งเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น อายที่ไปเป็นเพื่อนเพื่อนสาวคนสนิทสมัครคัดเลือกเชียร์ลีดเดอร์ตามคำแนะนำจาก ทัศนัย (ปวิน ชิณวงษ์) รุ่นพี่ จากคณะนิติศาสตร์ อายบังเอิญเก็บใบสมัครลีดเดอร์ของนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 3 คนหนึ่ง ที่ชื่อคล้องกับเธอ แถมนามสกุลและวันเกิดวันเดียวกับเธอ มาย ชนิกานต์ ดำรงค์เวช (อัจฉราภรณ์ กนกนทีสวัสดิ์) ตอนแรกเธอคิดว่าอีกฝ่ายคงเป็นญาติจึงรีบตามหาเพื่อทำความรู้จัก เพราะนับแต่เกิดมาเธอก็ไม่มีญาติพี่น้องคนไหนให้ไปมาหาสู่เหมือนเช่นคนอื่นๆ หญิงสาวหารู้ไม่ว่าความจริงที่รออยู่คือมีดปลายแหลมที่พร้อมทิ่มแทงกรีดลึกในกายเธอให้ตายลงช้าๆ อายไม่คาดคิดเลยว่าการได้พบกับคนที่ชื่อชนิกานต์ครั้งนี้ ถือเป็นคราวเคราะห์ครั้งยิ่งใหญ่ เนื่องจากอีกฝ่ายไม่ใช่แค่ญาติฝ่ายพ่ออย่างที่เธอคาดหวัง แต่ดันเป็นลูกสาวที่เกิดจากภรรยาอีกคนของพ่อที่ขึ้นชื่อว่าเมียหลวง ส่วนมารดาของเธอจึงขึ้นชื่อว่าเป็นเมียน้อยไปโดยปริยาย

 

          คนที่เกลียดคำว่าเมียน้อยสุดโต่ง เพราะฝั่งใจกับคำพูดของเพื่อนๆ ที่มักเล่าให้ฟังบ่อยๆ ว่าพ่อของตัวเองแอบไปมีบ้านเล็กบ้านน้อยทำให้แม่เสียใจต่างๆ นานา อย่างอาย จึงรับสถานะใหม่ของตัวเองไม่ได้ ถึงกระนั้นเธอก็ยังไม่อยากจะเชื่อในทันที จึงย้อนกลับมาคาดคั้นถามแม่ของตนจนกระทั่งรู้ความจริง ซึ่งก็ไม่ได้ต่างมาจากที่รู้มา แถมฐานะของบิดาก็ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เธอรับรู้มาตั้งแต่เกิด แต่กลับร่ำรวยระดับมหาเศรษฐี มันจึงเป็นอีกเรื่องที่เธอทำใจรับไม่ไหว หลังจากที่รู้ว่าพ่อ ผู้เป็นที่รัก และเทิดทูนของเธอ หลอกเธอมาโดยตลอด

 

          ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอเข้าใจว่าพ่อไปเป็นทำงานอย่างหนักอยู่ต่างประเทศ จะกลับมาหาเธอก็เมื่อหมดภาระที่ต้องส่งเสียลูกสาวจนสำเร็จการศึกษา แม้จะรู้สึกเจ็บปวดกับความจริงที่ต้องเผชิญ แต่ลึกๆ มายก็ดีใจที่รู้ว่าตัวเองยังมีปู่และย่าเพิ่มเข้ามาให้เคารพรักอีกสองคน ท่ามกลางข่าวร้ายยังมีข่าวดีให้เธอได้ยิ้มออก แต่มันก็ต้องรอการพิสูจน์ เธอพยายามปัดประเด็นเรื่องที่ตัวเองเป็นลูกเมียน้อยทิ้งไป แล้วเริ่มต้นหาหนทางเข้าไปพบปู่และย่าโดยศึกษาข้อมูลรวมทั้งประวัติของทุกคนในบ้านหลังนั้น อย่างละเอียด นิสิตเภสัชในชุดบ้านๆ ไม่ได้หรูหราเหมือนเช่นลูกอีกคนของพ่อ ก้าวเข้ามาเพราะอยากทดสอบความเป็นจริงบางอย่าง ที่ว่าปู่กับย่าจะมีปฏิกิริยา และความรู้สึกอย่างไรหากรู้ว่าเธอเป็นหลานสาวอีกคน

 

