ข่าว > ข่าวหนังทั้งหมด > วิจารณ์หนังใหม่

ทาสรักอสูร

10 ก.ค. 2557 09:26 น. | เปิดอ่าน 1826 | แสดงความคิดเห็น
แชร์หน้านี้ แชร์หน้านี้
 

 

ขอเชิญชาวหนังดีทุกคนมาวิพากษ์วิจารณ์หนังเรื่องนี้กันใครไปดูมาแล้ว เป็นยังไงหนุกไม่หนุกบอกกันมาเลย

*** หากจะสปอยล์เนื้อหาบางส่วนของเรื่อง แนะนำให้เตือนสมาชิกคนอื่นๆ ล่วงหน้า
โดยให้สมาชิกคนอื่นได้เห็นคำว่า
สปอยล์ หรือ Spoil กันอย่างชัดเจนด้วยนะจ๊ะ

: ทาสรักอสูร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • แซ่บเว่อร์!! “อุ้ม-ลักขณา” จัดเต็มลีลาเซ็กซี่ เต้นรูดเสายั่ว “นายหัวหม่ำ” ใน “ทาสรักอสูร”
  • “นายหัวหม่ำ” โชว์ลูกโหดปกป้องทาสรัก “พิ้งกี้” อัด “บ่าววี-หลวงไก่” น็อกคากอง ใน “ทาสรักอสูร”
  • “หม่ำ” ควงลูกสุดเลิพ “น้องเอ็ม นำทีมคู่รักเช็คความโหดฮา แบบภาพยนตร์ "ทาสรักอสูร"
  • “ทาสรักอสูร” ชวนคู่รักฮาร์ดคอร์ เช็คความโหดฮา ในกิจกรรม “รักหฤโหด โคตรหฤเลิพ แบบทาสรักอสูร กับ FM One”
  • การกลับมาอีกครั้งของดาวร้ายหน้าสวย อ๋อม-สกาวใจ ที่จะทั้งร้าย-ฮา-สวย ในภาพยนตร์รักหฤโหด โคตรมหาฮา ทาสรักอสูร
  •  
     
     
    ร่วมแสดงความคิดเห็น
     
    ชื่อ :
     
    ความคิดเห็น :
     
     
     
     

    ความคิดเห็นที่ 11  จากคุณ ทาสรักนักข่มขืน     11 ก.ค. 2557 04:37 น.

    คดีข่มขืนผู้โดยสารบนรถไฟ กรณีของเด็กหญิงอายุ 13 ปี ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ก่อนนี้ ในปี 2544 เดือนกรกฏาคม เคยเกิดเหตุที่หญิงสาว ป.โท ใช้บริการตู้นอนรถไฟชั้นสองสายใต้ ถูกลูกจ้างปูที่นอนข่มขืน ศาลตัดสินเมื่อปี 2551 ลงโทษจำคุก 9 ปี โดยคดีนี้ผ่านมา 13 ปีแล้วคดียังอยู่ระหว่างการฟ้องศาลแพ่งในชั้นฎีกา!!!


    ความคิดเห็นที่ 10  จากคุณ สังคมไทยควรเรียนรู้?     11 ก.ค. 2557 04:34 น.