          ถึงจะเดายากว่าตัวเองอาจจะถูกไล่ตะเพิดออกมา หรือจะได้รับการยอมรับ แต่เธอก็แอบหวังว่าจะมีใครสักคนยินดีกับการปรากฏตัวของเธอในครั้งนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นต้องมี ธรรมรงค์ (เวนย์ ฟอลโคเนอร์) พ่อของเธอเอง แต่ทว่าเธอคิดผิดถนัด เพราะนอกจากเธอจะไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากคนที่เธอคาดหวัง อายยังถูกไล่ออกจากบ้านราวหมาตัวหนึ่ง คุณแขไข (พิศมัย วิไลศักดิ์) ผู้เป็นย่า เจ้าของธุรกิจโรงพยาบาลมีชื่ออันดับต้นๆ ไม่ยอมรับเธอเป็นสมาชิกของครอบครัว ปู่ที่พูดอะไรไม่ได้ คอยฟังและทำตามแต่คำสั่งของภรรยาเพียงคนเดียว กับพ่อที่เลี้ยงดูอุ้มชูเธอมาตลอด กลับยืนเงียบงัน ไม่กล้าบอกกลับทุกคนว่าเธอเป็นสายเลือดของตัวเอง ความเสียใจบังคับให้เธอเดินมาจากบ้านหลังนั้นด้วยหัวใจที่แตกสลายเจียนตาย ความเจ็บแค้นเริ่มสุมอยู่ในอก จนอยากเอาคืนคนที่ทำร้ายตัวเอง นับพันครั้งถ้ามีโอกาสสองมือของเธอกำแน่นจังหวะที่ก้าวออกมาอย่างไม่มั่นคง ความเสียใจกลั่นออกมาเป็นหยดน้ำตาที่ไหลอาบสองข้างแก้มที่ไม่มีทีท่าจะหยุดลงง่ายๆ 

 

          เมื่อความฝันทุกอย่างพังทลาย อายเสียใจมากที่พ่อโกหกและไม่ปกป้องเธอ การแก้แค้นเริ่มต้นขึ้นนับจากนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่ ชนิกานต์หรือมายด์ลูกสาวของ มล.ช่อทิพย์ (เมรีนา มุ่งศิริ) ครอบครองอยู่ก็ถูกอาย ลูกสาวของ จิดาภา (สุปราณี เจริญผล) ที่ถูกขึ้นชื่อว่าเมียน้อย แย่งไปหมด อายเปลี่ยนตัวเอง เปลี่ยนบุคลิกตัวเองจนสวยงามโดดเด่น ทั้งเรื่องรูปลักษณ์ สังคม และการเรียน ทัศนัยที่แอบประทับใจและแอบมองอายอยู่ห่างๆ ก็รู้สึกชื่นชมและเอาใจช่วย แต่ก็มิได้รู้สาเหตุที่แท้จริงของการเปลี่ยนตัวเองของอายในครั้งนี้ ทุกรางวัลที่มายเคยได้ทุกตำแหน่ง หรือแม้แต่ความชื่นชมที่คนในมหาวิทยาลัย รุ่นพี่รุ่นน้องมีให้กับมาย กลับถูกอายขโมย และแย่งไปได้หมด ขาดอยู่ก็เพียงอย่างเดียว ก็คือคนรักของมาย วาทิศ (กันติพัส นาคปั้น) หนุ่มหล่อนักธุรกิจ ลูกชายเจ้าของบริษัทยายักษ์ใหญ่ ที่ผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายอยากให้ลูกหลานเป็นทองแผ่นเดียวกัน เพราะธุรกิจครอบครัวของมาย ก็คือ โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่มี

 

          คุณย่าแขไขเป็นเจ้าของ ซึ่งคุณแขไขย่าของมาย ก็เป็นเพื่อนสนิทของ คุณหญิงสจีย่าของวาทิศเช่นกัน เมื่อโรงพยาบาลกับบริษัทยายักษ์ใหญ่ทำธุรกิจร่วมกันและเกี่ยวดองกัน ด้วยการให้หลานของ 2 ตระกูลแต่งงานกัน ก็เหมือนเรือล่มในหนอง ทองก็ต้องเพิ่มพูนเท่าทวีทั้ง 2 ตระกูลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ท่ามกลางความงุนงงของทุกคน เพื่อนนักศึกษา คณะอาจารย์ รวมทั้งมาย ที่ต้องยอมพ่ายแพ้ ประกอบกับคำนึงถึงคำพูดของบิดา ที่เคยขอไว้ว่าพี่น้องกันอะไรยอมได้ก็ยอมกันไป ทำให้เธอไม่คิดช่วงชิงอะไรที่เสียไปแล้วกลับคืน เธอยอมเพราะเห็นว่าครอบครัวตัวเอง ทำผิดกับฝ่ายนั้นเอาไว้มาก ยอมเพื่อให้เรื่องมันจบลงเพียงเท่านี้

 

          อายยอมเอาตัวเข้าแลก เธอวางแผนที่จะแย่งวาทิศมากจากมาย ด้วยการไปเริ่มทำงานเป็นพนักงานขายที่บริษัทยาของวาทิศ หวังที่จะได้เข้าไปใกล้ชิด แต่ก็ไม่สามารถเข้าถึงตัวผู้บริหารอย่างวาทิศได้ ที่ทำได้ก็แค่แต่ตีสนิทกับทนายส่วนตัวของวาทิศ ซึ่งก็คือทัศนัย ที่ตระกูลของเขาดูแลเรื่องกฎหมายให้กับบริษัทของวาทิศตั้งแต่รุ่นปู่ อายหารู้ไหมว่าทัศนัยแอบชอบเธอ แม้แต่วันที่ทัศนัยรวบรวมความกล้า จะเข้าไปบอกรักเธอ แต่เธอกลับลาออกไปโดยไม่ได้บอกลา  อายรู้ตัวดีว่า ถ้ายังอ่อนด้อยอยู่แบบนี้ เธอไม่มีวันที่จะแย่งวาทิศและทุกอย่างจากมายมาได้สำเร็จ หญิงสาวที่กระเสือกกระสน ดิ้นรนด้วยตัวเอง ไม่หวังพึ่งเม็ดเงินของพ่อที่พยายามหยิบยื่นให้ตลอดมา หลังจากที่เขาไม่ขยับปากบอกทุกคนว่าเธอเป็นลูก เธอก็ปฏิเสธการเป็นพ่อของเขาทันทีเหมือนกัน เพราะเป็นคนเรียนเก่ง หัวดี ในที่สุดเธอก็สอบชิงทุนไปเรียนต่อด้านการตลาดที่อเมริกาได้สำเร็จ และได้ทำงานในบริษัทยาชั้นนำที่นั่นอีก 1 ปี เรียกได้ว่าเป็นผู้หญิงที่ทั้งสวยและเก่งจนใครๆ ต้องอิจฉา

 

          ชีวิตหลังแต่งงานของมายและวาทิศ ดูเหมือนจะมีความสุขจนเป็นที่อิจฉาของคนในแวดวงแพทย์ ได้เพียงไม่กี่ปีเท่านั้น เพราะแม้ว่าวาทิศจะมีความรักและผูกพันกับมายมากเพียงใด แต่เขาก็ไม่สามารถทิ้งลายความเจ้าชู้บริหารเสน่ห์ กับพนักงานขายยาสาวๆ หรือหมอ พยาบาลน่ารักๆ ที่แวดล้อมเขาในที่ทำงานได้เลย ความวุ่นวายต่างๆ จึงเริ่มก่อตัวขึ้น จนวันหนึ่ง อายปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งหลังจากหายไปสามปี พร้อมกับการแต่งตัวที่เปลี่ยนไปภายใต้ชื่อใหม่ณัฐสินี  เธอกลับมาจากเมืองนอกพร้อม สมัญญา (รัตนาภรณ์ กลิ่นกุหลาบหิรัญ) ที่กลับมาเปิดร้านกาแฟอยู่ใกล้บริษัทของอาย และยังมี ธเนศหรืออัลเบิร์ต (พรรณเชษฐ ทิมใจ) เพื่อนที่เรียนด้วยกัน ที่แอบปลื้มและคอยช่วยเหลืออายตลอดเวลาที่อยู่เมืองนอก ทั้งหมดกลับมาเริ่มต้นชีวิตที่เมืองไทยอีกครั้ง

 

           การกลับมาทำงานในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาดของอายครั้งนี้ เป็นที่ฮือฮาของทุกคนในออฟฟิศเพราะเธอกลับมาในมาดใหม่ สวย เซ็กซี่ มั่นใจ และยังสามารถเปิดตัวสินค้าใหม่ที่เธอใช้ความสามารถเข้าร่วมทุนกับบริษัทยักษ์ใหญ่ของต่างชาติได้สำเร็จ เป็นที่ชื่นชมของคนในบริษัท โดยเฉพาะประธานบริษัทอย่างวาทิศ ที่เมื่อก่อนสมัยเธอเป็นพนักงานขายยาตัวเล็กๆ ไม่สามารถแม้แต่จะเข้าถึง หรือทำงานใกล้ชิดกับวาทิศได้เลย ในขณะที่อายกำลังรุ่งและค่อยๆ สานสัมพันธ์กับวาทิศ ตามแผนที่วางไว้ ฝ่ายมายกลับเกิดปัญหาเรื่องงานเพราะคนไข้ในศูนย์เบาหวานของเธอ เกิดโรคแทรกซ้อนโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งเธอและเกรซหรือวัชรี เภสัชกรสาวเพื่อนสนิทของมาย ตั้งแต่สมัยมัธยม ก็ช่วยกันหาคำตอบให้กับผู้ป่วยรายนี้ จึงทำให้เธอไม่ค่อยมีเวลาให้วาทิศ และเริ่มระหองระแหงกันบ่อยๆ เพราะนอกจากเรื่องความเจ้าชู้ของวาทิศแล้ว ทั้งคู่ก็มักจะขัดแย้งกันเรื่องงาน เพราะมีทัศนคติด้านการทำงานที่ไม่ตรงกัน

 

          ในที่สุดมายและเกรซ ก็ได้ค้นพบว่ายาที่บริษัทของวาทิศ ร่วมมือกับโรงพยาบาลของตน ว่าเป็นยารักษาเบาหวานตัวใหม่ที่มีประสิทธิภาพที่สุดในเอเชีย น่าจะมีปัญหาจนทำให้เกิดผลข้างเคียงอะไรบางอย่างกับคนไข้ เพราะพวกเธอ พบข้อมูลนี้จากของคนไข้รายหนึ่ง ที่เกือบเสียชีวิตจากปัญหาลิ้มเลือดอุดตันในหัวใจ แต่หมอมายก็ช่วยชีวิตไว้ได้ทัน ทำให้ ทาร์มไท (วิชยุตม์ ศุภพร) นักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อลูกชายของคนไข้รายนั้น เกิดความประทับใจ หมอมาย และตกหลุมรักเมื่อแรกเห็น ขณะที่งานของอายกำลังไปได้สวย เธอก็ขอร้องให้มอคค่าเพื่อนสนิท ช่วยทำรีวิวยาลดความอ้วนตัวใหม่ของบริษัท ซึ่งตอนหลังยาตัวนี้ทำให้เกิดเรื่องราวขึ้นในโลกออนไลน์ จนเพจดราม่ามาเนียที่ทัศนัยแอบดูแลอย่างลับๆ เป็นงานอดิเรก ออกมาโจมตีอย่างเผ็ดร้อน เป็นเหตุให้มอคค่าและหมวดสมคิด ซึ่งเป็นนามแฝงของทัศนัยที่ใช้ในการดูแลเพจดราม่ามาเนีย เป็นคู่กัดกันในโลกออนไลน์นับแต่นั้น

 

          ถึงแม้ทั้งคู่จะไม่รู้จักตัวจริงของกันและกัน แต่เมื่อทัศนัยได้บังเอิญมาเจอมอคค่าที่ร้านกาแฟ ก็กลับมีเหตุให้ต้องเหม็นหน้ากันอีก ยิ่งมอคค่ารู้ว่าทัศนัยเคยแอบชอบอาย เธอก็ยิ่งตามกัดไม่เลิก ซึ่งระหว่างที่ทัศนัยขุดคุ้ยสืบเรื่องยาลดความอ้วนที่มอคค่ารีวิว ทัศนัยจึงได้รู้ว่าบริษัทยาจากต่างชาติที่ผลิตยาลดความอ้วนตัวนี้ เคยมีคดีเรื่องยาเบาหวาน เมื่อ 5 ปีที่แล้ว แต่บริษัทปิดข่าว ระหว่างนั้นคุณแขไขได้มอบหมายงานเปิดตัวศูนย์โรคเบาหวานที่ทันสมัยที่สุดในประเทศ ให้หมอมายผู้เป็นหลานช่วยรับไปดูแล โดยหมอมายต้องไปทำงานร่วมกับบริษัทยาของพระเอก ซึ่งจะเปิดตัวยารักษาเบาหวานตัวใหม่อย่างเป็นทางการในงานนี้ด้วย

 