    คงปฏิเสธไม่ได้ว่าตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องราวที่ถูกพูดถึงมากที่สุดใน Social Media น่าจะหนีไม่พ้นกรณีที่เด็กหญิงวัย 13 ปี หายตัวไปในช่วงกลางดึกระหว่างการเดินทางพร้อมพี่สาว น้องสาว และเพื่อนชายของพี่สาวจากสถานีรถไฟพุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี มุ่งหน้ากรุงเทพมหานคร ด้วยขบวนรถเร็ว ตู้นอนชั้น 2 (พัดลม) เมื่อเดินทางมาถึงจุดหมาย พี่สาวและญาติได้แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งขอให้สื่อมวลชนช่วยประกาศหา แต่ยังไม่ทันข้ามคืน ก็มีผู้พบผ้าปูที่นอนที่ใช้บนรถไฟตู้นอนเปื้อนเลือด อยู่บริเวณข้างทางรถไฟ ก่อนจะพบศพเด็กหญิงผู้เคราะห์ร้ายในบริเวณไม่ไกลกัน หลังจากที่นายวันชัย แสงขาว พนักงานปูที่นอนบนขบวนรถดังกล่าว ยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ข่มขืนและฆ่าเด็กหญิงก่อนจะโยนศพทิ้งข้างทางดังกล่าว คดีนี้ ได้สร้างความสะเทือนใจให้กับสังคมไทยในทุกระดับ ขณะเดียวกันก็ได้เกิดกระแสการเรียกร้องให้มีการเพิ่มโทษในความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราในทุกกรณี เป็นโทษประหารชีวิต เพื่อให้เกิดความเกรงกลัวในหมู่ผู้ที่จะกระทำความผิดข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น แต่ในอีกมุมหนึ่ง ก็มีการรณรงค์ให้ผู้จัดละครทางโทรทัศน์เลิกเผยแพร่ทัศนคติที่ว่า การล่อลวงข่มขืนเป็นสิ่งปกติ โดยทัศนคติเหล่านี้มักปรากฏอยู่ในละคร เช่น ในสถานการณ์ที่พระเอกข่มขืนนางเอก แต่ดูเหมือนจะยังไม่ได้รับการตอบรับมากเท่ากับข้อเรียกร้องในการเพิ่มโทษในคดีข่มขืน นอกจากนี้ ยังมีข้อเรียกร้องอื่นๆ อีก เช่น การเรียกร้องให้นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย ลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบ การเรียกร้องให้มีการปฏิรูประบบรักษาความปลอดภัยให้ผู้โดยสารในขบวนรถไฟ รวมถึงการเรียกร้องให้การรถไฟฯ ออกระเบียบห้ามการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนขบวนรถ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่ผู้โดยสารถูกพนักงานการรถไฟข่มขืนบนขบวนรถ ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่เมื่อ 13 ปีก่อน ก็มีคดีการข่มขืน***ปริญญาโท แต่ผู้กระทำความผิดไม่ได้ลงมือฆ่าหญิงผู้เคราะห์ร้าย ซึ่งยังมีคดีฟ้องร้องทางแพ่งกับการรถไฟฯ อยู่จนถึงขณะนี้ ดังนั้น จากเหตุการณ์อันน่าสลดใจในครั้งนี้ สังคมไทยควรจะเรียนรู้เรื่องอะไรบ้าง เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้ เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก.... ประการที่ 1 คนไทยต้องตั้งสติว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์เศร้าสลดเช่นนี้ การที่จะออกมาเรียกร้องหรือรณรงค์ในเรื่องใด ควรจะต้องมีการศึกษาถึงผลได้ผลเสียอย่างรอบคอบ ไม่ใช่เอาแต่ตามกระแส หรือ “ตามแห่” ไปโดยขาดความรู้ความเข้าใจ โดยเฉพาะข้อเรียกร้องในเรื่องการเพิ่มโทษในคดีข่มขืนเป็นโทษประหารชีวิตทั้งหมด ว่าจะสามารถลดการกระทำความผิดในคดีข่มขืนได้จริงหรือไม่ เพราะในความเป็นจริงแล้ว