           ในวันงาน อายมาในฐานะผู้จัดการฝ่ายการตลาดสาว เธอสวยโดดเด่น และทำตัวใกล้ชิด วาทิศจนคนในงานเข้าใจผิดคิดว่าเป็นมาย ทั้งคุณแขไข และธรรมรงค์ ต่างตกใจที่ได้เห็นอายในงานอีกครั้ง ส่วนมายกลับมาร่วมงานสาย และชุดราตรีฉีกขาด เนื่องจากแวะช่วยผู้ประสบอุบัติเหตุระหว่างทาง ก่อนที่งานเปิดตัวศูนย์โรคเบาหวานจะเริ่ม อายและมายหลบมุมไปปะทะคารมกัน 2 คน หลังจากนั้นอายได้ที ก็ยั่วคุณแขไขด้วยการใกล้ชิดวาทิศ อย่างออกหน้าออกตา คุณแขไขทนไม่ไหว จึงด่าอายต่อหน้าแขก และนักข่าวว่าอายเป็นลูกเมียน้อย จะมาทำพฤติกรรมซ้ำรอยแม่ แย่งสามีชาวบ้าน  เมื่องานเลิก วาทิศตามง้อมาย และบอกว่าตนไม่ได้คิดอะไรกับอาย แต่ในทางตรงกันข้ามภรรยาของตนต่างหาก ที่มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เหมือนกำลังไปมีใครใหม่ วันรุ่งขึ้น อายมาทำงาน เพื่อนร่วมงาน และคนทั้งบริษัทนินทา ว่าเธอแอบกิ๊กกับเจ้านาย พอกลับบ้านอายก็โดนจิดาภา แม่ของตนเรียกมาตักเตือน เพราะเครียดที่เห็นข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์ อายโดนแม่พูดจี้ใจดำจนทำให้เธอรู้สึกแย่กับสิ่งที่ทำลงไป 

 

          ไม่นาน ข่าวลือในบริษัทก็เริ่มหนาหูขึ้น ว่าเบื้องบนจะปลดอายออกจากตำแหน่ง เธอเครียด และรู้สึกแย่ เพราะนอกจากจะเป็นการขัดขวางแผนของเธอแล้ว ทุกวันนี้เธอก็เป็นเพียงผู้เดียวที่หารายได้เลี้ยงครอบครัว และดูแลแม่ ในที่สุดวาทิศก็เรียกเธอเข้าพบ เธอคิดว่าวาทิศจะไล่เธอออกตามคำสั่งของคุณแขไข แต่ตรงกันข้าม วาทิศกับปลอบเธอ และแสดงความเห็นอกเห็นใจ จนทำให้อายเริ่มเกิดความประทับใจในวิธีคิด และความอ่อนโยนของวาทิศในมุมที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน จนเธอเริ่มเผลอตกหลุมรักวาทิศอย่างไม่รู้ตัว ทั้งคู่เริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น จนสุดท้ายเธอก็ตกเป็นของวาทิศ แม้ความสัมพันธ์ของอายและวาทิศจะยิ่งแนบแน่นมากขึ้นเท่าไร แต่อายกลับต้องเตือนใจตัวเองไม่ให้รักวาทิศ ขณะเดียวกันมายก็มั่วแต่ยุ่งเรื่องการสืบคดียาเบาหวาน ทำให้เธอกับวาทิศเริ่มทะเลาะและผิดใจกันมากขึ้นทุกที ฝ่ายวาทิศก็เริ่มเห็นการแทรกซึม รอตีท้ายครัวของทาร์มไท ซึ่งเปรียบเสมือนเชื้อไฟปะทุความสัมพันธ์ของเขาและหมอมายให้ยิ่งร้าวฉาน

 

          ฝ่ายคุณแขไข เมื่อเห็นหมอมายหลานสาว เริ่มสืบเรื่องยาไปจนใกล้ถึงต้นตอผู้กุมความลับ ซึ่งอาจทำให้ทุกอย่างที่เธอและคุณหญิงสจีร่วมสร้างกันมาต้องล้มพังไม่เป็นท่า คุณแขไขจึงสั่งลูกน้องให้ไปขู่ทำร้ายจิดาภา ผู้กุมความลับอันเลวร้ายในอดีต ที่เธอกับคุณหญิงสจีเคยทำไว้ร่วมกัน เหตุเพราะจิดาภาเคยเป็นอดีตพยาบาลในโรงพยาบาล และได้ล่วงรู้ความลับนี้โดยบังเอิญ นอกจากนั้นคุณแขไข ยังเคยขัดขวางความรักระหว่างธรรมรงค์ลูกชายของตนกับจิดาภา ไม่ให้ได้แต่งงานกัน ทั้งๆ ที่ทั้งคู่รักกัน แล้วจับลูกชายของตนคลุมถุงชน ให้ไปแต่งงานกับ มล.ช่อทิพย์ หญิงจากตระกูลสูงศักดิ์แทน

 

          ระหว่างนั้น 2 คู่กัด ทัศนัยและมอคค่า ก็พยายามขุดคุ้ยสืบคดี และแฉกันเองในโลกออนไลน์อย่างไม่ลดละ จนทั้งคู่ได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของกันและกันว่าคือใคร ส่วนหมอมายและเกรซ ก็ทำงานและสืบคดีอย่างหนัก อายเริ่มมาราวีมายที่โรงพยาบาล ทำสงครามประสาท และคอยแก้เกมเรื่องคดียาเบาหวานให้กับบริษัทของวาทิศ จนหมออายเกือบเพลี่ยงพล้ำเสียท่าหลายหน แม้หมอมายจะสามารถไขความลับของคดียาเบาหวานได้ใกล้ต้นตอมากขึ้นเท่าไหร่ แต่ความสัมพันธ์ของเธอกับวาทิศกลับยิ่งห่างออกไปเท่านั้น จนวันหนึ่งมายก็ได้รับรู้ว่า อายสามารถแย่งวาทิศไปจากเธอได้แล้วจริงๆ ภายหลังมายรู้ว่าตัวเองท้องกับวาทิศ จึงทำให้วาทิศทิ้งอายด้วยเพราะเริ่มเบื่อ และหันกลับมาหาหมอมายเหมือนเดิม แต่ก็เหมือนโชคชะตาจะเล่นตลก เมื่อวันที่อายเสียใจเพราะโดนวาทิศทิ้งขว้าง ทัศนัยเข้ามาปลอบให้สติ ทั้งคู่เกิดพลาดมีอะไรกัน เพราะสับสนในความรู้สึก และอายก็อยากพิสูจน์ว่าจริงๆ แล้ว ตัวเองรักวาทิศหรือไม่ จนสุดท้ายเธอก็มารู้ว่าการหายไปของวาทิศ ไม่ได้สร้างความเจ็บปวดเพราะเธอพ่ายแพ้ แต่ที่เจ็บเพราะเธอพึ่งรู้สึกตัวว่า เธอรักวาทิศเข้าเต็มหัวใจ

 

          หลังจากนั้นไม่นาน อายก็รู้ว่าตัวเองท้องได้ 2 เดือน ซึ่งแน่นอนว่าพ่อของเด็กต้องไม่ใช่ทัศนัย แต่เป็นวาทิศ อายบอกวาทิศเรื่องที่เธอท้อง และยื่นข้อเสนอให้วาทิศเลือกระหว่างเธอและมาย แต่ว่าทิศกับเกลี้ยกล่อม และพูดให้อายยอมรับสภาพ และบอกว่าอยากเก็บอายกับมายไว้ทั้งสองคน ทำให้อายผิดหวังมาก ซ้ำร้ายลูกของเธอเป็นธาลัสซีเมีย หมอบอกว่าจำเป็นต้องเอาเด็กออก แต่ทว่าวาทิศไม่รู้เรื่องนี้ ระหว่างนั้นคุณแขไขส่งคนมาข่มขู่ทำร้ายแม่ของอายอีกครั้ง แต่คราวนี้อายมาเห็น และช่วยไว้ได้ทันจึงทำให้อายโดนลูกหลงจนเกือบแท้ง อายหมดความอดทนจึงทิ้งไพ่ใบสุดท้าย คือการบุกไปบ้านคุณแขไขอีกครั้ง แต่คราวนี้เธอเข้าไปต่อรองกับคุณแขไข พร้อมเลือดเนื้อเชื้อไขของวาทิศในท้องของเธอ 

 