ในคดีที่มีการข่มขืนแล้วฆ่านั้น ถ้าผู้ถูกกระทำมีอายุต่ำกว่า 5 ปี ศาลก็สามารถสั่งลงโทษประหารชีวิตผู้กระทำความผิดได้อยู่แล้ว ในทางกลับกัน การเพิ่มโทษดังกล่าว อาจจะมีผลให้การก่อคดีข่มขืนรุนแรงขึ้น โดยผู้กระทำความผิดอาจตัดสินใจลงมือฆ่าเหยื่อเพื่อปิดปากมากขึ้น ประการที่ 2 สังคมไทยควรหันมารณรงค์เปลี่ยนค่านิยมของเพศชายที่ถูกปลูกฝังผ่านสื่อละครทีวีว่า ผู้ชายสามารถมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงคนไหนก็ได้ ไม่ได้เป็นเรื่องผิดปกติแต่อย่างใด ขณะเดียวกัน ก็ต้องหามาตรการที่จะทำให้ผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อการข่มขืนกล้าออกมาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด เพื่อให้เกิดการเข็ดหลาบและไม่กล้ากระทำความผิดซ้ำอีก ซึ่งหากไม่มีกระบวนการที่จะทำให้เหยื่อกล้าออกมาต่อสู้มากขึ้น ผู้กระทำความผิดก็จะได้ใจและกระทำความผิดซ้ำๆ ต่อไปอีก ประการที่ 3 สังคมไทยควรจะใช้โอกาสนี้ ในการรณรงค์ให้มีการปฏิรูประบบการรักษาความปลอดภัยแก่ผู้หญิงและเด็กในการเดินทางโดยรถไฟ และรถสาธารณะอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นรถทัวร์ รถตู้ รถแท็กซี่ เรือ หรือแม้กระทั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ที่ทุกวันนี้ ต้องถือว่า มีระบบการรักษาความปลอดภัยที่หละหลวมและเสี่ยงที่จะเกิดเหตุเศร้าสลดทั้งที่เป็นอุบัติเหตุและคดีอุกฉกรรจ์ เช่น คดีข่มขืน ได้ตลอดเวลา ประการที่ 4 ประการสุดท้าย คือ ทำอย่างไรที่เราจะใช้โอกาสนี้ รณรงค์ใน 3 เรื่องข้างต้น เกิดผลอย่างจริงจังในทางปฏิบัติ และไม่กลายเป็นไฟไหม้ฟางไปเหมือนกับเรื่อง อื่นๆ ที่เมื่อเกิดขึ้นมาใหม่ คนก็ให้ความสนใจอยู่ระยะหนึ่ง พอมีข่าวอื่นที่สำคัญกว่า เรื่องนี้ ก็จะถูกลืมเลือน สิ่งที่เคยเป็นปัญหา ก็จะยังมีอยู่ต่อไป แล้ววันหนึ่ง เหตุสลดใจที่เกิดขึ้นในวันนี้ ก็อาจจะเกิดขึ้นซ้ำอีกในอนาคต ดังนั้น สิ่งที่สังคมไทยควรจะเรียนรู้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้มากที่สุด ก็คือ เราจะทำอย่างไร ให้เหตุการณ์เศร้าสลดแบบนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย อย่างที่ญาติของเด็กหญิงที่เสียชีวิต และหญิงที่เคราะห์ร้ายเมื่อ 13 ปีก่อน ต่างออกมาเรียกร้องกับสังคม โดยเฉพาะผู้ที่คิดจะกระทำความผิดในลักษณะเดียวกันนี้อีก ถ้าคนไทยสามารถเริ่มต้นรณรงค์ในเรื่องนี้ ให้สามารถเกิดผลที่เป็นรูปธรรมได้แล้ว เราก็น่าจะพอมีความหวังกับการเปลี่ยนแปลงหรือปฏิรูปประเทศในทุกๆ ด้าน ที่ทุกฝ่ายในสังคมไทยต่างเห็นพ้องต้องกัน แต่อาจจะยังมีความแตกต่างกันบ้างในเรื่องวิธีการที่จะไปสู่เป้าหมายดังกล่าว ทั้งนี้ ทั้งนั้น ข้อเรียกร้องที่จะให้คนไทยหันหน้ากลับมาเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพื่อร่วมกันเปลี่ยนประเทศไทยไปในทางที่ดีขึ้นนี้ แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ควรที่จะถูกนำมาบั่นทอนกำลังใจกับทุกฝ่ายที่กำลังพยายามที่จะลงมือทำ เพราะความตั้งใจดี ย่อมต้องมาควบคู่กับระบบตรวจสอบที่ดี มีความเข้าใจกันและกันอยู่เสมอ งานทั้งหลายที่เป็นเรื่องส่วนรวม จึงจะสำเร็จลงได้...