          ขณะที่อายไปบุกบ้านคุณแขไข คุณแขไขรู้ว่างานไม่สำเร็จ จึงสั่งให้ลูกน้องกลับไปซ้ำรอยจัดการแม่ของอายอีกครั้ง แต่คราวนี้ธรรมรงค์แอบได้ยินจึงรู้แผนการ และตามไปปกป้องจิดาภา ส่วนมายก็สืบรู้ความลับเรื่องยาได้พอดีจึงอยากจะเข้ามาเคลียร์กับแขไข แต่ไม่ทันที่มายจะได้เคลียร์กับย่าของตน อายบุกเข้ามาในบ้านของแขไข ปะทะคารมกับแขไขและมายต่อหน้ามล.ช่อทิพย์ และทวงสิทธิ์ให้กับลูกของตัวเอง เธอเอาลูกมาใช้เป็นเครื่องมือในการต่อรอง ให้วาทิศหย่าขาดจากมาย แขไขไม่ยอมรับและด่าว่าจี้ใจดำเรื่องเมียน้อย ว่าอายก็เหมือนกับจิดาภา อายบันดาลโทสะ เข้าไปตบตีมาย ทำให้มายพลาดตกบันไดจนตกเลือด ขณะเดียวกันลูกน้องคุณแขไขก็ไปบุกบ้านจิดาภาจะยิงให้ตาย แต่เกิดพลาดจนทำให้ธรรมรงค์ที่เข้าไปช่วยจิดาภา ตายคาที่ส่วนจิดาภาก็บาดเจ็บสาหัสถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หลังจากที่อายพลั้งมือทำร้ายมายและเตลิดหนีออกมา เธอก็ได้ทราบข่าวว่าแม่ของตน โดนยิง บาดเจ็บสาหัสอยู่โรงพยาบาล เมื่อได้ทราบข่าวการเสียชีวิตของธรรมรงค์ คุณแขไขถึงกับสลบไป ส่วนมายก็เลือดไหลไม่หยุด ทั้งคู่จึงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเช่นกัน 

 

          มายฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตนได้เสียลูกไปแล้ว เธอขอหย่ากับวาทิศ เพราะทนไม่ได้อีกต่อไปกับการกระทำของวาทิศ และอยากหยุดทุกเรื่องราวที่ผ่านมา อายมาดูใจแม่ทันเวลา จิดาภาสั่งเสียลูกและบอกความลับทุกอย่างให้ฟัง คุณแขไขนั่งรถเข็นมาเยี่ยมมาย มายจึงได้เคลียร์กับคุณแขไข เมื่อเธอได้รู้ความจริงจากปากของผู้เป็นย่า เธอจึงรู้สึกแย่ และผิดหวังอย่างแรงกับการกระทำของย่า คำพูดของมายกระทบจิตใจของคุณแขไขจนทำให้อาการยิ่งทรุดหนัก สุดท้ายคุณแขไขต้องกลายเป็นอัมพาต เรื่องคดียาเบาหวานก็ถูกเปิดโปง บริษัทของวาทิศล้มละลาย วาทิศสูญเสียทุกอย่าง เขาไม่เหลือใคร จึงกลับไปหาอาย เพราะคิดว่าลูกของตนยังอยู่ในท้องอาย ขณะที่ทัศนัยก็ต้องจัดการคดีในฐานะทนายของบริษัท แต่ก็ไม่ได้เข้าข้างวาทิศ เพราะเป็นคนรักความยุติธรรม และจากเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมา ที่ทำให้ทัศนัยสับสนและเสียใจ ทำให้ท่าทีของทัศนัยอ่อนลง มอคค่าจึงเริ่มมีความเห็นใจให้ทัศนัย และเริ่มทำดีด้วย 

 

          เมื่อทั้งทัศนัยและมอคค่าประกาศสงบศึก และเริ่มเข้าใจกัน ทั้งคู่เริ่มเกลี้ยกล่อมให้เพื่อนทั้ง 2 ฝั่งของตน หยุดการกระทำที่ไม่ดี ระหว่างที่วาทิศ อาย และหมอมายกำลังกลับไปตกตะกอนกับตัวเอง คิดทบทวนเยียวยาจิตใจ ทาร์มไทก็เข้ามาแทรกซึมดูแลมาย และบอกความในใจว่า ถ้าหมอมายหย่ากับวาทิศจะรับตนเข้าไปแทนทีได้ไหม แต่มายก็รู้ใจตัวเองดี ว่าทาร์มไทเป็นได้แค่เพื่อนจริงๆ ทางด้านวาทิศก็ยังมาตามง้อมาย หวังที่จะได้ใครสักคนกลับมา แต่สุดท้ายเมื่อมายยังยืนยันที่จะขอหย่า วาทิศก็ต้องยอมทำ เพื่อเป็นสิ่งสุดท้ายในการช่วยปกป้องมายจากคดีที่บริษัทของตนโดนฟ้อง และกำลังจะล้มละลาย หลังจากที่เรื่องทุกอย่างคลี่คลาย ธเนศหรืออัลเบิร์ตก็เข้ามาดูแลเยียวยาจิตใจของอาย เหมือนที่เขาเคยทำมาตลอด และชวนอายไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับเขาที่อังกฤษ

 

          เมื่อถูกปฏิเสธจากมาย วาทิศกลับไปหาอายอีกครั้ง และบอกว่าตอนนี้ เขาหย่าขาดจากมายเรียบร้อยแล้ว คราวนี้อายจะได้เป็นเมียหลวงโดยสมบูรณ์ และเขาก็ยังพอมีสมบัติเหลืออยู่คือบ้านหลังเล็กๆ ที่ต่างจังหวัด เขาจึงวาดฝัน ชวนอายและลูกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน อายได้แต่เย็นชาใส่ ปฏิเสธวาทิศ และบอกว่าเธอไม่มีลูกของวาทิศอยู่ในท้องอีกแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเธอต้องการออกจากชีวิตเขา และกำลังจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ ในขณะที่วาทิศไม่เหลือใคร แต่ความสัมพันธ์ระหว่างทัศนัยกับมอคค่ากลับดีวันดีคืน อาจจะเป็นเพราะทั้งคู่มีความสนใจหลายๆ เรื่องคล้ายกัน โดยเฉพาะเรื่องในโลกออนไลน์ และยิ่งได้ผ่านเรื่องราวมากมายมาด้วยกัน จึงทำให้ทั้งคู่เห็นด้านดีๆ ของกันและกัน วาทิศมาหาทัศนัย และต่อว่าทัศนัยที่ไม่พยายามช่วยตน ทั้งๆ ที่เป็นทนายของบริษัท แต่ก็โดนทัศนัยตอกกลับ ถึงธุรกิจยาอันแสนเลวร้ายของคุณหญิงสจีและคุณแขไข และต่อว่าที่วาทิศปกปิดเรื่องนี้มาโดยตลอด เพราะถ้าเขารู้ความจริง ต่อให้คุณพ่อหรือคุณปู่ของเขาเป็นทนายเก่าแก่ประจำตระกูลนี้มาเนิ่นนานเพียงใด แต่เขาก็ขอเลือกที่จะอยู่ข้างความยุติธรรมมากกว่า 

 

          ในวันที่อายจะบินไปต่างประเทศ วาทิศมาต่อว่าอาย หาว่าพอวาทิศล้มละลาย อายก็ทิ้งเขาไปหาคนใหม่ วาทิศเสียใจมากที่ทุกคนทิ้งเขาไป วาทิศตั้งสติได้ว่าคนที่เขารัก และผูกพันธ์ที่สุดซึ่งก็คือมาย เธอคงสงสารและให้อภัยเขา วาทิศจึงไปหามายที่บ้าน เขาเห็นมายเข็นรถเข็นให้คุณแขไขที่เป็นอัมพาต ออกมาสูดอากาศหน้าบ้าน แต่พอมายรู้ว่าวาทิศมาหา ก็ปฏิเสธและไม่ยอมให้เข้าบ้าน และไล่วาทิศให้ออกไปจากชีวิตของมายเสียที เพราะมายต้องการอยากชดใช้กรรมที่ก่อไว้กับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับชีวิต สุดท้ายวาทิศก็ไม่เหลือใคร และกลายเป็นคนเดินดินธรรมดา ไม่ใช่หนุ่มสุดหล่อเจ้าของบริษัทยายักษ์ใหญ่อีกต่อไป ด้วยชีวิตที่ตกต่ำเขาจึงได้แต่กินเหล้าแก้กลุ้มที่ร้านอาหารราคาถูกข้างทาง แต่ก็ไม่วายที่ผู้ชายรักตัวเองและมักมากอย่างเขา จะไม่เข็ด และไม่หยุดพฤติกรรมเจ้าชู้ เขาส่งสายตาให้กับสาวหมวยลูกสาวเจ้าของร้าน เมื่อเจ้าหล่อนมีที่ท่าจะเล่นด้วยวาทิศก็เริ่มต้นสร้างเวรกรรมครั้งใหม่ของเค้าทันที ติดตามชม ละคร มายาฉิมพลี ได้ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 19.15 - 20.15 น. ทางช่อง 3 SD ละคร มายาฉิมพลี เริ้มตอนแรกวันศุกร์ที่ 23 กันยายน 2559