    ความคิดเห็นที่ 9  จากคุณ เฮียมหาโหด โคตรหมาฮา     11 ก.ค. 2557 04:22 น.

    กี้โดนพ่อหม่ำจัดหนักค่ะ เรื่องนี้รับบทเป็นอู้อี้ คุณหนูเอาแต่ใจ นางเอกหนังไทยที่ต้องโดนจับเป็นตัวประกัน เพราะเกิดความเข้าใจผิด กี้โดนพ่อหม่ำเตะ ประเคนฝ่าเท้า ฝ่ามืออรหันต์ ล้มเสร็จ เงยหน้ามา ตาก็ต้องเหล่ แล้วก็คลานเป็นหมา กี้ยอมในความอัจฉริยะของพ่อหม่ำจริงๆค่ะ คือต้องเท้าความว่า น้องเอ็ม (บุษราคัม วงษ์คำเหลา) ลูกสาวพ่อหม่ำ ติดต่อมา เพราะพิ้งกี้กับเอ็มเป็นเพื่อนกัน พ่อหม่ำปรึกษากับเอ็ม คิดว่าลองชวนกี้เล่นหนังเรื่องนี้ ถ้าได้ร่วมงานแล้ว คงเหมือนความฝันเป็นจริง กี้โดนปู้ยี่ปู้ยำ ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มถ่าย ต้องอยู่บนเรือ เริ่มจากการแต่งหน้าสวย แต่ต้องทำเลอะ อายไลเนอร์ดำ ทุกอย่างเปื้อน สภาพไม่มีดี ผมยุ่งไปหมด พอเสร็จจะเริ่มถ่าย กี้ก็อ่านบทเตรียมพร้อมมา แต่พอมาถึง ตัดทิ้งเลย เอาแบบสดๆ แล้วก็เอาคำพูดของพ่อหม่ำทุกคำเลย แล้วคำพูดแต่ละคำเนี่ยสุดๆ คือกี้ไม่เคยด่าคนมาก่อน คือคำแต่ละคำ กี้ไม่เคยได้ยินบนโลกนี้ จำได้ว่าถ่ายเสร็จเนี่ย ลงไปนอนแผ่เลย การด่าคนนี่มันไม่ง่ายเลยนะคะ แถมฉากบู๊ ก็โดนทั้งถีบ ทั้งต่อย ต้องแต่งหน้าเป็นคนบ้า ต้องสวมบทเป็นทาส ขัดรองเท้า กรีดยาง สารพัด เหนื่อยมาก เรื่องราวเกิดจากความเคียดแค้น โดยพ่อหม่ำจับกี้เป็นตัวประกันเพราะความแค้น เพราะพ่อหม่ำคิดว่ากี้ไปทำให้พี่สาวพ่อหม่ำฆ่าตัวตาย แล้วกี้เลยกลายเป็นเหยื่อ ถูกจับมาจองจำอยู่ในกระท่อม ก็เลยต้องโดนใช้งานสารพัด ตอนที่กี้ไปอยู่ที่เกาะ ก็ต้องเจอกลั่นแกล้งจากพี่อุ้มกับพี่อ๋อม ซึ่งสองคนนี้จะชอบพ่อหม่ำ เลยหาทางกลั่นแกล้งกี้ คาแร็คเตอร์สองคนนี้เด่นชัดมาก คือ ฉันร้าย ก็จะมีร้ายแบบมีมาด กับร้ายแบบชัดเจน เค้าก็จะคอยยุแยงตะแคงรั่ว คอยอิจฉากี้ มีอยู่ฉากนึงที่พี่อ๋อมต้องเตะท้องกี้ เสร็จแล้วมันก็ต้องหงายเงิบกันไปทั้งหมด แล้วพอพี่อุ้มล้ม ขาเหมือนเทกระจาด คือล้มกันไปหมดเลย ฉากในเรื่องนี้ เหมือนหนังกำลังภายใน คือตบแล้วกระเด็นไปไกลเลย จะอารมณ์เหมือนหนังพี่พันนา มีใช้สลิง โดนเตะ ทะลุประตูบ้าน ฉากเลิฟซีนกับพ่อหม่ำ อยากให้ไปติดตามดูฉากนี้ เพราะว่าฮามากๆ ดูแล้วไม่ได้รู้สึกว่าอีโรติกอะไร อย่างฉากที่ต้องเลิฟซีน ก็เป็นเลิฟซีนแบบที่รุนแรงแต่ตลก แล้วคำพูดในฉากเลิฟซีน พ่อหม่ำก็ช่วยดีไซน์คำพูดให้ ต้องลองดูกัน คนดูก็ต้องลุ้นระทึกค่ะว่า สุดท้ายพ่อหม่ำจะลงเอยกับกี้อย่างไร กี้ว่าอารมณ์หนังเรื่องนี้เข้าถึงง่ายกับคนดู มันเป็นอะไรที่หนังไทยชัดๆ เลยแบบนี้ เป็นเรื่องราวที่คนไทยเคยดู เป็นพระเอกโหดดึงนางเอกใสซื่อมาขังไว้ ด้วยไดอะล็อกต่างๆ กี้ว่ามันน่าสนใจ คือมันเป็นสไตล์ของพ่อหม่ำจริงๆ แล้วมันดูน่าสนใจมากค่ะ


    ความคิดเห็นที่ 8  จากคุณ 3 3 3     11 ก.ค. 2557 03:41 น.

    ละครไทย ความบันเทิงแบบไม่เสียเงินที่อยู่คู่คนไทยมาหลายสิบปี มาวันนี้กำลังถูกจับตามองอีกครั้ง หลังเกิดกรณี “น้องแก้ม” ถูกไอ้ชั่วข่มขืนแล้วสังหารบนรถไฟ คำถามที่คนในสังคมกลับมาให้ความสำคัญอีกครั้งคือ “ละครไทย” เป็นอีกหนึ่งสาเหตุหรือไม่ ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น โดยมุ่งเน้นไปที่ละครที่มีฉากข่มขืน ซึ่งมีให้เห็นกันอยู่ไม่ขาดระยะ ทั้งนี้การข่มขืนคือการล่วงละเมิดสิทธิขั้นรุนแรง คืออาชญากรรม แต่ในสื่อละครทีวี โดยเฉพาะละครหลังข่าว กลับมีเนื้อหาทำให้เชื่อว่าการข่มขืนเป็นธรรมดา (กรณีที่พระเอกข่มขืนนางเอก) ยังมีการข่มขืนเพื่อการแก้แค้น หรือลงโทษโดยตัวเอกหรือตัวร้ายก็ตาม หรือแม้แต่ในละครบางเรื่อง แสดงฉากบทพระเอกและหรือพระรอง ร่วมมือกับพนักงานโรงแรม เพื่อล่อลวงข่มขืนนางเอกหรือนางรอง สสส. เคยเผยผลการศึกษาพบกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของละครที่ฉายทั้งปีมีความรุนแรง ชิงรักหักสวาท กักขัง ข่มขืน ทั้งนี้ยังพบการสร้างปมอาฆาต แก้แค้น อิจฉาริษยา มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน การวางแผนฆ่า ซึ่งเป็นการทำความรุนแรงทั้งต่อร่างกาย จิตใจ เพศ ด้วยวิธีต่างๆ ซึ่งการใส่ฉากรุนแรงเหล่านี้ลงไป ด้วยเหตุผลเดียวคือ “เรตติ้ง” และแทบทุกเรื่องการข่มขืนในละครไม่ได้แสดงให้เห็นโทษภัย หรือชื้แนะว่าเป็นสิ่งไม่ควรกระทำ พระเอกไม่เคยรับโทษ หรือติดคุก ซึ่งอาจจะเป็นการสร้างทัศนคติที่ไม่ถูกต้องต่อสังคม ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ ทำให้เกิดคำถามดังๆขึนอีกครั้งว่า “ละครไทย” จะหยุดฉากข่มขืนและสร้างทัศนคติผิดๆ ให้กับสังคมได้หรือยัง ส่วนหนึ่งของละครที่มีฉากข่มขืน จำเลยรัก สวรรค์เบี่ยง เจ้าสาวบ้านไร่ เล่ห์รตี ไฟล้างไฟ เพลิงสีรุ้ง ร้อยเล่ห์เสน่ห์ร้าย แรงเงา ดาวพระศุกร์ อย่าลืมฉัน ไฟรักอสูร


    ความคิดเห็นที่ 7  จากคุณ อีกด้านของนางมารร้าย     11 ก.ค. 2557 03:32 น.

    จากข่าวสะเทือนขวัญ นายวันชัย แสงขาว ข่มขืนและฆ่า น้องแก้ม เด็กหญิงวัย 13 ปี ขณะนั่งรถไฟกลับบ้าน ได้จุดกระแสให้คนในสังคม เรียกร้องให้ผู้ก่อการณ์ลักษณะนี้ ต้องโทษประหารชีวิต ซึ่งเป็นอัตราโทษสูงสุดของคดีข่มขืน เพื่อยับยั้ง ป้องปราม ไม่ให้เกิดเหตุการณ์น่าสะเทือนใจกับบุคคลอื่น ต่อไปในอนาคต ซึ่งก็มีเหล่าดารานักแสดง ผู้มีชื่อเสียง ประชาชนทั่วไปสนับสนุนแนวคิดนี้เป็นวงกว้าง ในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2557 ผศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์จากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้แสดงความคิดเห็นเช่นกันในเฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant โดยระบุว่า โทษสูงสุดของการข่มขืนในต่างประเทศ ส่วนใหญ่ คือ จำคุกตลอดชีวิต เพราะถ้ากำหนดโทษประหารชีวิต จะทำให้คนร้ายกลัว แล้วฆ่าเหยื่อแทน ดังนั้น ทางออกที่พอทำได้ คือ หาบทลงโทษใหม่ ๆ เช่น ฉีดยาให้อวัยวะเพศฝ่อ แบบในเกาหลี หรือ ตัดอวัยวะเพศทิ้ง แบบในบังกลาเทศ แต่กฎหมายในประเทศไทย มีลดโทษให้คนที่รับสารภาพ ให้การอันเป็นประโยชน์ และมีลดหย่อนโทษเรื่อย ๆ ในวันสำคัญ ขณะที่ในต่างประเทศจะไม่ลดหย่อนโทษในคดีร้ายแรง ผศ.ดร.เจษฎา ยังมองอีกว่า “พระเอกที่ข่มขืนนางเอกในละครทีวี ควรต้องจับมาติดคุกในท้ายเรื่องด้วย” คนจะได้กลัวกัน “ไม่ใช่ว่าข่มขืนเสร็จแล้วเปลี่ยนใจมารักกันได้” จึงขอรณรงค์ให้“ดาราทุกคนเลิกรับเล่นละครที่มีฉากข่มขืน” เพราะถือเป็น“ต้นเหตุหนึ่งของการกดขี่ทางเพศในสังคมไทย” ดังข้อความต่อไปนี้ “เห็นหลายท่านรณรงค์ให้เพิ่มโทษของคนร้ายข่มขืนให้เป็นโทษประหารชีวิต .... ต้องเข้าใจก่อนนะว่ามันเป็น dilemma มาก ๆ ในเรื่องการกำหนดบทลงโทษสำหรับคดีต่าง ๆ อย่างเช่นเรื่องการข่มขืนเนี่ย จะเห็นว่าประเทศส่วนใหญ่ไม่ใช่การประหารชีวิตเป็นโทษสูงสุด แต่จะเป็นจำคุกตลอดชีวิต (ไม่ใช่ข่มขืนแล้วฆ่า หรือฆ่าแล้วไปข่มขืนศพ อันนี้มันโทษประหารอยู่แล้ว) ที่เป็นเช่นนั้น เพราะว่าถ้ากำหนดให้เป็นการประหารชีวิตแล้ว จะทำให้คนร้ายกลัวความผิดแล้วจะทำการฆ่าเหยื่อของตน ... ทางออกทางหนึ่งที่พอทำได้ คือ การหาบทลงโทษใหม่ ๆ สำหรับการข่มขืน เช่น การฉีดยาให้อวัยวะเพศฝ่อแบบในเกาหลี (หรือตัดทิ้งเลยแบบในบังกลาเทศ) ครับ ป.ล. ปัญหาของเรื่องนี้คือความปลอดภัยบนตู้รถนอนครับ ถ้าเคยขึ้นจะทราบเลยว่าน่ากลัวมาก/กฎหมายบ้านเราที่น่าเซ็งที่สุด คือ มีการลดโทษให้กึ่งหนึ่งสำหรับคนที่สารภาพหรือให้การอันเป็นประโยชน์ (แม้ว่าจะจำนนต่อหลักฐานก็ตาม) และแถมยังมีลดหย่อนโทษเรื่อย ๆ ตามวันสำคัญต่าง ๆ ด้วย ... ถ้าใช้ระบบในบางประเทศ จะไม่มีการลดหย่อนโทษให้ในคดีร้ายแรงครับ ป.ล. 2 พวกพระเอกในละครทีวี ที่ข่มขืนนางเอกเนี่ย ... ต้องจับมาติดคุกตอนท้ายเรื่องให้หมดนะครับคนจะได้กลัวกัน ... นี่อะไร ข่มขืนเสร็จ นางเอกดันเปลี่ยนใจมารักได้ ขอรณรงค์ให้คุณบุ๋มและดาราทุกท่าน เลิกรับเล่นละครทีวี ที่มีฉากข่มขืน ต้นเหตุหนึ่งของการกดขี่ทางเพศในสังคมไทย (ป.ล. ไม่ได้ค้านที่คุณบุ๋มรณรงค์นะครับ)”


    << 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11  12  13 14 >>